สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าฯ เสนอรัฐบาลใหม่ ผลักดันส่งออก

กรุงเทพฯ 5 ก.ย. –สมาคมยานยนต์ไฟฟ้า เสนอรัฐบาลใหม่อุ้มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนในประเทศ ผลักดันไทยศูนย์กลางส่งออก ยอมรับลดราคารุนแรง พร้อมโรมมิ่งรวมแอปชาร์จไฟฟ้า เร่งเติมความรู้อู่ซ่อมรถยนต์ไฟฟ้า


นายสุโรจน์ แสงสนิท นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทยคนใหม่ กล่าวว่า จากปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว หนี้ครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูง ไฟแนนซ์ปฏิเสธให้กู้ จึงคาดว่ามียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเพียง 80,000 คัน จากเป้าหมายในปี 67 จำนวน 1 แสนคัน จึงเสนอรัฐบาลชุดใหม่เร่งแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน เพื่อเติมกำลังซื้อให้กับประชาชน การออกหลายมาตรการดึงดูดต่างชาติเข้ามาลงทุน เพื่อตั้งฐานการผลิตในประเทศ และส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าพวงมาลัยขวา ไปต่างประเทศ ทดแทนกำลังซื้อในประเทศซึ่งยังหดตัว เพื่อให้ไทยเป็นฐานการผลิตส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าเหมือนกับเคยเป็นเบอร์ 1 ส่งออกปิ๊กอัพไปต่างประเทศ

ยอมรับว่า ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าแข่งขันกันรุนแรงมาก บางค่ายปรับลดราคา 2.4-2.5 แสนบาทต่อคัน จึงกระทบต่อการตัดสินใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้าของประชาชน ขอแนะนำว่า รถยนต์ไฟฟ้าเหมือนกับเครื่องมือถือ ราคาจะไม่ปรับลดลงมาก เพราะยังมีต้นทุนการผลิต กรณีระบุว่ารถจีนล้นสตอก จึงมานำลดราคาในเมืองไทยนั้น ต้องดูว่าเป็นพวงมาลัยซ้าย หรือว่าพวงมาลัยขวา และอยากให้รัฐบาล กำหนดให้ใช้ชิ้นส่วนในประเทศเป็นหลัก ในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า การออกมาตรการดึงดูการลงทุนกับค่ายรถยนต์ขนาดใหญ่ระดับโลก เข้ามาตั้งฐานการผลิตในประเทศ


นายอุเทน สุปัตตุ อุปนายกสมาคมยายนต์ไฟฟ้าไทย ฝ่ายวิชาการและการพัฒนาบุคคลากร กล่าวว่า เมื่อรถยนต์ไฟฟ้ากำลังเป็นที่นิยม ตามกระแสประหยัดพลังงานและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวต้อง จึงต้องอบรม เติมความรู้ให้กับอู่ทั่วไป รองรับการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นในอนาคต เพราะเมื่อใช้รถเป็นเวลานาน พ้นกำหนดการรับประกันจากค่ายรถยนต์ ประชาชนจะวิ่งหาอู่รับซ่อมรถ ยอมรับระบบการซ่อมรถไฟฟ้า มีการเข้ารหัส มีกล่องควบคุม มีความซ้ำซ้อน การซ่อมจึงแตกต่างจากรถสันดาบเครื่องยนต์น้ำมัน จึงต้องเติมความรู้ให้กระจายออกไปมากขึ้น

นายจาตุรงค์ สุริยศศิน อุปนายกสมาคมยายนต์ไฟฟ้าไทย ฝ่ายพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน กล่าวว่า เมื่อมีการใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น รัฐบาลต้องดึงดูดให้ผู้ประกอบการตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้าสะดวกมากขึ้น สมาคมฯ พยายามโรมมิ่ง รวบรวมแอปฯ บริการชาร์จไฟฟ้ารถยนต์ของหลายราย ให้มารวมอยู่ภายในแอปฯ เดียว เพื่อให้รถยนต์ทุกค่ายใช้บริการได้เหมือนกัน และควบคุมค่าบริการให้มีมาตรฐานมากขึ้น จากปัจจุบันสถานีชาร์จไฟฟ้าคิดค่าบริการแตกต่างกันตามต้นทุน อีกทั้ง 3 การไฟฟ้า อย่าง กฟน., กฟผ., กฟภ. ยังได้หารือร่วมกันหาแนวทางรองรับวิกฤติการชาร์จไฟฟ้าในช่วงกลางคืน หากประชาชนชาร์จไฟฟ้าในช่วงกลางคืนจำนวนมาก เพราะมีราคาถูกเพียง 2.6 บาทต่อหน่วย จึงต้องหาทางป้องกันไฟตกไฟดับในช่วงกลางคืน.-515 -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม