แพทย์จุฬาฯ สร้างนวัตกรรมรักษามะเร็ง ปรับภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยมาต่อสู้กับมะเร็ง

รพ.จุฬาฯ 24 ต.ค.- แพทย์จุฬาฯ สร้างนวัตกรรมการรักษามะเร็ง หลักการพัฒนาการปรับระบบภูมิต้านทานมะเร็งด้วยการใช้ยาหรือพัฒนาเซลล์เม็ดเลือดขาวต้านมะเร็งของผู้ป่วยแต่ละราย ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายผู้ป่วยมาต่อสู้กับมะเร็ง  


ศ.นพ.สุทธิพงศ์ วัชรสินธุ คณบดี คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ และผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย กล่าวว่า โรคมะเร็ง เป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศไทยและทั่วโลก โรคมะเร็งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งแซงหน้าโรคหัวใจมานานกว่า 10 ปี ไทยจำเป็นที่จะต้องมีแผนระดับชาติในการต่อสู้กับโรคมะเร็งอย่างจริงจัง คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯและ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย มีศูนย์มะเร็งครบวงจรและศูนย์ความเป็นเลิศด้านต่างๆขึ้น และยังได้ร่วมเป็นสถาบันพันธมิตร กับสถาบันที่มีชื่อเสียงระดับโลกอีกจำนวนมากเพื่อสร้างผลงานวิจัยนวัตกรรมที่โดดเด่นสามารถเป็นต้นแบบในการดูแลรักษาโรคมะเร็ง 

โครงการนวัตกรรมทางด้านภูมิคุ้มกันบำบัดได้รับงบประมาณจากทั้งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและสภากาชาดไทย โดยเน้นงานวิจัยและพัฒนาเพื่อนำไปสู่การใช้ประโยชน์จริงต่อสังคม ซึ่งต้องใช้เวลานานและมีงบสนับสนุนต่อเนื่อง ล่าสุดจุฬาฯได้อนุมัติงบประมาณ 160 ล้านบาท/3 ปี เพื่อสนับสนุนศูนย์ความเป็นเลิศด้านภูมิคุ้มกันบำบัดมะเร็ง ของคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2560 เป็นต้นมา มีเป้าหมายในการผลิตต้นแบบของการใช้ภูมิคุ้มกันบำบัดในการรักษาโรคมะเร็งหลายชนิดในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม การลงทุนเพื่อผลิตยาต้องอาศัยทุนจำนวนมหาศาลและความร่วมมือจากทุกภาคส่วน คณะแพทยศาสตร์ได้ตั้งบัญชีเพื่อขอรับการสนับสนุนเพื่อการวิจัยมาแล้วหลายปีอย่างต่อเนื่อง ในครั้งนี้นับเป็นประวัติการณ์ที่ภาคประชาชนมีความสนใจสนับสนุนงานวิจัยอย่างล้นหลาม อยากเน้นให้ทุกคนเข้าใจว่างานนี้ยังอยู่ในขั้นต้นเท่านั้น ยังมีอีกหลายขั้นตอนที่เราจะต้องทำต่อเนื่องและต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกๆ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พวกเราทุกคนรู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของประชาชนคนไทยทุกคนเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมส่งกำลังใจและร่วมบริจาคเข้ามาที่ทีมวิจัยของคณะแพทยศาสตร์ จุฬา 


รศ.ดร.นพ.วิโรจน์ ศรีอุฬารพงศ์ หัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์โรคมะเร็งครบวงจร รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย กล่าวว่า ปัจจุบัน การรักษาโรคมะเร็งด้วยยาเคมีบำบัด แม้จะสามารถรักษาโรคมะเร็งหลายชนิดอย่างมีประสิทธิภาพและราคาไม่สูงมาก แต่มีข้อจำกัดที่สำคัญคือ ยาเคมีบำบัดออกฤทธิ์ทำลายเซลล์มะเร็งได้แต่ขณะเดียวกันก็ทำลายเซลล์ปกติของร่างกายบางอวัยวะ ต่อมาพัฒนาการรักษาโดยใช้ยามุ่งเป้า (targeted therapy) ซึ่งออกฤทธิ์จำเพาะกับมะเร็งชนิดที่มีการกลายพันธุ์ของยีนที่เป็นเป้าหมายในการออกฤทธิ์ของยาด้วยเช่นกัน แม้ว่าจะมีประสิทธิภาพสูง ตอบสนองได้นานกว่า และมีผลข้างเคียงที่น้อยกว่ายาเคมีบำบัด แต่มีข้อจำกัดสำคัญคือค่าใช้จ่ายที่สูงเฉลี่ยต่อเดือนตั้งแต่ 20,000 ถึง 150,000 บาท และเกิดการดื้อยาในที่สุด 

