fbpx

สธ.เข้มรพ.ทุกแห่ง ใช้ยาสมเหตุผล

สธ.28 ต.ค.-ปลัด สธ.ให้ รพ.ทุกแห่งใช้ยาสมเหตุผล ลดการใช้ยาปฏิชีวนะโดยไม่จำเป็นในโรคทางเดินหายใจส่วนบน-อุจจาระร่วงเฉียบพลัน-แผลสดอุบัติเหตุ คลอดปกติฯลฯ และพัฒนาระบบการจัดการการดื้อยาต้านจุลชีพอย่างบูรณาการใน รพ.ใหญ่ 125 แห่ง    ผู้ป่วยปลอดภัย ลดการป่วยจากเชื้อดื้อยาลงร้อยละ 50 ลดปริมาณการใช้ยาปฏิชีวนะลงร้อยละ20 ในปี 64 


นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งการโรงพยาบาลในสังกัด 1,000 แห่ง และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับตำบล 10,000 แห่งทั่วประเทศ ดำเนินการตามนโยบายการใช้ยาอย่างสมเหตุผลภายใต้แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบยาแห่งชาติ โดยในปี 2562 เน้นใน 2 เรื่อง คือ 1.ลดการใช้ยาปฏิชีวนะโดยไม่จำเป็นในโรคทางเดินหายใจส่วนบน อุจจาระร่วงเฉียบพลัน แผลสดอุบัติเหตุ คลอดปกติ เพื่อลดความเสี่ยงเชื้อดื้อยา ซึ่งที่ผ่านมาพบว่าการใช้ยาปฏิชีวนะในโรงพยาบาลรัฐมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง 

และ2.ส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผลในผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ได้แก่ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน และผู้ป่วยกลุ่มพิเศษที่มีความเสี่ยง ได้แก่ ผู้สูงอายุ สตรีตั้งครรภ์ ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง ผู้ป่วยที่ต้องใช้ยาอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง ได้แก่ ผู้ป่วยที่ได้รับยาต้านไวรัสเอดส์หรือยาต้านวัณโรค เพื่อให้การใช้ยาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และผู้ป่วยได้รับความปลอดภัยจากการใช้ยา  


นพ.สุขุมกล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันเร่งขับเคลื่อนการดำเนินงานการจัดการการดื้อยาต้านจุลชีพ ตามแผนยุทธศาสตร์การจัดการการดื้อยาต้านจุลชีพประเทศไทย พ.ศ.2560-2564 ได้ให้โรงพยาบาลขนาดใหญ่ในสังกัด ทั้งในกรุงเทพมหานครและภูมิภาค จำนวน 125 แห่ง พัฒนาระบบการจัดการการดื้อยาต้านจุลชีพอย่างบูรณาการตั้งแต่ระบบเฝ้าระวังทางห้อง ปฏิบัติการ การควบคุมกำกับการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างเหมาะสมโดยเฉพาะยากลุ่มสงวนสำหรับเชื้อดื้อยา ระบบเตือนเมื่อตรวจพบเชื้อดื้อยาและเชื่อมโยงกับระบบป้องกันและควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อดื้อยาในโรงพยาบาลรวมทั้งการส่งต่อผู้ป่วย ตั้งเป้าหมายในปี 2564 ปริมาณการใช้ยาปฏิชีวนะลดลงร้อยละ 20 การป่วยจากเชื้อดื้อยาลดลงร้อยละ 50 และลดค่าใช้จ่ายด้านยาที่ไม่เหมาะสม  .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลุยเชียงใหม่ร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง ฟื้นฟูหลังน้ำลด

“อนุทิน” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ร่วมทีม จนท.-กู้ภัย-อาสาสมัคร “บิ๊กคลีนนิ่ง” ฟื้นฟูเมืองหลังน้ำลด เร่งจ่ายเยียวยาผู้ประสบภัย