อีไอซีแนะเตรียมรับมือสงครามการค้าและดอกเบี้ยขาขึ้น

กรุงเทพฯ 16 ต.ค. – อีไอซีมองเศรษฐกิจไทยขยายตัวต่อเนื่องแนะเตรียมรับมือสงครามการค้าและดอกเบี้ยขาขึ้น ด้านแบงก์กรุงไทยมองศก.ไทย ปีหน้าโต 4.3%  


นายยรรยง ไทยเจริญ รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุด Economic Intelligence Center (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ (จำกัด) มหาชน กล่าวว่า อีไอซีประเมินเศรษฐกิจไทยปี 2561 ขยายตัวร้อยละ 4.5 โดยได้รับแรงส่งจากอุปสงค์ด้านต่างประเทศต่อเนื่อง จากการส่งออกปีนี้ที่คาดขยายตัว ร้อยละ 8.5 ส่วนเศรษฐกิจปี 2562 ประเมินเศรษฐกิจขยายตัวร้อยละ 4 ชะลอลงจากปีก่อนหน้า และการส่งออกปี 2562 คาดขยายตัวร้อยละ 4.7 โดยการส่งออกไทยมีแนวโน้มชะลอลงตามเศรษฐกิจคู่ค้าสำคัญที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าและภาวะการเงินโลกตึงตัวขึ้น

ขณะที่การท่องเที่ยวเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลักในช่วง 4 – 5 ปีที่ผ่านมา และมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง คาดการท่องเที่ยวปีนี้ขยายตัว ร้อยละ 8 โดยในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2561 (มกราคม -สิงหาคม) มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยแล้วเกือบ 25.5 ล้านคน พร้อมยอมรับว่า อุบัติเหตุเรือท่องเที่ยวล่มที่จังหวัดภูเก็ต กระทบนักท่องเที่ยวจีนลดลงในช่วงเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม ติดลบ ร้อยละ -6 แต่มีนักท่องเที่ยวจากมาเลเซียและชาติอื่นๆมาทดแทน จึงไม่ส่งผลกระทบมากนัก แต่รัฐบาลควรเร่งสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยและการบริการ เชื่อมั่นทั้งปีจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 38 ล้านคน ส่วนปี 2562 คาดการท่องเที่ยวขยายตัว ร้อยละ 6 โดยได้รับผลกระทบจากนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลงและข้อจำกัดจากความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยวของสนามบินสำคัญต่างๆของไทย


สำหรับรายได้ภาคครัวเรือนไทยเริ่มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยต้องใช้เวลาอีกสักระยะก่อนที่การใช้จ่ายจะกระจายตัวและเร่งขึ้น ด้านแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของไทยกำลังจะเข้าสู่ช่วงขาขึ้น คาด คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กบง.) จะตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายประมาณ 2 ครั้ง ครั้งละร้อยละ 0.25 ในช่วงปลายปี 2561 หรือ ต้นปี 2562 เพื่อรักษาเสถียรภาพการเงิน

ส่วนการเลือกตั้งในปีหน้าจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน โดยคาดว่าการลงทุนภาคเอกชนปีหน้าจะขยายตัวร้อยละ 4 โดยการลงทุนภาครัฐจะขยายตัวค่อนข้างดี ส่วนทิศทางเศรษฐกิจหลังปี 2563 ขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่จะดำเนินการอย่างไร


ด้านนายพชรพจน์ นันทรามาศ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส สายงาน Global Business Development and Strategy ธนาคารกรุงไทย ประเมินจากรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (World Economic Outlook) เดือนตุลาคมปี 2018 ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ว่า IMF มองเศรษฐกิจไทยดีขึ้นกว่ารายงานเมื่อเดือนเมษายน โดยปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปีนี้เติบโต 4.6% จากเดิม 3.9% ซึ่งใกล้เคียงกับ Krungthai Macro Research ที่คาดปีนี้เติบโต 4.5% อย่างไรก็ตาม IMF ประเมินปีหน้าไทยเติบโต 3.9% ในขณะที่ Krungthai Macro Research มองปีหน้าเติบโต 4.3%

“IMF กังวลประเทศเกิดใหม่ กับผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนที่ยืดเยื้อ การปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของเฟด และการปรับพอร์ตสินทรัพย์เสี่ยงของนักลงทุน ซึ่งไทยก็อยู่ในกลุ่มนี้ แต่เศรษฐกิจไทยมีปัจจัยพื้นฐานดีกว่า EM ด้วยกันมาก เราจึงมองผลลบต่อเศรษฐกิจไทยไม่รุนแรงเท่า IMF”

ดร.พชรพจน์ นันทรามาศ กล่าวว่า  แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อของไทย เพิ่งเริ่มต้นเห็นสัญญาณการเพิ่มขึ้นชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core Inflation) ทำให้ Krungthai Macro Research คาดการณ์ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างค่อยเป็นค่อยไป สู่ระดับ 2.00% ในปีหน้า 

นายพชรพจน์ นันทรามาศ กล่าวต่อไปว่า ค่าเงินบาทยังคงมีทิศทางปรับตัวแข็งค่าในปีหน้า โดยคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากสภาพคล่องที่ยังคงมีอยู่ในระดับสูง จากการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของไทย แต่การแข็งค่าจะถูกจำกัดด้วย 3 ปัจจัยคือ ผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่มีส่วนทำให้การส่งออกของไทยเติบโตได้ไม่ดีเท่าปีนี้ เงินเฟ้อที่สูงขึ้น และรายได้จากนักท่องเที่ยวจีนที่ชะลอตัวลงในระยะนี้ Krungthai Macro Research แนะนำนักลงทุนและผู้ประกอบการให้ระมัดระวังความเสี่ยงจากค่าเงินบาทอ่อน จากภาวะตลาดโลกที่มีการปรับพอร์ตสินทรัพย์เสี่ยงลง ด้วยความกังวลเกี่ยวกับการปรับอัตราดอกเบี้ยของเฟด รวมทั้งการเมืองของสหรัฐฯ ก่อนการเลือกตั้งกลางเทอมในเดือนพฤศจิกายนนี้. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงนายก อบจ.เพชรบุรี แชมป์เก่ายังแรง

เลือกตั้งนายก อบจ.เพชรบุรี ไม่คึกคัก ผลไม่เป็นทางการ “ชัยยะ อังกินันทน์” แชมป์เก่า คะแนนนำทิ้งห่างคู่แข่ง ด้านเลขาฯ กกต. เผยภาพรวมทั้ง 3 จังหวัด คนมาใช้สิทธิน้อย คาดเบื่อเลือกตั้ง 2 รอบ

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

ลุ้นผลเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ขณะนี้การนับคะแนนตามหน่วยต่างๆ เสร็จสิ้นแล้ว อยู่ในขั้นตอนการรวมคะแนน ซึ่งในเขตเมือง ผลปรากฏว่าผู้สมัครจากพรรคประชาชนมีคะแนนนำ แต่อำเภอรอบนอก ตัวแทนพรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำอยู่หลายหน่วยเลือกตั้ง

เร่งประสานอินเตอร์โพลขอหมายแดงล่าตัว “หมอบุญ”

ตำรวจเตรียมออกหมายจับเครือข่าย “หมอบุญ” ฉ้อโกง ลอต 2 รวมทั้งเร่งประสานอินเตอร์โพล ออกหมายแดงล่าตัว “หมอบุญ” กลับมาดำเนินคดี