ความก้าวหน้าที่สำคัญที่สุดทางการแพทย์ในการรักษาโรคมะเร็งในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาพบว่า แท้จริงแล้วร่างกายของผู้ป่วยโรคมะเร็งจำนวนหนึ่ง มีการสร้างภูมิต้านทานมะเร็งด้วยเม็ดเลือดขาวชนิดทีเซลล์ (T cells) ได้ แต่เซลล์มะเร็งมีการส่งสัญญาณต่อต้านการทำงานของทีเซลล์ด้วยกลไกหลายๆ อย่าง จากความรู้ดังกล่าวทำให้ปัจจุบันมีการพัฒนาการปรับระบบภูมิต้านทานมะเร็งด้วยการใช้ยาหรือพัฒนาเซลล์เม็ดเลือดขาวต้านมะเร็งของผู้ป่วยแต่ละราย ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายผู้ป่วยมาต่อสู้กับมะเร็งได้ดีขึ้น มีประสิทธิภาพสูง ผลข้างเคียงน้อยกว่าการรักษาด้วยยามุ้งเป้าและยาเคมีบำบัด และผู้ป่วยที่ตอบสนองมักจะตอบสนองได้นาน แต่มีข้อจำกัดคือ ไม่ได้ผลกับมะเร็งทุกชนิด ไม่ได้ผลกับผู้ป่วยทุกราย ปัจจุบันยาดังกล่าวมีราคาจำหน่ายที่แพงมาก โดยเฉลี่ยค่าใช้จ่ายตั้งแต่ 150,000 ถึง 300,000 บาทต่อการรักษา 1 ครั้ง และอาจต้องให้ต่อเนื่องเป็นระยะเวลาถึง 2 ปี ทำให้การเข้าถึงยากลุ่มนี้สำหรับประชาชนทั่วไปเป็นไปได้ยากหรือเป็นไปไม่ได้เลย 

นพ.ไตรรักษ์ พิสิษฐ์กุล หัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาเชิงระบบ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า เราต้องสร้างยาแอนติบอดีรักษามะเร็งขึ้นเองในประเทศไทยเนื่องจากขณะนี้เราต้องนำเข้ายาแอนติบอดีรักษามะเร็งจากต่างประเทศ 100% ดังนั้นยากลุ่มนี้จึงมีราคาแพงมาก ค่าใช้จ่ายในการรักษาผู้ป่วยสูงกว่า 8 ล้านบาทต่อราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่เข้าไม่ถึง เบิกไม่ได้ การผลิตยาใช้เองในประเทศจะทำให้สามารถควบคุมราคาค่ารักษาให้ต่ำกว่ารายละ 1 ล้านบาท สามารถเพิ่มโอกาสให้คนไทยทุกคนเข้าถึงยาแอนติบอดีรักษามะเร็งที่มีราคาถูกลงได้ นอกจากนี้การสร้างยาแอนติบอดีรักษามะเร็งจะสร้างผลดีต่อประเทศโดยรวมในด้านต่างๆ ได้แก่ 1) ลดค่าใช้จ่ายในการซื้อยาจากต่างประเทศ 2)  สร้างอุตสาหกรรม Biologics ที่มีศักยภาพสูง 3) ลดการสูญเสียทางเศรษฐกิจจากการป่วยเป็นมะเร็ง  


