ทำเนียบ 24 ต.ค.-นายกฯ หารือนายกฯ มาเลเซีย ร่วมสร้างทศวรรษใหม่แห่งความสัมพันธ์ไทย-มาเลย์ เดินหน้ากระบวนการพูดคุยสันติสุขต่อไป ร่วมมือผลักดันการค้าระหว่างกัน เปิดด่าน 24 ชม.เพิ่มมูลค่าการค้า
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. พร้อมด้วย มหาธีร์ บิน โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย แถลงข่าวภายหลังหารือข้อราชการร่วมกัน โดย พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลไทยยินดีและเป็นเกียรติที่ได้ต้อนรับนายกรัฐมนตรีมาเลเซียและภริยาที่เดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ และในสมัยที่ มหาธีร์ เคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของความสัมพันธ์ไทย-มาเลเซีย ซึ่งการกลับมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาเลเซียในครั้งนี้ ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีและจะทำงานร่วมกันเพื่อสร้างทศวรรษใหม่แห่งความสัมพันธ์ไทย-มาเลเซีย ที่ทั้งสองประเทศจะร่วมมืออย่างใกล้ชิดและเกิดผลเป็นรูปธรรม
สำหรับการหารือข้อราชการ ทั้งสองฝ่ายได้หารือรายละเอียดใน 3 ประเด็น คือ 1. การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้และความร่วมมือด้านความมั่นคง โดยฝ่ายไทยถือว่าจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นปัญหาภายใน แต่ความร่วมมือจากต่างประเทศก็จะทำให้การแก้ไขปัญหาทำได้ง่ายขึ้น โดยในกระบวนการพูดคุยสันติสุขที่มีฝ่ายมาเลเซียเป็นผู้อำนวยความสะดวกและเป็นผู้ประสานงาน จะดำเนินการต่อไป โดยอยู่บนพื้นฐานและกรอบของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย รวมถึงจะขยายความร่วมมือในการเสริมสร้างความมั่นคงชายแดน โดยเฉพาะการต่อต้านการก่อการร้ายและแนวคิดสุดโต่ง การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ยาเสพติดและการค้ามนุษย์
2.เรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจและความเชื่อมโยงตามแนวชายแดน เสนอให้สองประเทศยกระดับความร่วมมือทางเศรษฐกิจขึ้นเป็น หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจที่เข้มข้น เพื่อสร้างความมั่นคงมั่งคั่งและการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยทั้งสองประเทศจะร่วมมือกันผลักดันโครงการความร่วมมือที่คั่งค้างในหลายโครงการ และให้มีการประชุมระดับรัฐมนตรีภายในต้นปีหน้า เพื่อผลักดันเรื่องต่างๆให้คืบหน้า
3.เรื่องความร่วมมือในกรอบอาเซียนที่ปีหน้าไทยจะเป็นประธานอาเซียน มีเป้าหมายคือการก้าวสู่ประชาคมอาเซียนที่มีความเข้มแข็ง มีประชาชนเป็นศูนย์กลางและก้าวไปพร้อมกัน เป็นกลุ่มพลังที่สามารถร่วมมือกับความท้าทายต่างๆ
ในช่วงท้ายนายกรัฐมนตรี ได้ย้ำเจตนารมณ์ของรัฐบาลไทยที่จะทำงานกับรัฐบาลมาเลเซียอย่างใกล้ชิดในทุกระดับ เพื่อให้สองประเทศมีความสงบสุข มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีมีฐานะมั่นคงและยั่งยืน เจริญก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง
ด้านนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ขอบคุณที่นายกรัฐมนตรีไทยให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยไทยและมาเลเซีย มีความร่วมมือในทุกมิติอย่างใกล้ชิดและแข็งแกร่ง ที่ผ่านมามาเลเซียได้รับการสนับสนุนจากไทยในการแก้ปัญหาการก่อการร้าย และช่วยกันลดปัญหาอย่างจริงจัง เช่นเดียวกับมาเลเซียที่ยินดีสนับสนุนช่วยเหลือการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเชื่อว่าความร่วมมือระหว่างกันจะสามารถแก้ปัญหานี้ได้
ทั้งนี้สองประเทศประสานงานกันอย่างใกล้ชิดทุกด้าน โดยเฉพาะการค้า ที่ทั้งสองประเทศมีมูลค่าทางการค้าในปีนี้เพิ่มขึ้นถึง ร้อยละ 17 เป็นการค้าที่พัฒนาเชิงบวก สร้างมูลค่าทางการค้า ถึง 14,200 ล้านเหรียญสหรัฐ ดังนั้นจึงเห็นควรที่จะต้องมีการปรับปรุงด่านศุลกากรที่มีทั้ง 4 จุด ด้วยการเปิดด่านศุลกากร ตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ เห็นว่าต้องพัฒนาสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโกลก ไปยังรัฐกลันตัน แต่ทั้งนี้ ต้องมีการคุมเข้มจุดผ่านแดน เรื่องการลักลอบนำเข้าสินค้าผิดกฎหมาย และการค้ามนุษย์ ซึ่งรัฐบาลมาเลเซีย พร้อมที่จะตรวจสอบบุคคล 2 สัญชาติ และย้ำความร่วมมือเรื่องการแก้ปัญหาค้ามนุษย์ ที่ต้องมีการแก้ปัญหาและป้องกันไม่ให้ไทยและมาเลเซีย เป็นฐานของการค้ามนุษย์
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมาเลเซีย ยินดีให้ความร่วมมือกับอาเซียนในการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและพัฒนาประชาชนในอาเซียนภายใต้กรอบความร่วมมือต่างๆ และยินดีที่จะสร้างมิตรภาพให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้นำที่คุ้นเคย เพื่อแก้ปัญหาด้วยกันอย่างสำเร็จ
จากนั้น นายกรัฐมนตรีของไทยเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงอาหารค่ำ เพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ภริยาและคณะ ที่ตึกสันติไมตรีหลังนอก ทำเนียบรัฐบาล.-สำนักข่าวไทย