กรุงเทพฯ 3 ต.ค.-. กระทรวงพลังงานชี้ดีเซลอาจเกิน 30 บาท หากราคาน้ำมันดิบตลาดโลกเกิน 90 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล เตือนประชาชนรับมือ และขอความร่วมมือผู้ค้าน้ำมันดูแลค่าการตลาดดีเซลในเกณฑ์ต่ำ ด้านปลัดใหม่รื้องบกองทุนอนุรักษ์ จากชุดเดิมอนุมัติไว้เพียงกว่า 7 พันล้านบาท
ในวันนี้ (3 ต.ค. )กระทรวงพลังงานได้จัดทำบุญในโอกาสครบรอบสถาปนา ครบรอบ16 ปี โดยมีหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ร่วมงานและร่วมบริจาคเงินสมทบทุน เพื่อซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ อาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษา โรงพยาบาลศิริราช นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน กล่าวว่า การทำงานของกระทรวงเน้นดูแลประชาชน การทำงานร่วมกันอย่างโปร่งใสมีวินัย มีความปรองดอง เพื่อให้พลังงานประเทศมีความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน
นายศิริ กล่าวถึงราคาน้ำมันดิบที่ไต่สูงถึงระดับ 85 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งนับว่าเป็นราคาสูงสุดในรอบ 4 ปีว่า ในขณะนี้ นักวิเคราะห์คาดว่า ราคาอาจมีโอกาสไปถึง 100 ดอลลาร์ หากการคว่ำบาตรอิหร่านเริ่มวันที่ 4 พ.ย.มีผลกระทบรุนแรง โดยช่วงที่อ่อนไหวคือ ช่วง 1 สัปดาห์ก่อนและหลังวันเริ่มคว่ำบาตร ซึ่งแม้ว่ากระทรวงพลังงาน โดยคณะกรรมการบริหารนโยบายกองทุนพลังงาน (กบง.) จะมีมติมาตรการดูแลค่าครองชีพประชาชนด้วยการนำเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง มาดูแลดีเซลในกรอบไม่เกิน 1 บาท/ลิตร วงเงิน 6 พันล้านบาท เพื่อดูแลดีเซลราคาไม่เกิน 30 บาท/ลิตร บนสมมุติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบที่ 85 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยความตั้งใจจะดูแลไปจนถึงสิ้นปีนี้ และช่วงไม่เกิน 2 เดือนในต้นปีหน้า
อย่างไรก็ตาม แต่หากบางช่วงราคาน้ำมันดิบสูงมากเกินกว่า 90 ดอลลาร์/บาร์เรล และมีผลกระทบต่อฐานะกองทุนฯ ก็อาจจะทำให้จำเป็นต้องปรับขึ้นราคาดีเซลมากกว่า 30 บาทต่อลิตรเป็นบางช่วง จึงขอส่งสัญญาณให้ประชาชนปรับตัวรับสถานการณ์ ในขณะเดียวกันขอความร่วมมือผู้ค้าน้ำมันร่วมมือดูแลประชาชน ด้วยการร่วมมือรับภาระค่าการตลาดในอัตราต่ำกว่าปกติที่ควรได้ 1.50-1.80 บาท/ลิตร โดยล่าสุดค่าการตลาดดีเซลอยู่ที่ 1.12 บาท/ลิตร ซึ่งก็ต้องขอขอบคุณผู้ค้าน้ำมันที่ร่วมกันดูแล
“ขณะนี้กองทุนน้ำมันอุดหนุนดีเซลเพิ่มจาก 30 สตางค์ เป็น 60 สตางค์ต่อลิตร หากราคาน้ำมันดิบยังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง การใช้เงินกองทุนน้ำมันดูแลก็อาจจะเพิ่มจาก 1 บาท/ลิตร และอาจจะมากกว่า 6 พันล้านบาท ซึ่งล่าสุดเงินกองทุนเหลือ25,142 ล้านบาท และหากราคาน้ำมันดิบมากกว่า 90 ดอลลาร์/บาร์เรล ก็อาจจะจำเป็นต้องปรับราคาดีเซลมากกว่า 30 บาท/ลิตรเป็นช่วงๆ”นายศิริ กล่าว
สำหรับ ฐานะกองทุนน้ำมันฯ วันที่ 30 ก.ย.61มีเงินสุทธิ 25,142 ล้านบาท โดยแยกเป็นบัญชีน้ำมัน29,213 ล้านบาท และบัญชีก๊าซหุงต้มติดลบ 4,071 ล้านบาท ซึ่งทางกระทรวงพลังงานอุดหนุนก๊าซหุงต้ม ด้วยมาตรการดูแลราคาราคา 363 บาท/ถังขนาด 15 กก. ส่วนราคาเอ็นจีวีทางกระทรวงไม่มีนโยบายดูแลแต่อย่างใด แม้ราคาจะสูงกว่า 15 บาท/กก. ไปแล้ว พร้อมเชิญชวน รถบรรทุกหันมาเติม บี 20 ซึ่งราคาต่ำกว่า ดีเซล 3 บาท/ลิตร
ด้านนายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช กรรมการผู้จัดการบมจ.บางจากคอร์เปอเรชั่นกล่าวว่า หาก สหรัฐคว่ำบาตรเต็มร้อยจะทำให้น้ำมันที่ส่งออกจากอิหร่านหายไปจากตลาด 4 ล้านบาร์เรล/วัน ก็จะทำให้ราคาน้ำมันดิบอยู่ที่ประมาณ 90-100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งยอมรับว่าค่าการตลาดดีเซลขณะนี้ต่ำมากเหลือไม่ถึง 1.20 บาท/ลิตร
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงานคนใหม่ กล่าวว่า จะทบทวน งบฯกองทุนส่งเสริมเพื่อการอนุรักษ์พลังงานปี 2562 ที่ทางอนุกรรมการกลั่นกรองที่มีนายธรรมยศ ศรีช่วย อดีตปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน อนุมติโครงการไว้ กว่า 7 พันล้านบาท โดยจะใช้หลักเกณฑ์การพิจารณาที่สอดคล้องกับการปฏิรูปพลังงาน งบจำเป็นเร่งด่วน งบโครงการตามพระราชดำริ และเกณฑ์ของกระทรวงการคลังที่ใช้ในการพิจารณากองทุนมาพิจารณา ซึ่งโครงการที่เสนอมาต้องดูด้วยว่า มีการดูแลซ่อมบำรุงหลังจากโครงการเริ่มไปแล้วหรือไม่ โดยกรอบวงเงินกองทุนอนุรักษ์ปี 62 นั้น ได้รับอนุมัติมาประมาณ 10,448 ล้านบาท และมีคำขอสูงถึง 3 หมื่นล้านบาท
ส่วนเรื่องการสอบสวนกรณีมีการครหาเรื่องการใช้งบกองทุนอนุรักษ์ ว่า โปร่งใสหรือไม่นั้น นายกุลิศกล่าวว่า คณะกรรมการตรวจสอบ ที่นางเปรมฤทัย วินัยแพทย์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เป็นประธาน ได้ขอเลื่อนระยะเวลาทำงาน ซึ่งเรื่องนี้จึงยังไม่ทราบว่าจะตรวจสอบเสร็จสิ้นเมื่อใด ส่วนการแต่งตั้งผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) คนใหม่นั้น จะต้องตั้งคณะกรรมการสรรหามาพิจารณา ซึ่งจะต้องให้ได้บุคคลที่เหมาะสมมาดำรงตำแหน่ง -สำนักข่าวไทย