ไทยครองแชมป์ ASEAN Energy Awards มากสุด

สิงคโปร์ 29 ต.ค. – กระทรวงพลังงานโชว์  21 ผลงานผู้ประกอบการไทยเข้ารับรางวัล ASEAN Energy Awards 2018 ที่สิงคโปร์ รักษาแชมป์อันดับหนึ่ง 9 ปีซ้อน ตอกย้ำความสำเร็จนโยบายขับเคลื่อนพลังงานไทย พร้อมรับไม้ต่อเป็นเจ้าภาพจัดประชุมรัฐมนตรีพลังงานอาเซียนปี 2562 ย้ำจุดยืนเดินหน้าส่งเสริมพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ชูจุดแข็งศักยภาพพลังงานทดแทนในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ  



นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยในการประชุมรัฐมนตรีพลังงานอาเซียน ASEAN Ministers on Energy Meetings – AMEM ครั้งที่ 36 ที่ประเทศสิงคโปร์  ว่า ปีนี้นับเป็นความสำเร็จของไทยอีกครั้งในเวที  ASEAN Energy Awards 2018 ที่มีการมอบรางวัลรวม 63 รางวัล โดยผู้ประกอบการไทยสามารถคว้ารางวัลด้านพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานได้ถึง 21 รางวัล จากการส่งเข้าประกวดทั้งสิ้น  25 ผลงาน โดยมีรางวัลที่ได้รับเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาและสูงสุดต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 นับตั้งแต่ปี 2553 ซึ่งสะท้อนให้ประเทศสมาชิกอาเซียนเห็นถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลและภาคเอกชนไทยในการขับเคลื่อนการพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน เพื่อความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ


“กระทรวงพลังงานขับเคลื่อนการส่งเสริมพลังงานทดแทนภายใต้แผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (AEDP) และการลดใช้พลังงานภายใต้แผนอนุรักษ์พลังงาน (EEP) ซึ่งเป็นแผนระยะยาว 20 ปี (พ.ศ.2558-2579) โดยไทยมีเป้าหมายชัดเจนในการส่งเสริมให้เกิดการลงทุน การพัฒนาและวิจัยเพื่อก่อให้เกิดความมั่นคงพลังงาน ลดการนำเข้าจากต่างประเทศ ความมุ่งมั่นดังกล่าวพิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพเอกชนไทยในเวที ASEAN Energy Awards ที่มีการจัดประกวดมาต่อเนื่องเป็นปีที่ 19 ซึ่งไทยได้ส่งผลงานเข้าประกวดมาตั้งแต่ปี 2543 และได้รับรางวัลบนเวทีอาเซียนมากที่สุดถึง 188 รางวัล รองลงมา อินโดนีเซีย 97 รางวัล และสิงคโปร์ 86 รางวัล ซึ่งปีนี้ไทยได้รับรางวัลอันดับสูงสุดเป็นปีที่ 9 ติดต่อกัน” นายศิริ กล่าว

สำหรับการประกวด ASEAN Energy Awards 2018 ปีนี้ครอบคลุม 2 หมวดหลัก คือ ด้านพลังงานทดแทน และการอนุรักษ์พลังงาน แบ่งเป็น 4 ประเภท ได้แก่ 1.การบริหารจัดการพลังงานดีเด่น 2.อาคารอนุรักษ์พลังงานดีเด่น  3.อาคารเขียวดีเด่น และ 4.โครงการพลังงานหมุนเวียนดีเด่น 

นอกจากนี้ ในปี 2562 ประเทศไทยได้รับมอบเป็นประธานอาเซียนและเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมรัฐมนตรีพลังงานอาเซียนครั้งที่ 37 ซึ่งไทยมีความพร้อมทั้งองค์ความรู้ การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีจนนำมาสู่การพัฒนาพลังงานทดแทนอย่างเป็นรูปธรรมต่อเนื่อง ทั้งการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนไม่ว่าจะเป็นพลังงานแสงอาทิตย์ ลม  ชีวมวล ก๊าซชีวภาพ ขยะชุมชน นอกจากนี้ ยังส่งเสริมให้เกิดการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพที่เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเกษตรของไทยที่สำคัญ ได้แก่ การผลิตเอทานอลจากอ้อยและมันสำปะหลัง การผลิตไบโอดีเซล จากปาล์มน้ำมัน เป็นต้น และด้านอนุรักษ์พลังงาน เช่น การจัดการพลังงาน การกำหนดมาตรฐานอาคารประหยัดพลังงาน การให้การสนับสนุนทางด้านการเงิน