ขณะนี้ทางศูนย์วิจัยสามารถผลิตยาแอนติบอดีต้นแบบได้แล้วหนึ่งตัว จากผลในหลอดทดลองพบว่ายาต้นแบบของเรามีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับยาจากต่างประเทศ ซึ่งนับได้ว่าเราประสบความสำเร็จในเฟสแรก ขณะนี้เรากำลังเร่งผลิตยาต้นแบบเพิ่มอีกหลายตัวเพื่อเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จและกำลังก้าวเข้าสู่เฟสที่2ซึ่งเป็นการพัฒนายาแอนติบอดีต้นแบบที่ผลิตจากเซลล์หนูทดลองให้มีความคล้ายคลึงกับแอนติบอดีของมนุษย์ ในเฟสที่สองนี้จะต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการประมาณ 1 ปีและต้องการเงินลงทุนประมาณ 10 ล้านบาท ถ้าการพัฒนาแอนติบอดีในเฟสที่สองประสบความสำเร็จ ในเฟสที่สามจะเป็นการผลิตยาในโรงงานเพื่อให้ได้ยาในปริมาณมากซึ่งจะใช้ระยะเวลาในขั้นตอนนี้ประมาณ 18 เดือนและต้องการเงินลงทุนประมาณ 200 ล้านบาท หลังจากนั้นในเฟสที่สี่จะเป็นการทดสอบยาในสัตว์ทดลองเพื่อดูประสิทธิภาพและผลข้างเคียงซึ่งต้องใช้เวลาทดสอบประมาณสองปีและต้องการเงินลงทุนประมาณ 100 ถึง 200 ล้านบาท ในขั้นสุดท้ายเฟสที่ห้าจะเป็นการทดลองในมนุษย์ซึ่งต้องใช้เวลาในการดำเนินการ 4-5 ปี และต้องการเงินลงทุนประมาณ 1000 ล้านบาท  .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย

ไทยเตรียมประท้วง UN หากทุ่นระเบิดเป็นของใหม่

18 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่นรอผลตรวจสอบกับระเบิดทำทหารไทยขาขาด หากเป็นของใหม่ จะเสนอประท้วงไปยังยูเอ็น ขอให้มีมาตรการคว่ำบาตรกัมพูชา ทำผิดอนุสัญญาออตตาวา กรณีทหารเหยียบกับระเบิด บนเนินช่องบก จ.อุบลราชธานี คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จะชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือของเก่า แต่มีคำยืนยันว่าไทยไม่เพิกเฉยเรื่องนี้แน่นอน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า หากผลพิสูจน์ชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ จะใช้กลไกกองทัพบกประสานต่อกระทรวงต่างประเทศ ให้ยื่นประท้วงกัมพูชาต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการคว่ำบาตรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาออตตาวา ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เป็นสมาชิกที่มีเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ส่วนมาตรการตอบโต้อย่างอื่น ยังบอกไม่ได้ สำหรับบริเวณช่องบก จุดเกิดเหตุระเบิดจนทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 3 นาย จุดนั้น เป็นพื้นที่สู้รบเก่าที่สามารถพบทุ่นระเบิดเก่าได้ ซึ่งวันนี้ ทางชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดซึ่งทั่วโลกยอมรับ ได้ลงพื้นที่พิสูจน์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ทั้งนำมาวางไว้ก่อน หรือหลังเหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนในพื้นที่ ได้กำชับกำลังพลทุกนายให้เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยังพูดถึงประเด็นดราม่า […]

บ้านดอนตัน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังจมน้ำ

น่าน 18 ก.ค. – “บ้านดอนตัน” จ.น่าน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังคงจมน้ำ น้ำใจหลั่งไหลเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รวมทั้งเยาวชนฝีพายเรือแข่งอำเภอท่าวังผา ขนน้ำดื่มลงเรือแจกจ่ายช่วยชาวบ้าน สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.น่าน ยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะที่บ้านดอนตัน หมู่ 4 ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา ชาวบ้านกว่าร้อยหลังคาเรือนยังอาศัยอยู่ท่ามกลางน้ำท่วมขัง ระดับน้ำในพื้นที่สูงกว่า 1 เมตร ประชาชนต้องย้ายสิ่งของขึ้นชั้น 2 เพื่อความปลอดภัย ส่วนผู้อาศัยอยู่ในบ้านชั้นเดียว ต้องอพยพไปพักอยู่กับญาติในพื้นที่ใกล้เคียง หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชนและจิตอาสา ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยจัดส่งอาหาร น้ำดื่มและสิ่งของจำเป็น โดยเฉพาะเยาวชนฝีพายเรือแข่งจากบ้านสบหนอง อำเภอท่าวังผา นำเรือออกให้ความช่วยเหลือในการขนส่งน้ำดื่มและอาหารไปยังบ้านที่ถูกน้ำล้อม เพื่อส่งต่อถึงผู้ประสบภัยที่ยังติดอยู่ในบ้าน ผู้ใหญ่บ้านดอนตัน เปิดเผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มทรงตัวและ มีแนวโน้มลดลง แต่บริเวณท้ายหมู่บ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและอยู่ติดแม่น้ำยังคงมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะในพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ทั้งไร่ข้าวโพดและลำไย รวมกว่า 2,000 ไร่ ถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด ขณะที่หมู่บ้านใกล้เคียงในพื้นที่ ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา ได้แก่ […]