fbpx

ผีน้อยแห่เช็กข้อมูล หลังเกาหลีใต้เปิดทางกลับไทย ไม่โดนแบล็กลิสต์

โซล 3 ต.ค. – แรงงานผิดกฎหมายในเกาหลีใต้ แห่สอบถามข้อมูล หลัง ตม. เกาหลีเปิดโอกาสกลับไทย โดยไม่มีแบล็กลิสต์ เผย พ.ย.นี้ เร่งกวาดล้างแรงงานเถื่อน เริ่มที่นวดและบริการอื่นๆ


น.ส.พินยุดา แจ่มจันทร์ศรี อัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายแรงงาน ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า ศูนย์ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) กระทรวงยุติธรรม เกาหลีใต้ได้ออกประกาศให้แรงงานต่างด้าว ที่ทำผิดกฎหมายกลับประเทศของตนเองได้โดยสมัครใจ ตั้งแต่ตุลาคม 2561-31 มีนาคม 2562 โดยทางการเกาหลีใต้จะไม่ส่งรายชื่อให้ทางราชการ ไม่มีการขึ้นแบล็กลิสต์ และให้โอกาสกลับมาทำงานอย่างถูกกฎหมายได้ แต่หากไม่กลับประเทศ แล้วถูกจับกุม จะถูกส่งตัวกลับ และห้ามเข้าประเทศเกาหลีใต้นานถึง 10 ปี ซึ่งเป็นโทษสูงสุด  ซึ่งหลังจากมีข่าวนี้ออกไป มีแรงงานไทยติดต่อสอบถามเข้ามาเป็นจำนวนมาก เพราะครั้งนี้ถือว่า เปิดโอกาสมากกว่าทุกครั้ง เพราะปีก่อนก็เคยมีประกาศลักษณะนี้ แต่มีระยะเวลาประมาณ 3 เดือนเท่านั้น   


สำหรับผู้ที่สมัครใจเดินทางกลับ สามารถนำตั๋วเครื่องบินและหนังสือเดินทางที่ยังไม่หมดอายุไปแสดงตนที่สำนักงานงานตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบินหรือท่าเรือ โดยต้องมาถึงก่อนออกเดินทางอย่างน้อย 4 ชั่วโมง ซึ่งจะไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ อีก

ปัจจุบัน แรงงานไทยที่หลบหนีเข้าเมืองเกาหลีใต้อย่างผิดกฎหมาย มีจำนวนประมาณ 335,455 คน เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว คือ เพิ่มขึ้นประมาณ 87,000 คนต่อปี สาเหตุที่คนไทยลักลอบไปทำงานที่เกาหลีใต้ เพราะค่าจ้างสูงกว่าไทยมาก เช่น คนไทยได้ค่าแรงขั้นต่ำ 310 บาทต่อวัน แต่ที่เกาหลีคิดเป็นรายชั่วโมง คือ 225 บาทต่อ ชม. ถ้าทำ 8 ชม. ก็จะได้ค่าแรงประมาณ 1,800 บาทต่อวัน และปีหน้าจะขยับเป็น 250 บาทต่อ ชม. ทั้งนี้แรงงานไทยที่ถูกกฎหมายที่มีอยู่ประมาณ 25,000 คน จะส่งเงินกลับบ้านได้ประมาณ 4-5 หมื่นบาทต่อเดือน  


“หลังจาก พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เดินทางมาหารือกับรัฐบาลเกาหลีใต้สัปดาห์ก่อน ก็มีการลงนามในข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกัน และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ดูแลความเป็นอยู่ของแรงงานไทยทุกคน เพราะแต่ละปีมีตัวเลขแรงงานไปเสียชีวิตที่เกาหลีใต้ไม่น้อย ปีนี้ก็เสียชีวิตแล้ว 60 ราย เพราะทนสภาพอากาศที่หนาวเย็นไม่ไหว ประกอบกับไม่มีสิทธิขั้นพื้นฐาน การรักษาพยาบาลอะไร ซึ่งค่ารักษาพยาบาลที่นั่นก็แพงมาก” น.ส.พินยุดากล่าว 

น.ส.พินยุดา กล่าวด้วยว่า ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน เป็นต้นไป รัฐบาลเกาหลีใต้จะกวางล้างแรงงานเถื่อนอย่างเข้มข้น โดยจะเริ่มจากสถานบริการ และบริการนวดต่างๆ . – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลุยเชียงใหม่ร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง ฟื้นฟูหลังน้ำลด

“อนุทิน” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ร่วมทีม จนท.-กู้ภัย-อาสาสมัคร “บิ๊กคลีนนิ่ง” ฟื้นฟูเมืองหลังน้ำลด เร่งจ่ายเยียวยาผู้ประสบภัย