สุวรรณภูมิ 14 ก.ย. – ทอท.เริ่มงานก่อสร้างโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เฟส 2 วันนี้ คาดเสร็จเดือนพฤศจิกายน 2562 ด้านนายกรัฐมนตรีเตรียมจัดการมาเฟียดอนเมืองเร็ว ๆ นี้
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงานก่อสร้างโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ปีงบประมาณ 2554-2560) พร้อมด้วยนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ผู้บริหารกระทรวงคมนาคม คณะกรรมการ และผู้บริหาร บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เข้าร่วมในพิธี
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีย้ำถึงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เฟส 2 มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวของประเทศ การเชื่อมโยงไทยกับประเทศภูมิภาค สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของรัฐบาล ซึ่งคนไทยทุกคนต้องเข้ามาร่วมกัน เพื่อให้ประเทศก้าวไปข้างหน้า โดยรัฐบาลมีเป้าหมายที่จะพัฒนาทุกท่าอากาศยาน เพื่องรองรับยุทธศาสตร์ดังกล่าว ทั้งท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง อู่ตะเภา ต่อไป โดยก่อนจะเดินทางกลับนายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่าจะไปจัดการกับมาเฟียที่ดอนเมืองเร็ว ๆ นี้
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. กล่าวว่า ตามที่ ทอท.ได้รับอนุมัติโครงการดังกล่าวจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2553 โดยมีวัตถุประสงค์และเป้าหมายเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) สามารถรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้น 15 ล้านคนต่อปี จากเดิม 45 ล้านคนต่อปี เป็น 60 ล้านคนต่อปี ประกอบด้วย กลุ่มงานก่อสร้างส่วนขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออก กลุ่มงานก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 กลุ่มงานก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค และงานจ้างที่ปรึกษาบริหารจัดการโครงการในวงเงิน 62,503.214 ล้านบาท เนื่องจากการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นโครงการเพิ่มขีดความสามารถให้สามารถรองรับกิจการขนส่งทางอากาศที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วโลกและยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2559 ทอท.ได้ลงนามในสัญญาจ้างก่อสร้างโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ปีงบประมาณ 2554-2560) สำหรับงานจ้างก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (ชั้น B2 ชั้น B1 และชั้น G) ลานจอดอากาศยานประชิดอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 และส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้ (งานโครงสร้างและงานระบบหลัก) หรือ CC1/1 ส่วนงานจ้างก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค (CC3) และงานจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้าง (CSC)
นายนิตินัย กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับงานก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (ชั้น B2 ชั้น B1 และชั้น G) ลานจอดอากาศยานประชิดอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 และส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้ กำหนดระยะเวลาดำเนินการภายใน 780 วัน ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการเสร็จเดือนตุลาคม 2561 ส่วนงานก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค กำหนดระยะเวลาดำเนินการภายใน 990 วัน และคาดว่าจะดำเนินการเสร็จเดือนพฤษภาคม 2562 โดยหลังจากเริ่มก่อสร้างวันนี้ ทอท.จะดำเนินการในส่วนของงานจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (APM) (CC4) โดยคาดว่าจะสามารถออกประกาศประกวดราคาได้ภายในเดือนตุลาคม 2559 และเริ่มงานก่อสร้างในเดือนกุมภาพันธ์ 2560 โดยงานจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบ APM จะเป็นสัญญาที่ใช้ระยะเวลานานที่สุด คือ 33 เดือน หากสามารถดำเนินการได้ตามกำหนดดังกล่าวจะทำให้มั่นใจได้ว่าโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2 จะเสร็จตามกำหนดในเดือนพฤศจิกายน 2562.-สำนักข่าวไทย