ประกาศเขตควบคุมศัตรูพืชป้องกันโรคใบด่าง

กรุงเทพฯ 25 ต.ค. – กระทรวงเกษตรฯ ประกาศเขตควบคุมศัตรูพืช ป้องกันการแพร่ระบาดโรคใบด่างมันสำปะหลัง ตั้งวอร์รูมเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ยังไม่พบโรคในจังหวัดเสี่ยงตามแนวชายแดน


นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานประชุมร่วมกับกรมวิชาการเกษตร กรมส่งเสริมสหกรณ์ และสมาคมมันสำปะหลัง 4 แห่ง เพื่อกำหนดมาตรการเฝ้าระวังโรคใบด่างมันสำปะหลัง ซึ่งกำลังระบาดอย่างรุนแรงในประเทศเพื่อนบ้าน ว่า ได้สั่งการให้กรมวิชาการเกษตรและกรมส่งเสริมการเกษตรส่งเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครเกษตรสำรวจพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังทั่วประเทศรวมกว่า 3.1 ล้านไร่ ซึ่งดำเนินการสำรวจไปแล้ว 1.87 ล้านไร่ พบต้นที่มีอาการใบด่างคล้ายโรคใบด่างมันสำปะหลังที่เกิดจากเชื้อไวรัส Sri Lankan cassava mosaic virus (SLCMV)  22 ต้นในพื้นที่ 906 ไร่ ซึ่งได้ถอนทำลายต้นที่แสดงอาการใบด่างเรียบร้อยแล้ว และเข้าไปติดตามการระบาดทุก 2 สัปดาห์ ยกเว้นพื้นที่หมู่ 3 และหมู่ 6 ตำบลกรอกสมบูรณ์  อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี  

ทั้งนี้ จากการสำรวจพบการระบาดกระจายเป็นบริเวณกว้างในพื้นที่ 850 ไร่ จึงจำเป็นต้องออกประกาศกรมวิชาการเกษตรกำหนดเขตควบคุมศัตรูพืช พ.ศ.2561 เพื่อห้ามไม่ให้บุคคลใดนำพืช ศัตรูพืช หรือพาหะออกไปนอกหรือนำเข้ามาในเขตควบคุมศัตรูพืชพื้นที่ทั้ง 2 หมู่บ้านตามประกาศเป็นแหล่งผลิตพันธุ์มันสำปะหลังที่สำคัญแหล่งหนึ่ง ซึ่งสามารถกระจายพันธุ์ไปปลูกต่อในพื้นที่ได้ถึง 50,000 ไร่ หากมีการขนย้ายไปปลูกในแหล่งอื่นอาจทำให้โรคแพร่กระจายออกไปเป็นวงกว้าง


นางสาวเสริมสุข สลักเพ็ชร อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า โรคใบด่างมันสำปะหลังมีสาเหตุเกิดจากเชื้อไวรัส SLCMV สามารถทำลายมันสำปะหลังได้ทุกระยะการเจริญเติบโต มีแมลงหวี่ขาวเป็นพาหะ หากพบต้นมันที่เป็นโรคต้องทำลายทิ้ง ไม่เช่นนั้นจะทำให้ผลผลิตผลผลิตเสียหายเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่ปี 2558-2561 โรคใบด่างมันสำปะหลังระบาดในประเทศเพื่อนบ้าน กรมวิชาการเกษตรได้เฝ้าระวังโรคไม่ให้เข้ามาในประเทศไทย โดยเข้มงวดการนำเข้ามันสำปะหลัง จัดทำมาตรการด้านวิชาการ ด้านกฎหมาย และแผนปฏิบัติการฉุกเฉินในกรณีเกิดการแพร่ระบาดของโรคใบด่างมันสำปะหลังขึ้นในประเทศไทย พร้อมทั้งสร้างการรับรู้โดยประชุมชี้แจงกับผู้เกี่ยวข้องและดำเนินการสำรวจและเฝ้าระวังโรคใบด่างมันสำปะหลังในพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังทั่วประเทศ 50 จังหวัดอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงจังหวัดที่อยู่บริเวณชายแดน