“อาเซียนมีการเติบโตทางเศรษฐกิจต่อเนื่อง พลังงานจึงเป็นสิ่งสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและความยั่งยืน พลังงานทดแทนจึงเป็นเทรนด์ที่ทั่วโลกกำลังมุ่งก้าวไปเพื่อตอบโจทย์ของความมั่นคงและมีความยั่งยืนโดยเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อม ดังนั้น ศักยภาพของอาเซียนที่สมาชิกมีความหลากหลายทางภูมิศาสตร์ จึงมีศักยภาพต่อการเอื้อให้เกิดการพัฒนาพลังงานดแทนและแลกเปลี่ยนระบบพลังงานได้ในอนาคต” นายศิริ กล่าว

สำหรับช่วงเย็นวันนี้ (29 ต.ค.) จะมีพิธีมอบรางวัลโดยผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัลประเภทต่าง ๆ ในเวที ASEAN Energy Awards 2018 รวมทั้งสิ้น  21 รางวัล  แบ่งเป็นด้านพลังงานทดแทน  13 ผลงาน แบ่งเป็นรางวัลชนะเลิศ  6 ผลงาน 1.โรงไฟฟ้าชีวมวล ช้างแรก ไบโอเพาเวอร์ : บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)(ประเภท On-Grid : National Grid)  2. โรงไฟฟ้าชีวมวล พิจิตร ไบโอเพาเวอร์ : บริษัท พิจิตรไบโอเพาเวอร์ จำกัด (ประเภท On-Grid : National Grid) 3. โครงการผลิตก๊าซชีวภาพทดแทนเชื้อเพลิง LPG : บริษัท ไทยอีสเทิร์น ไบโอ พาวเวอร์ จำกัด (ประเภท Off-Grid : Thermal) 4. โรงงานเอทานอลมิตรผล ด่านช้าง : บริษัท มิตรผล ไบโอฟูเอล จำกัด (สุพรรณบุรี)  (ประเภท Biofuel) 5. โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม : บริษัท สงวนวงษ์ เอ็นเนอร์ยี จำกัด (ประเภท Cogeneration) 6. ระบบกำจัดก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ในก๊าซชีวภาพด้วยเทคโนโลยีสะอาดสำหรับเกษตรกรรายย่อยภายใต้แนวคิดธรรมชาติช่วยธรรมชาติ  คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ (ประเภท Special Submission)

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 จำนวน 4 ผลงาน 1. โครงการไฟฟ้าพลังน้ำระดับหมู่บ้านแม่กลองน้อย กำลังผลิต 20 kW หมู่บ้านแม่กลองน้อย ตำบลโมโกร อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก(ประเภท On-Grid : Local Grid) 2. โครงการนำระบบโซล่าร์ออฟกริดไปใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในธุรกิจห้องเย็น : บริษัท สินชัยห้องเย็น จำกัด (ประเภท Off-Grid : Power) 3. โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม บริษัท บุรีรัมย์เพาเวอร์ จำกัด : บริษัท บุรีรัมย์เพาเวอร์ จำกัด (ประเภท Cogeneration) 4. โรงงานผลิตเอทานอล : บริษัท แม่สอดพลังงานสะอาด จำกัด   (ประเภท Biofuel)   รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 จำนวน 3 ผลงาน 1. โครงการไฟฟ้าพลังน้ำระดับหมู่บ้านหมากลาง กำลังผลิต 25 kW หมู่บ้านหมากลาง ตำบลห้วยโป่ง อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน (ประเภท On-Grid : Local Grid) 2. โครงการผลิตก๊าซชีวภาพจากน้ำเสีย : บริษัท เคทิส ไบโอเอทานอล จำกัด (ประเภท Off-Grid : Power) 3. โครงการบ่อหมักก๊าซชีวภาพจากมูลสัตว์ทดแทน LPG สำหรับหุงต้ม ในครัวเรือนขององค์การบริหารส่วนตำบลคลองน้ำไหล : องค์การบริหารส่วนตำบลคลองน้ำไหล (ประเภท Off-Grid : Thermal) 

