วิษณุ แจงตั้งแต่ 12 ก.ย.คดีความมั่นคงขึ้นศาลยุติธรรม

visanu - 25-5-2558 18-33-50ทำเนียบ13 ก.ย.- วิษณุ แจงตั้งแต่ 12 ก.ย.คดีความมั่นคงขึ้นศาลพลเรือน คดีที่อยู่ในศาลทหารเดิม ไม่สามารถโอนมาศาลปกติได้  ชี้ทหารยังมีอำนาจจับกุมเช่นเดิม


นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกคำสั่งที่ 55/2559 เลิกใช้ศาลทหารตัดสินคดีความมั่นคง ของพลเรือน โดยกลับไปใช้ศาลยุติธรรมตามปกติ ว่า คดีทั้งหมดแบ่งเป็น 4 ประเภท ประกอบด้วย คดีตามความผิดมาตรา 112 มาตรา 116 เกี่ยวกับวัตถุระเบิด อาวุธปืน ดอกไม้เพลิง และคดีที่เกี่ยวกับการขัดคำสั่ง คสช. ที่จากเดิมให้ขึ้นศาลทหาร เปลี่ยนให้มาขึ้นศาลยุติธรรมหรือศาลพลเรือนแทน  มีผลตั้งแต่วันที่ 12 กันยายน ที่มีการประกาศใช้คำสั่งหัวหน้า คสช.หากมีการกระทำผิดก็จะต้องไปขึ้นศาลพลเรือน ส่วนคดีเดิมที่อยู่ในศาลทหาร ไม่สามารถโอนมาศาลปกติได้เนื่องจากบางคดีก็มีการสืบพยานไปแล้ว หากโอนมาจะทำให้เกิดความยุ่งยาก

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทั้งนี้คดีที่อยู่ในศาลทั้งหมดมี 1,500 คดี และพิจารณาแล้วเสร็จ 1,000 คดี ค้างอยู่ อีก 500 คดีที่อยู่ระหว่างการพิจารณา ส่วนผู้ที่กระทำความผิดโดยเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กับพวกที่ต้องรับผิดตาม พ.ร.บ.ธรรมนูญศาลทหาร คือผู้ที่กระทำผิดในพื้นที่ที่มีการประกาศใช้กฎอัยการศึก คือ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กับทหารที่ทำความผิด ทั้งหมดก็ต้องขึ้นศาลทหาร


นายวิษณุ กล่าวว่าสำหรับหรับขั้นตอนการจับกุมนั้น เจ้าหน้าที่ทหารยังคงมีอำนาจเช่นเดิม เพียงแต่จับแล้วก็ต้องนำส่งศาลพลเรือน ทหาร ตำรวจ ยังมีอำนาจในการเข้าจับกุมด้วยกัน ของเดิมจับเสร็จแล้วส่งไปที่อัยการทหาร แล้วส่งต่อไปยังศาลทหาร ส่วนของใหม่จับเสร็จแล้วก็ส่งตัวไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วส่งต่อไปยังอัยการและศาลพลเรือน ดังนั้นจากนี้ต่อไปคดีต่างๆ ไม่ว่าจะคดีหมิ่น คดีที่ผิดมาตรา 112 วัตถุระเบิด อาวุธปืน ดอกไม้เพลิง และคดีที่เกี่ยวกับการขัดคำสั่ง คสช.จะส่งไปยังศาลยุติธรรม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยิงสส.กัมพูชา

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” ดับกลางกรุงเทพฯ

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ดับใกล้วัดดังกลางกรุง พบเหยื่อมีบทบาทในการตรวจสอบรัฐบาลฮุนเซน

ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงเพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม

ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดการประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา เพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม พร้อมกำหนดบทลงโทษหากพบเข้าไปข้องเกี่ยว

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา-วอศ.สระบุรี ชนะเลิศแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา และ วอศ.สระบุรี ชนะเลิศในการแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025 ณ เมืองฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ยันรัฐบาลพร้อมสนับสนุนเยาวชน พลังสำคัญของชาติ

นายกฯ มอบโอวาทเด็กและเยาวชนดีเด่น นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ ขอให้ทุกคนภาคภูมิใจ มีสติ และรู้คุณค่าในตัวเอง มั่นใจเป็นพลังสำคัญให้กับประเทศชาติ ยืนยันรัฐบาลพร้อมสนับสนุนด้านการศึกษา และการประกอบอาชีพ

ซิงซิง

ผลมติพบ “ซิงซิง” ตกเป็นผู้เสียหายค้ามนุษย์-ปลอดภัยดี พร้อมกลับบ้าน

“ซิงซิง” ตกเป็นผู้เสียหายค้ามนุษย์ หลังผลมติคัดแยก-คัดกรองออกแล้ว ล่าสุดเจ้าหน้าที่ส่งตัวเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองแล้ว ให้ พม.ดูแลต่อ ขณะที่ทีมกฎหมายของดาราจีน เผยเจ้าตัวปลอดภัยดี พร้อมกลับบ้าน

เลือกตั้ง อบจ.

กกต.เปิดตัว “หมูเด้ง” เชิญชวนประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง อบจ.

กกต.จัดกิจกรรม kick off เปิดตัว “หมูเด้ง” เชิญชวนประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง อบจ. ภายใต้แนวคิด “สร้างสรรค์ประเทศไทย พร้อมใจไปเลือกตั้ง” ด้าน “อิทธพร” ให้ความมั่นใจพร้อมจัดการเลือกตั้งอย่างสุจริต