กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – นางอัชณา ลิมป์ไพฑูรย์ นายกสมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย คาดชิ้นส่วนยานยนต์ไทยปีนี้ทรงตัว ปีหน้าฟันธงโตไม่ถึงร้อยละ 5 ตามที่กระทรวงพาณิชย์คาดหวัง
นางอัชณา กล่าวว่า จากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวโดยเฉพาะกลุ่มตะวันออกกลางที่ได้รับผลกระทบทั้งราคาน้ำมันดิบลดลง ปัญหาการเมือง ทำให้การส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ได้รับผลกระทบ ภาพรวมปีนี้คงส่งออกไม่ขยายตัว โดยมีมูลค่าประมาณ 570,000 ล้านบาท ส่วนปี 2560 ทางกระทรวงพาณิชย์ได้หารือและขอให้ตั้งเป้าขยายตัวร้อยละ 5 แต่ภาพรวมจากการประเมินทั้งหมดน่าจะขยายตัวร้อยละ 2-3 ขณะเดียวกันทางด้านประเทศผู้รับสินค้าได้เน้นย้ำให้ผู้ผลิตคำนึงถึงการลดภาวะโลกร้อน ใช้เรื่องการปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เป็นตัวกำหนด ซึ่งทางกลุ่มชิ้นส่วนเน้นปรับปรุงให้ความสำคัญเรื่องนี้มาตลอด เช่น ดำเนินการมาตรฐานไอเอสโอ 14000 และอื่น ๆ
ส่วนตลาดในประเทศ ก็ยอมรับว่าเศรษฐกิจเช่นนี้ผู้ประกอบการชิ้นส่วนได้รับผลกระทบทั้งตลาดทดแทนและจำหน่ายรถยนต์สำเร็จรูป ซึ่งขณะนี้ผู้ประกอบการคาดหวังว่าการจำหน่ายรถยนต์จะเป็นไปตามที่กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ประเมินไว้ คือ จำหน่ายในประเทศ 750,000-780,000 คัน และส่งออก 1.2 ล้านคัน
นางอัชณา ยังยืนด้วยว่า จากภาวะการณ์เศรษฐกิจไทยและโลกชะลอตัว ทางกลุ่มชิ้นส่วนเห็นว่ารัฐบาลไม่ควรเร่งรัดเรื่องการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี เพราะจะกระทบต่อผู้ผลิตชิ้นส่วน 814 บริษัท แรงงานที่มีประมาณ 300,000 คน เนื่องจากจะต้องนำเข้าชิ้นส่วนมาใช้ทั้งการผลิตรถยนต์ ผลิตสถานีชาร์จไฟฟ้า ซึ่ง ทางสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ประเมินว่าต้องลงทุนประมาณ 400,000 บาท/สถานี นอกจากนี้ ต้องนำเข้าแบตเตอรี่ที่มีราคาสูง โดยรวมแล้วนอกจากจะกระทบผู้ผลิตชิ้นส่วนแล้วยังต้องนำเข้าชิ้นส่วนเพิ่ม จากขณะนี้มีมูลค่าการนำเข้าชิ้นส่วนอยู่ที่ 480,000 ล้านบาท
“เร็วเกินไปหากจะส่งเสริมอีวีเป็นโปรดักส์แชมเปี้ยนทันที ควรจะค่อย ๆ พัฒนา เพื่อให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนและตลาดปรับตัว เช่น พัฒนาเป็นรถไฮบริดก่อน ขณะที่รถอีวีก็น่าจะเริ่มจากรถบัสหรือมอเตอร์ไซค์ หากต้องการนำร่องเพื่อลดมลพิษ” นางอัชณา กล่าว.-สำนักข่าวไทย