ด้านอนุรักษ์พลังงาน  8 ผลงาน แบ่งเป็น รางวัลชนะเลิศ  4 ผลงาน 1. บริษัท ริโก้ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ชนะเลิศ (Energy Management: Large Industry) 2. บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โปรดิ๊วส จำกัด (โรงงาน 2) (Energy Management: Small and Medium Industry) 3. โรงแรมอันดามัน คาเนเซีย รีสอร์ทแอนด์สปา : บริษัท ภูเก็ตคาเนเซีย จำกัด (Energy Management: Small and Medium Building) 4. บริษัท แพนดอร่า โพรดักชั่น จำกัด (Energy Management: Special Submission Industry)  รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 จำนวน 2 ผลงาน 1. โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา : สภากาชาดไทย (Energy Management: Large Building) 2. อาคาร KBTG : ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (Green Building) รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 จำนวน 2 ผลงาน 1. โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี : มูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย (Energy Management: Large Building) และ 2. อาคาร ซี.พี.ทาวเวอร์ 3 (พญาไท) : บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) (Energy Efficiency in Building: Retrofitted Building) . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

เพลิงไหม้หอพักพยาบาล รพ.ศิริราช

กทม. 29 มิ.ย. – เพลิงไหม้ภายในหอพักพยาบาล รพ.ศิริราช เจ้าหน้าที่คุมเพลิงได้แล้ว ช่วยผู้ติดค้างออกมาได้อย่างปลอดภัย วันที่ 29 มิถุนายน 2568 เวลา 12.30 น. รับแจ้งจากศูนย์วิทยุร่วมไทร เหตุเพลิงไหม้ภายในหอพักพยาบาล (แปดไร่) โรงพยาบาลศิริราช ถนนรถไฟ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยบางขุนนนท์ สปภ.กทม. ถึงที่เกิดเหตุ พบกลุ่มควันจำนวนมากบริเวณชั้นใต้ดิน จึงทำการตรวจสอบและอพยพผู้ที่ติดค้างด้านบนลงมา เวลา 12.55 น. พบจุดต้นเพลิงบริเวณชั้นใต้ดิน เจ้าหน้าที่ดำเนินการใช้น้ำทำการดับ มีผู้ติดค้างภายในลิฟต์ชั้นที่ 12 เจ้าหน้าที่และช่างลิฟต์ประจำอาคาร ได้ทำการช่วยเหลือออกมาได้อย่างปลอดภัย เวลา 13.04 น. เพลิงสงบ .-สำนักข่าวไทย

กองกำลังบูรพา ผ่อนผันให้รถขนส่งสินค้าผ่านแดน

29 มิ.ย.- กองกำลังบูรพา ผ่อนผันให้รถขนส่งสินค้า ผ่านเข้า-ออก 3 ด่านชายแดนไทย-กัมพูชา โดยจำกัดเวลา-จำนวนคัน เริ่มวันนี้ (29 มิ.ย.) และให้แล้วเสร็จใน 7 วัน ลดผลกระทบความเดือดร้อนของประชาชนตามหลักมนุษยธรรม กองกำลังบูรพา ออกประกาศ เรื่อง การควบคุมด่านชายแดนไทย-กัมพูชา 1. ตามที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาตรวจราชการ และประชุมหารือประเด็นผลกระทบมาตรการการควบคุมด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2568 โดยให้หน่วยงานความมั่นคง ประชุมหารือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการการควบคุมชายแดน และที่ประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ได้มีมติเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2568 ให้มีการผ่อนผันให้รถขนส่งสินค้าไทยที่ตกค้าง และรถขนส่งสินค้าตามใบขนสินค้าขาออก หรือใบขนสินค้าผ่านแดน ที่ได้ส่งข้อมูลเข้ามาในระบบคอมพิวเตอร์ของกรมศุลกากร ก่อนวันที่ 25 มิถุนายน 2568 ข้ามไปยังกัมพูชาและกลับเข้ามายังราชอาณาจักรไทย 2. เพื่อเป็นการลดผลกระทบความเดือดร้อนของประชาชนตามหลักมนุษยธรรม และเพื่อให้การปฏิบัติการควบคุมสอดคล้องกับการดำเนินการตามข้อ 1 กองกำลังบูรพา จึงขอประสานให้หน่วยที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้2.1 ให้ผ่านเข้า-ออก ณ จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี่ยน-สตึงบท ได้วันละไม่เกิน […]

