นิวยอร์ก 27 ก.ค.- นิตยสารไทม์ของสหรัฐลงบทความวิเคราะห์สถานการณ์ไทยกับกัมพูชาในขณะนี้ว่า เป็นเรื่องอื่นที่มีความสำคัญมากกว่าเรื่องดินแดน บทความของชาร์ลี แคมป์เบลล์ บรรณาธิการอาวุโสระบุว่า เหตุทะเลาะเบาะแว้งเรื่องดินแดนที่เกิดขึ้นทั่วโลก เห็นได้ชัดว่ามีเหตุจำนวนมากที่เป็นการเบี่ยงเบนด้วยกระแสคลั่งชาติ (jingoistic distraction) แม้เหตุเหล่านี้อาจเกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติ แต่การปะทะที่ยืดเยื้อมักเกิดขึ้นจากจุดประสงค์ที่ชัดเจน บทความเล่าถึงการปะทะที่เกิดขึ้นใกล้ปราสาทตาเมือนธมเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ทำให้พลเรือนในไทยเสียชีวิต 1 คน ทหารเสียชีวิต 1 นาย เป็นเหตุให้มีการตอบโต้กันทั้งทางการทหารและทางการทูตจนถึงขณะนี้ นายแคมป์เบลล์ระบุว่า ปัญหาบริเวณชายแดนที่ทั้ง 2 ประเทศมีพรมแดนติดกันยาว 817 กิโลเมตรไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนงุนงงกับการปะทะล่าสุด คือ การที่สองตระกูลทรงอิทธิพลทางการเมืองของสองประเทศกลับกลายมาเป็นปรปักษ์กัน ทั้งที่เคยสนิทสนมกันมาก่อน ผู้เขียนชี้ว่า มีปัจจัยไม่กี่อย่างที่จูงใจอย่างชัดเจนให้นายฮุน เซน อดีตผู้นำกัมพูชาทำให้เหตุทะเลาะครั้งนี้ยืดเยื้อ หนึ่งในนั้น คือ สภาพเศรษฐกิจกัมพูชาขณะนี้ไม่ดีนัก เขาอาจใช้โอกาสนี้เปิดทางให้นายฮุน มาเนต บุตรชายได้แสดงความเป็นผู้นำในฐานะนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้นายฮุน เซนยังอาจต้องการเบี่ยงเบนเรื่องที่บุตรชายล้มเหลวในการแก้ปัญหา “โรคหลอกลวงระบาด” (scamdemic) ตามที่สหประชาชาติเรียกขาน ประเมินกันว่า ธุรกิจผิดกฎหมายในกัมพูชา ทั้งบ่อนกาสิโน การค้ามนุษย์ และแก๊งคอลล์เซ็นเตอร์ครองสัดส่วนถึงร้อยละ […]