สุราษฎร์ฯ 24 ต.ค.-โรงพยาบาลเกาะพะงัน ประชาสัมพันธ์เตือนภัยจากการเก็บเห็ดมารับประทาน ล่าสุดพบผู้ป่วยเข้ารักษาแล้วกว่า 50 คน เข้าไอ.ซี.ยู. 2 คน ส่วนใหญ่เป็นคนงานก่อสร้าง และแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน
เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี พบผู้ป่วยมีอาการเมาเห็ดเข้ารักษาอาการที่โรงพยาบาลเกาะพะงัน และสถานพยาบาลเอกชน จำนวนกว่า 50 คนแล้ว และเข้าไอ.ซี.ยู 2 คน หลังจากที่ไปเก็บเห็ดพิษในป่ามารับประทาน ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่จะเป็นทั้งชาวบ้านในพื้นที่ คนต่างถิ่น และผู้ใช้แรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน
ขณะที่โรงพยาบาลเกาะพะงัน และเทศบาลตำบลเพชรพะงัน ออกประชาสัมพันธ์เตือนภัยตามชุมชน หมู่บ้าน และติดป้ายเตือนตามเส้นทางเข้าป่า เรื่องการเก็บเห็ดมารับประทานเพราะในช่วงฤดูฝนจะมีเห็ดหลากหลายชนิดขึ้นในป่าทั้งเห็ดที่กินได้และกินไม่ได้ ที่ผ่านมาเกือบทุกปีจะมีผู้ป่วยอาการสาหัสและเสียชีวิตจากการกินเห็ดป่ามีพิษ ขอให้ประชาชนในพื้นที่ปฏิบัติตามคำแนะนำ
ด้าน นพ.วรวุฒิ พัฒนโภครัตนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเกาะพะงัน เผยว่า สถานการณ์ของผู้ป่วยที่ได้รับพิษจากการกินเห็ดยังคงมารักษาอยู่เรื่อยๆ จากการประชาสัมพันธ์ไปก็พอได้ผลบ้างแต่ไม่เห็นผล 100% อีกทั้งในช่วงนี้เห็ดพิษตามป่าเกิดขึ้นเยอะเพราะจากสภาพอากาศที่อบอ้าวและมีฝนตกลงมาทำให้เห็ดเจริญเติบโตเพิ่มมากขึ้น
จากสถิติที่ผ่านมา เมื่อปี พ.ศ.2560 เกาะพะงันมีผู้ป่วยได้รับพิษจากเห็ดกว่า 30 คน ในจำนวนนี้มีผู้ป่วยเข้าไอ.ซี.ยู. 6 คน และมีผู้เสียชีวิต 1 คน ส่วนในปีพ.ศ.2561 ตั้งแต่ต้นปีมีผู้ป่วยได้รับพิษจากกินเห็ดป่าเห็ดเขาแล้วกว่า 50 คน โดยเฉพาะเดือนตุลาคมเดือนเดียวเพิ่มขึ้น 30 คน และเข้าไอ.ซี.ยู. 2 คน โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่จะไม่มีความรู้หรือสังเกตเห็ดชนิดไหนกินได้ หรือบางทีคนท้องถิ่นบอกว่าชาวบ้านเคยกินกันมาตั้งแต่สมัยก่อน เช่น เห็ดไข่เป็ดไข่ไก่ เห็ดผึ้ง
นพ.วรวุฒิ ยังบอกอีกว่า จากการขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านเห็ดพิษ ศูนย์ข้อมูลพิษวิทยา ได้แจ้งว่า การสังเกตเห็ดพิษด้วยตาเปล่านั้นดูได้ยากมาก เพราะเห็ดบางชนิดเหมือนแม้กระทั่งสี รูปร่าง และขนาด เห็ดที่เคยนำไปรับประทานได้แต่บางช่วงชีวิตของมันก็จะสร้างสปอร์ที่เป็นพิษขึ้นมาก็เป็นไปได้ ฉะนั้นจะต้องเอาเนื้อเยื่อเอาสปอร์ไปเพาะดูวิถีชีวิตของมันว่าเป็นเห็ดพิษชนิดไหน สำหรับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นสำหรับผู้ที่รับประทานเห็ดเข้าไปแล้วมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เวียนหัว ท้องเสีย ปวดท้อง หายใจติดขัด ให้สงสัยว่ากินเห็ดพิษเข้าไปต้องให้ผู้ป่วยอาเจียนเอาสารพิษออกมาให้มากที่สุด และนำตัวไปพบแพทย์ให้ทำการรักษาให้เร็วที่สุด ถ้าปล่อยไว้อาจจะเสียชีวิตได้.-สำนักข่าวไทย