ล่าสุดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้สั่งการให้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการ (วอร์รูม) เฝ้าระวังการแพร่ของโรคจากประเทศเพื่อนบ้านมายังไทยอย่างเข้มงวด ให้หน่วยงานในพื้นที่สำรวจพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังทั่วประเทศ โดยแบ่งพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังออกเป็น 3 ระดับ คือ พื้นที่เสี่ยงมาก ได้แก่ พื้นที่ติดชายแดนในภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างรวม 6 จังหวัด และแหล่งจำหน่ายพันธุ์ พื้นที่เสี่ยงปานกลาง ได้แก่ พื้นที่ติดชายแดนในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนรวม 11 จังหวัด และ พื้นที่เสี่ยงน้อย ได้แก่ พื้นที่ปลูกมันสำปะหลังทั่วไป  31 จังหวัด โดยดำเนินการให้เสร็จภายในเดือนตุลาคมนี้ ส่วนพื้นที่ทั่วไปเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายน รวมทั้งประสานผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศพื้นที่แพร่ระบาดกรณีต้องทำลายมันสำปะหลังเป็นเขตภัยพิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2556 เพื่อจะได้สนับสนุนเงินชดเชยให้แก่เกษตรกรไร่ละ 1,148 บาท ไม่เกิน 30 ไร่

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ขอความร่วมมือเกษตรกรไม่ให้นำเข้าท่อนพันธุ์จากประเทศเพื่อนบ้านมาปลูก ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดโรคเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. กักพืช พ.ศ. 2507 และย้ำว่าท่อนพันธุ์มันสำปะหลังในไทยมีเพียงพอ นอกจากนี้ ทางสมาคมมันสำปะหลังยังเตรียมไว้ 3.9 ล้านท่อน เพื่อใช้ปลูกในฤดูกาลเพาะปลูกมันสำปะหลังใหม่ในเดือนมกราคม อีกทั้งกรมส่งเสริมการเกษตรจะชี้แหล่งท่อนพันธุ์สะอาดปราศจากโรคให้เกษตรกรไปซื้อได้ ปัจจุบันราคาท่อนละ 50 สตางค์และได้เตรียมท่อนพันธุ์จากศูนย์วิจัยของกรมไว้ส่วนหนึ่งเพื่อสนับสนุน โดยระยะเวลาปลูกมันสำปะหลังจนถึงเก็บเกี่ยวได้ประมาณ 9 เดือน 


ทั้งนี้ ยืนยันว่าอาการผิดปกติของต้นมันสำปะหลังที่พบขณะนี้คล้ายโรคใบด่าง แต่เมื่อตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการยังไม่พบเชื้อไวรัสก่อโรค ซึ่งการตรวจในห้องปฏิบัติการสามารถทราบผลได้ภายใน 1 วัน หากยืนยันเป็นโรคใบด่างเจ้าหน้าที่จะต้นทิ้งทันทียกแปลง จากนั้นจะต้องตรวจสอบดินอีก 2 ครั้งใน 1 เดือน หากไม่พบเชื้อและพาหะสามารถปลูกใหม่ได้ ทั้งนี้ ขอความร่วมมือเกษตรกรหากพบอาการผิดปกติของต้นมันสำปะหลัง ใบด่าง เสียรูปทรง ให้แจ้งเกษตรตำบล เกษตรอำเภอ และเกษตรจังหวัดในพื้นที่ทันที เพื่อให้การควบคุมการระบาดทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

