กรุงเทพฯ 26 ต.ค.- คุมวิน จยย.ทำแผนวิ่งราวสร้อยทองกว่าแสนบาทจากห้างเซ็นจูรี่ สารภาพเอาไปแต่งเมีย ขณะที่พนักงานร้านสุดทนตบศรีษะไปหนึ่งทีระบายความแค้น
พลตำรวจตรีเสนิต สำราญสำรวจกิจ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 คุมตัวนายจิรวัฒน์ ศรีวงศ์ หรือเนม อายุ 36 ปี ชาวจังหวัดพะเยา อาชีพขับวินจักรยานยนต์รับจ้างใกล้ห้างเซ็นจูรี่ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาในข้อหาวิ่งราวทรัพย์ หลังช่วงเย็นเมื่อวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
โดยผู้ต้องหาทำทีเข้าไปขอลองสร้อยคอทองคำน้ำหนักประมาณ 5 บาทพร้อมจี้ น้ำหนัก 2 สลึงรวมมูลค่าประมาณกว่า 1 แสนบาท ภายในร้านห้างเพชรทองศรีโต๊ะกัง ในห้างสรรพสินค้าเซ็นจูรี่ โดยผู้ต้องหามาขอลองสร้อยเส้นดังกล่าวถึง 3 รอบ อ้างว่าเป็นเจ้าของร้านอาหารในย่านราชเทวีและภรรยาต้องการจะเปลี่ยนสร้อยคอทองคำ จนกระทั่งรอบสุดท้ายผู้ต้องหาอาศัยจังหวะที่ รปภ.และพนักงานขายหน้าร้านเผลอชิงทองแล้วรีบวิ่งไปขี่รถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ข้างห้างหลบหนี ก่อนจะเดินทางไปที่จังหวัดเพชรบูรณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำภาพจากกล้องวงจรปิดและลายนิ้วมือที่เก็บได้ไปตรวจสอบกับทะเบียนประวัติของคนร้ายจนพบว่าผู้ต้องหาเคยถูกดำเนินคดีในข้อหาเมาแล้วขับ จึงนำภาพมาให้ผู้เสียหายดูและยืนยันว่าเป็นผู้ก่อเหตุ จึงติดตามไปจับกุมได้ที่บ้านพักในจังหวัดเพชรบูรณ์
ขณะทำแผน พนักงานขายทองเกิดความโมโหจึงใช้มือตบไปที่ศีรษะผู้ต้องหา 1 ที และตะโกนบอกให้ถอดหมวกกันน็อคออกมาให้เห็นหน้า ตำรวจจึงต้องรีบกันตัวออกไป
สอบสวน นายจิรวัฒน์ ยอมรับที่ตัดสินใจวิ่งราวเพราะเหลือเวลาอีก 1 วันจะเข้าพิธีแต่งงานที่จังหวัดเพชรบูรณ์ จึงตัดสินใจชิงสร้อยคอทองคำเพื่อนำไปเป็นสินสอดหลังก่อเหตุนำสร้อยคอไปขายที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ช่วงแรกก็คิดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่น่าจะตามมาจับกุมตัวได้ แต่ตัวเองคิดผิด ทั้งนี้ยังฝากขอโทษไปถึงพนักงานขายและเจ้าของร้านที่ทำให้เดือดร้อน
ส่วนพนักงานขายร้านทอง เล่าว่า ไม่คิดว่าผู้ต้องหาจะมาวิ่งราวทรัพย์ เพราะไว้ใจแต่เมื่อผู้ต้องหาเข้า- ออกร้านถึง 3 รอบจึงเริ่มผิดสังเกตและแจ้งให้ รปภ.ของทางร้านจับตาดู แต่ก็พลาดเพียงแค่พริบตาคนร้ายก็วิ่งออกจากร้านไป ยอมรับว่าตัวเองพลาดที่ให้ผู้ต้องหาลองสวมสร้อยคอทองคำ แต่เมื่อทราบข่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมคนร้ายได้ก็รู้สึกดีใจและขอบคุณที่ตำรวจจับกุมคนร้ายได้
ด้านพลตำรวจตรีเสนิต ฝากเตือนไปถึงเจ้าของร้านทองและพนักงานขายให้ระมัดระวังลูกค้าที่มีพฤติกรรมน่าสงสัย หากมีการขอลองสินค้าบ่อยหลายครั้งให้จับตามองเป็นพิเศษ หากสังเกตผิดปกติให้รีบกดปุ่มนิรภัยล็อคประตูหรือแจ้งเตือนให้เจ้าหน้าที่มาจัดการทันที และในช่วงขณะนี้ใกล้ที่จะเปิดเทอมปลายภาคก็อาจมีคนตัดสินใจคิดสั้นเข้ามาวิ่งราวหรือขโมยของภายในร้านได้ จึงต้องตรวจสอบกล้องวงจรปิดให้ใช้การได้ 100% เพื่อใช้เป็นพยานหลักฐานในการติดตามจับกุมตัวคนร้าย.-สำนักข่าวไทย