นครพนม 24 ต.ค.-ประเพณีไหลเรือไฟ จ.นครพนม ในคืนวันออกพรรษา เริ่มขึ้นแล้วอย่างยิ่งใหญ่สวยงามตระการตา โดยปีนี้ทางจังหวัดได้กระจายรางวัลมากขึ้น เพื่อให้กลุ่มเรือไฟขนาดเล็กมีขวัญกำลังใจในการสืบสานประเพณีสำคัญ
ไฟพระฤกษ์พระราชทานจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร นำความปลาบปลื้มมาสู่ชาวจังหวัดนครพนม ซึ่งตัวแทนเรือไฟแต่ละลำมาต่อไฟพระฤกษ์พระราชทาน นำมาจุดยังตะเกียงไฟดวงที่อยู่สูงสุด ก่อนช่วยกันจุดกระจายเต็มทั้งลำเรือไฟ
ขบวนแรกเป็นของอำเภอนาหว้า เริ่มจุดตั้งแต่เวลาประมาณ 17.30 น. ก่อนนำเรือกีบ และเรือ นรข. ลากออกไปกลางลำน้ำโขงห่างฝั่ง 100 เมตร สู่แนวทุ่นไฟบังคับร่องน้ำ แล้วเริ่มออกไหลโชว์นักท่องเที่ยวตั้งแต่เวลาประมาณ 18.00 น.ที่ผ่านมา โดยโครงร่างเป็นเรือสุพรรณหงส์ บริเวณหัวเรือเป็นลวดลายในหลวงรัชกาลที่ 10 สัญลักษณ์ประจำพระองค์ และราชวงศ์จักรี ส่วนกลางเป็นสัญลักษณ์ครบรอบ 232 ปี จังหวัดนครพนม ด้านท้ายเรือมีพญาศรีสัตตนาคราช ภายใต้แนวคิดใต้ร่มพระบารมีจักรีวงศ์
ส่วนภาพรวมเรือไฟทั้งหมด ลวดลายส่วนใหญ่ในปีนี้เน้นส่งเสริมการท่องเที่ยว แสดงสถานที่สำคัญของจังหวัดนครพนม และการแสดงออกถึงความรักในสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
ทางจังหวัดนครพนมพิจารณาแล้วเห็นว่าเรือไฟขนาดเล็กไม่สามารถแข่งขันกับเรือไฟขนาดใหญ่ได้ ปีนี้จึงเพิ่มรางวัลให้เรือไฟขนาดเล็กชิงชัยกันเอง 1 รางวัล จากเดิมที่มีเพียง 2 รางวัล จากเรือไฟทุกขนาด ประเภทสวยงาม และความคิดสร้างสรรค์ ทั้งนี้ เพื่อให้ศิลปินเรือไฟขนาดเล็กมีขวัญกำลังใจในการสืบสานงานประเพณีสำคัญ
สำหรับประเพณีไหลเรือไฟจัดขึ้นเพื่อบูชารอยพระพุทธบาทพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในวันออกพรรษา บูชาพญานาค และขอขมาพระแม่คงคา ตามคติความเชื่อของชาวบ้านยังถือว่าเป็นการเผาความทุกข์ให้ลอยไปตามสายน้ำด้วย
สมัยก่อนชาวบ้านจะใช้เรือไฟกาบกล้วยลอยของใครของมัน ต่อมาพระสงฆ์ และผู้นำท้องถิ่น เห็นว่าควรมีเรือไฟของส่วนรวม เพื่อสร้างความสามัคคีกลมเกลียว จึงพัฒนาเป็นเรือไฟโบราณ ก่อนที่จะปรับเปลี่ยนมาสู่เรือไฟประยุกต์เหมือนในปัจจุบัน ตั้งแต่ปี 2526 หรือ 35 ปีที่แล้ว.-สำนักข่าวไทย