ด้านสมาคมมันสำปะหลังทั้ง 4 แห่งจะช่วยเข้าไปสร้างการรับรู้แก่เกษตรกร เพื่อให้ตระหนักว่าหากเกิดโรคต้องแจ้งเจ้าหน้าที่เกษตรทันที ทั้งนี้ ไทยส่งผลิตมันสำปะหลังได้ประมาณ 30 ล้านตัน ส่งออกเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ 40 ล้านตัน โดยมีการนำเข้าหัวมันสำปะหลังจากกัมพูชาและลาว กรมวิชาการเกษตรยืนยันว่าเชื้อไวรัสก่อโรคไม่ได้ปนเปื้อนที่หัวมันสำปะหลัง ทางสมาคมมันสำปะหลังจะรับซื้อหัวมันจากแปลงที่ถูกทำลายต้น แต่หัวมันยังไม่เสียหายเป็นกรณีพิเศษ โดยโรงงานจะรับซื้อหัวมันที่มีเชื้อแป้งอย่างน้อย 25 % กิโลกรัมละ 2.98 บาท แต่หากเชื้อแป้งต่ำกว่านี้ปกติโรงงานจะไม่รับซื้อ แต่ระยะนี้จะรับซื้อจากเกษตรกรเป็นกรณีพิเศษในราคาที่เหมาะสม แต่หากเชื้อแป้งเกินกว่า 25% จะเพิ่มราคาให้อีก ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เป็นแรงจูงใจให้เกษตรกรปิดบัง หากพบอาการน่าสังสัยของมันสำปะหลัง เนื่องจากเกรงจะถูกทำลาย เพราะหัวมันยังขายได้และกรณีต้องทำลายทั้งแปลงจะมีค่าชดเชยจากรัฐ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สุดยื้อ! ด.ช.5 ขวบ น้ำหนัก 50 กก. อาหารติดคอดับ

เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามปั๊มหัวใจเด็กชายวัย 5 ขวบ น้ำหนัก 50 กิโลกรัม อาหารติดคอ แต่สุดยื้อ เสียชีวิต ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัว

เจอร่างใต้ตึกถล่ม

เจออีก 4 ร่างใต้ซากตึกถล่มโซน C จ่อนำเครนยักษ์เปิดพื้นที่

กู้ภัยเจอ 4 ร่างผู้สูญหายตึกถล่ม โซน C รอส่งนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ เตรียมนำเครนเข้ายกแผ่นปูนขนาดใหญ่ เปิดพื้นที่มากขึ้น

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

ปิดฉาก “มอเตอร์โชว์” ครั้งที่ 46 ยอดจองพุ่ง 7.9 หมื่นคัน โต 44.8%

ยอดจองรถยนต์ในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46” รวมทุกเซกเมนต์โตพุ่ง 44.8% หรือคิดเป็น 79,941 คัน โดยเป็น EV 65% ส่งผลให้ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยในปีนี้ยังคงอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ยอดผู้เข้าชมงานทั้งสิ้น 1.6 ล้านคน

ข่าวแนะนำ

เพลิงไหม้หม้อแปลงใหญ่สถานีย่อยแสนแสบ ทำไฟดับทั้งพระราม 9

ระทึก! เพลิงไหม้หม้อแปลงขนาดใหญ่ สถานีไฟฟ้าย่อยแสนแสบ ย่านดินแดง ทำไฟดับทั้งพระราม 9 ผู้คนโกลาหล ล่าสุด จนท.คุมเพลิงได้แล้ว อยู่ระหว่างตรวจสอบ แนะหลีกเลี่ยงเส้นทาง

วันที่ 12 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง.ถล่ม

วันที่ 12 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้าเคลียร์พื้นที่ต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริเวณปล่องบันไดหนีไฟ ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก

“เจ้าคุณธงชัย” มอบผ้ายันต์ “สำเร็จทุกสิ่ง” ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัย

“เจ้าคุณธงชัย” มอบผ้ายันต์ “สำเร็จทุกสิ่ง” ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัย เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.ถล่ม ด้านผู้ว่าฯ กทม. เตรียมทำบุญใหญ่ให้ผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์นี้

พบรถคนร้ายชิงทองจอดทิ้งก่อนเปลี่ยนชุดหลบหนี

แกะรอยล่าคนร้ายบุกเดี่ยวใช้ปืนจี้ชิงทองห้างทองกลางเมืองหาดใหญ่ กวาดไป 184 บาท มูลค่ากว่า 9 ล้านบาท ล่าสุดพบรถคนร้ายจอดทิ้งก่อนเปลี่ยนชุดหลบหนี