นายกฯ นำรายชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว

เพื่อไทย 29 มิ.ย. – โฆษกพรรคเพื่อไทย เผยนายกฯ นำชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว รอหารือที่ประชุมพรรค 3 ก.ค.นี้ หลังมี สส.อีสาน ทวงเก้าอี้รองประธานสภาฯ คนที่ 2 นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความคืบหน้าการปรับคณะรัฐมนตรี ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนสำคัญ ทราบว่าทางทำเนียบรัฐบาลได้นำขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว ขอให้รอขั้นตอนต่อไปว่าจะมีการโปรดเกล้าฯ ลงมาเมื่อใด ส่วนกรณีมีกระแสข่าวว่า สส.ภาคอีสานพรรคเพื่อไทยทวงโควตาเก้าอี้รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 หลังผิดหวังจากโผ ครม. นายดนุพร กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องมีการพูดคุยกัน ซึ่งในการปรับคณะรัฐมนตรีทุกครั้ง ทุกพรรคมีแรงกระเพื่อมหมด ซึ่งแน่นอนว่ามีคนอยากเข้าไปทำงานเป็นเรื่องปกติ โดยในวันที่ 2 ก.ค.นี้ จะมีการประชุม สส.พรรคเพื่อไทย ก่อนเปิดสมัยประชุมสภาในวันที่ 3 ก.ค. จะมีการพูดคุยถึงขั้นตอนหลายๆ อย่าง ส่วนเรื่องการเลือกรองประธานสภาฯ คนใหม่ ได้รับแจ้งว่าน่าจะก่อนวันที่ 15 ก.ค. ส่วนพรรคเพื่อไทยจะส่งใครเป็นตัวแทน […]

ปชน.ประณามแกนนำม็อบปราศรัยเจตนาปูทางรัฐประหาร

พรรคประชาชน 29 มิ.ย.-พรรคประชาชน ประณามแกนนำผู้ชุมนุมปราศรัยปลุกปั่นชาตินิยม เจตนาปูทางรัฐประหาร ย้ำทางออกจากวิกฤตการเมือง คือ ยุบสภา เปิดทางเลือกตั้งใหม่  พรรคประชาชนแสดงความเห็นถึงการชุมนุมเมื่อวานนี้ (28 มิ.ย.) ว่า ความเห็นของพรรคประชาชนต่อการชุมนุมของ “คณะรวมพลังแผ่นดิน” การชุมนุมที่นำโดย “คณะรวมพลังแผ่นดิน” เมื่อวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมานี้ ณ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แม้จะมีข้อเรียกร้องอย่างเป็นทางการให้นายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ลาออก และให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวจากการสนับสนุนรัฐบาล ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องตามปกติในระบอบประชาธิปไตย แต่ปรากฏว่า การปราศรัยของแกนนำบนเวทีบางคนกลับมีเนื้อหาที่เปิดทางให้กับการรัฐประหาร รวมถึงมีการปลุกปั่นกระแสชาตินิยมที่เกินเลยขอบเขต  พรรคประชาชนขอประณามการสร้างความชอบธรรมให้กับการรัฐประหาร ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและระบอบประชาธิปไตยอย่างร้ายแรง  พรรคประชาชนขอเรียกร้องให้พี่น้องประชาชนที่สนับสนุนการชุมนุมด้วยความไม่พอใจต่อนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ถอนตัวจากการสนับสนุนคณะรวมพลังแผ่นดิน ที่มีแกนนำบางคนมีเจตนาสนับสนุนการรัฐประหารและการแทรกแซงการเมืองด้วยวิถีทางนอกประชาธิปไตย เพราะแม้ว่าการแสดงออกทางการเมืองด้วยการชุมนุมประท้วงจะเป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชน แต่พวกเราคนไทยต่างได้รับบทเรียนอย่างดีแล้วว่า 20 ปีที่ผ่านมา ประเทศชาติและประชาชนบอบช้ำเสียหายอย่างไม่อาจประเมินได้จากการรัฐประหาร 2 ครั้ง และปัญหาการเมืองของเราไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยวิถีทางนอกประชาธิปไตย ผลพวงจากการรัฐประหารกลับซ้ำเติมปัญหาการใช้อำนาจอย่างฉ้อฉล การคอร์รัปชัน กระบวนการยุติธรรมที่บิดเบี้ยว และการเอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้องและกลุ่มทุนผูกขาดเสียด้วยซ้ำ วันนี้เราต้องไม่ยินยอมให้ใครฉวยโอกาสเอาความผิดพลาดล้มเหลวของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล มาเปิดทางให้กับการรัฐประหารหรือการแก้ปัญหาการเมืองด้วยวิถีทางที่ขัดต่อประชาธิปไตยอีก ซึ่งมีแต่จะก่อวิกฤตซ้ำซ้อนทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น พรรคประชาชน ขอยืนยันว่า ทางออกจากวิกฤตการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ที่ดีที่สุด คือหนทางปกติตามระบบรัฐสภา […]