พิพากษายืนจำคุก 10 เดือน “สุพจน์ ทรัพย์ล้อม” ฐานปกปิด-แสดงบัญชีทรัพย์สินเท็จ

กทม. 18 ต.ค. – วันนี้ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์พิพากษายืนจำคุก 10 เดือน ห้ามดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่รัฐ 5 ปี นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม ฐานปกปิดและแสดงบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จ


ผ่านมากว่า 1 ปี สำหรับการพิจารณาการยื่นอุทธรณ์ของนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ในผลคำพิพากษาขององค์คณะศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2560 ที่พิพากษาจำคุกนายสุพจน์ ตามกฎหมาย ป.ป.ช. ปี 2542 มาตรา 119 ฐานจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินหนี้สินและเอกสารประกอบอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงกรณีพ้นจากตำแหน่ง โดยอ้างต่อศาลว่า ตามกฎหมาย ป.ป.ช. ปี 2561 มาตรา 105 วรรค 3 ที่บัญญัติว่าไม่ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินหลังพ้นตำแหน่งเป็นเวลา 1 ปี แต่องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์เห็นว่า แม้กฎหมาย ป.ป.ช. ปี 2561 มาตรา 3 จะให้ยกเลิกกฎหมาย ป.ป.ช. ปี 2542 แต่มาตรา 188 บัญญัติว่า ในกรณีที่ ป.ป.ช.มีมติว่าจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จก่อนที่กฎหมายนี้จะบังคับใช้ ก็ให้ใช้บังคับได้ ดังนั้นจึงถือว่ากฎหมายเดิมมีผลบังคับใช้อยู่


นอกจากนี้ องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ยังเห็นว่า ตามกฎหมาย ป.ป.ช.ปี 2542 ต้องยื่นบัญชีแสดงทรัพย์สิน แต่ปรากฏว่าไม่ได้ยื่น ทั้งที่เป็นผู้บริหารระดับสูงแต่กระทำผิดเสียเอง จึงนับว่าเป็นพฤติการณ์ร้ายแรง ยังไม่เป็นเหตุผลเพียงพอให้รอการลงโทษ อุทธรณ์ และคำขอให้ลงโทษสถานเบา รวมทั้งรอการลงโทษ จึงฟังไม่ขึ้น ศาลพิพากษายืนให้จำคุก 10 เดือน ห้ามดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ 5 ปี และให้คืนหลักประกัน 2 ล้านบาทกับนายสุพจน์ ที่ก่อนหน้านี้ใช้ยื่นประกันตัวตามสิทธิในรัฐธรรมนูญ ภายหลังคำตัดสินของศาล เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายสุพจน์ไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เพื่อรับโทษตามคำพิพากษาซึ่งถึงที่สุดแล้ว 

กรณีนี้เกิดขึ้นจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดร่ำรวยผิดปกติ และจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินเท็จเกี่ยวกับเงินจำนวน 17 ล้านบาท และรถโฟล์กสวาเกน รวมมูลค่าทั้งสิ้น 20 ล้านบาท สืบเนื่องจากหลังเกิดเหตุคนร้ายบุกปล้นบ้านนายสุพจน์ย่านลาดพร้าว ซึ่งผู้ที่ร่วมทำผิดให้การว่าพบเงินสดในบ้านนายสุพจน์นับร้อยล้านบาท แต่นายสุพจน์ไม่สามารถชี้แจงที่มาของทรัพย์สินดังกล่าวได้ จึงเป็นเหตุให้ต้องโทษจำคุกในวันนี้. – สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชนแล้วหนี! 2 หนุ่มกลัวถูกจับดึงสลักระเบิดดับ

2 หนุ่มชนแล้วหนี โบกรถมาขึ้นสามล้อเครื่อง ตำรวจตามกระชั้นชิด ตัดสินใจดึงสลักระเบิด แต่สะดุดล้มระเบิดตูมสนั่นดับ 1 ส่วนอีกคน ถูกจับโดยละม่อม

“ไบเดน” เปิดทำเนียบขาวต้อนรับ “ทรัมป์” ถกถ่ายโอนอำนาจ

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐเปิดห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาวหารือนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดี ซึ่งต่างให้คำมั่นการถ่ายโอนอำนาจจะเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด

“อี้ แทนคุณ” เผยคดีใหม่ “ฟิล์ม” ชวนลงทุนคล้าย forex เสียหายกว่า 60 ล้าน

“อี้ แทนคุณ” เผยคดีใหม่ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ชักชวนลงทุนในดูไบ คล้าย forex ความเสียหายกว่า 60 ล้านบาท ขณะที่อีกฝ่ายอ้างนำเงินไปลงทุนจริงแต่ขาดทุน

ข่าวแนะนำ

“หนุ่ม กรรชัย” งดเคลียร์ “ฟิล์ม” ย้ำดำเนินคดีถึงที่สุด

“หนุ่ม กรรชัย” ประกาศตัดสัมพันธ์ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ย้ำดำเนินคดีถึงที่สุด งดเคลียร์ ซัดเป็นคนไร้ศักดิ์ศรี ชี้เรื่องนี้ไม่ต้องเตือน ให้ย้อนไปดูที่บ้านได้สั่งสอนหรือไม่

เริ่มแล้ว ประเพณียี่เป็งหรือลอยกระทงเชียงใหม่

ประเพณียี่เป็ง หรือลอยกระทง จ.เชียงใหม่ ปีนี้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งเต็มไปด้วยแสงสีจากแสงไฟที่ประดับไปทั่วเมือง และความงดงามทางวัฒนธรรมมากมาย ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย

“จิราพร” สั่งตรวจสอบปมคลิปเสียงอ้างชื่อ-จ่อแจ้งความเอาผิด

“จิราพร สินธุไพร” ยืนยันไม่รู้จักนักร้องเรียนหญิง ที่แอบอ้างว่าเป็นคณะทำงาน ประสานฝ่ายกฎหมายเร่งตรวจสอบคลิปเสียง เพื่อแจ้งความดำเนินคดี

“หนุ่ม กรรชัย” เข้าให้ปากคำปมถูกอ้างชื่อเรียกรับเงินบอส “ดิไอคอน”

“หนุ่ม กรรชัย” เข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบฯ ให้ปากคำกรณีถูกแอบอ้างชื่อเรียกรับเงินผู้บริหาร “ดิไอคอน”