หมอพบชาวบ้าน หลังผวาผีปอบผีแม่ม่ายหนัก

กาฬสินธุ์ 2 ต.ค.-แพทย์ ลงพื้นที่พบชาวบ้านภูฮัง ใน ต.ดงมูล อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ หลังมีคนในหมู่บ้านตายติดต่อกัน 5 ราย ผวาผีปอบผีแม่ม่ายหนัก ด้าน อบจ.กาฬสินธุ์ จ่อนิมนต์พระทำพิธี สร้างขวัญกำลังใจให้ชาวบ้าน


กรณีชาวบ้านภูฮัง หมู่ที่ 3 และหมู่ที่ 5 ต.ดงมูล อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ ตกอยู่ในความหวาดผวาอย่างหนัก หลังเกิดเหตุมีคนเสียชีวิตในหมู่บ้านติดต่อกัน 5 ศพ โดยเฉพาะ 2 ศพแรกเป็นชายฉกรรจ์อาศัยอยู่บ้านหลังเดียวกัน เกิดอาการวูบสิ้นใจตายโดยไม่ทราบสาเหตุ ญาติระบุพบลำคอเขียวคล้ำคล้ายถูกมือบีบ เชื่อเป็นฝีมือผีปอบและผีแม่ม่ายคร่าชีวิต จึงพากันแห่ทาเล็บแดง หาเครื่องรางของขลังพกติดตัว พร้อมนำเสื้อสีแดงและเขียนป้ายข้อความ “บ้านนี้ไม่มีผู้ชาย” ป้องกันผีปอบ-ผีแม่ม่ายเต็มหมู่บ้าน ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น


วันนี้ผู้สื่อข่าว จ.กาฬสินธุ์ ติดตามบรรยากาศในหมู่บ้านภูฮัง พบว่าชาวบ้านยังคงหวาดผวาและเชื่อว่า สาเหตุการตายของคนในหมู่บ้านทั้ง 5 รายนั้น เกิดจากการกระทำของผีปอบและผีแม่ม่าย โดยชาวบ้านระบุว่าเริ่มเป็นมาตั้งแต่มีคนฝันเห็นกลุ่มชายใส่ชุดดำ ยกขบวนมาสร้างที่พักที่ปากทางเข้าหมู่บ้าน ก่อนที่จะมีเสียงสุนัขเห่าหอนในตอนกลางคืน และมีคนตายโดยไม่ทราบสาเหตุติดต่อกันเกิดขึ้น จนทำให้ชาวบ้านเกิดความหวาดผวา ไปตามๆ กัน หลายคนไม่กล้าออกจากบ้านไปทำมาหากิน โดยเฉพาะเวลากลางคืน ซึ่งแทบทุกหลังคาเรือนต้องปิดบ้านเข้าที่พักตั้งแต่หัวค่ำ ทำให้บรรยากาศในหมู่บ้านเงียบเหงาและวังเวง 

นายศุภชัย จารย์โพธิ์ อายุ 49 ปี บ้านเลขที่ 8 หมู่ 3 บ้านภูฮัง ต.ดงมูล อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุและมีคนเฒ่าคนแก่แนะนำให้หาเสื้อแดง เขียนป้าย บ้านนี้ไม่มีผู้ชาย รวมทั้งทาเล็บ ห้อยพระและวัตถุมงคล เพื่อป้องกันผีปอบกับผีแม่ม่ายแล้วก็ตาม แต่ก็ยังอยู่กันอย่างตื่นตระหนก แต่ก่อนดำเนินชีวิตตามปกติ ตอนเย็นจับกลุ่มพูดคุยกันตามประสาที่ลานหน้าบ้านจนดึกดื่นจึงแยกย้าย แต่พอเกิดเหตุตายติดต่อกัน กลางคืนสุนัขเห่าหอนโหยหวนทั่วหมู่บ้าน ก็หวาดผวา ก็รีบปิดบ้านปิดไฟเข้านอน ทำให้บรรยากาศในหมู่บ้านเงียบวังเวง 


ด้านนางผอง ปัญญาสิทธิ์ อายุ 80 กล่าวว่า เหตุคนในหมู่บ้านเสียชีวิตติดต่อกันหลายศพโดยไม่ทราบสาเหตุ ที่บ้านภูฮัง เคยเกิดเมื่อ 7 ปีก่อน เหตุที่เกิดในรอบนี้ ถึงแม้จะยังไม่รู้แน่ชัดว่าเป็นฝีมือผีปอบหรือผีแม่ม่าย หรือสาเหตุจากอาการเจ็บป่วยก็ตาม แต่ที่แน่ๆ คือทุกวันนี้ชาวบ้านหวาดกลัวกันมาก เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ซ้ำรอย อย่างที่เคยเกิดในคราวก่อน ซึ่งตอนนั้นเสียชีวิตต่อเนื่องทั้งผู้หญิงผู้ชาย 7 ศพ ชาวบ้านจึงได้นิมนต์พระเกจิมาทำพิธีขับไล่ เหตุการณ์จึงกลับสู่ภาวะปกติ ก่อนที่จะย้อนกลับมาเกิดในช่วงนี้อีก

นายดนุพล ผือโย สมาชิกสภา อบจ.กาฬสินธุ์ เขต อ.หนองกุงศรีกล่าวว่า หลังเกิดเหตุชาวบ้านเสียชีวิตติดต่อกันหลายศพ โดยชาวบ้านเชื่อว่าเป็นการกระทำของสิ่งที่ไม่มีตัวตน ที่เรียกว่าผีปอบ และผีแม่ม่าย ถึงแม้จะพิสูจน์ไม่ได้ทางวิทยาศาสตร์ แต่ก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ที่ฝังแน่นในสังคมชาวอีสานมายาวนาน ทั้งนี้ได้ประสานผู้นำชุมชน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อป้องกันมิจฉาชีพฉวยโอกาสกุข่าวหลอกลวง แสวงหาผลประโยชน์ และคอยสอดส่องให้กำลังใจชาวบ้าน โดยเฉพาะครอบครัวผู้สูญเสีย

“ขั้นตอนต่อไปจากนี้ คงเป็นในส่วนของการฟื้นฟูจิตใจ จะโดยวิธีนิมนต์พระคุณเจ้าไล่จับปอบ จับผีแม่ม่าย หรือทำบุญหมู่บ้าน ตามอย่างที่เคยปฏิบัติกันตามความเชื่อ หรืออย่างไรก็ตามแต่ ก็จะได้หารือกับผู้นำชุมชนและชาวบ้าน เพื่อเรียกขวัญกำลังใจกลับคืนมา และให้หายจากอาการหวาดกลัว เพราะชาวบ้านมีความเชื่ออย่างนั้น มีความรู้สึกหวาดกลัวอย่างนั้นจริงๆ จะไปห้ามความคิดหรือปิดกั้นความเชื่อไม่ได้ ซึ่งเมื่อได้เกิดเหตุผิดปกติตามนี้แล้ว จึงเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง จะต้องลงมาดู ให้ความอบอุ่นกับชาวบ้าน”

ล่าสุด มีรายงานว่า นายแพทย์พรพัฒน์ ภูนากลม ผอ.โรงพยาบาลหนองกุงศรี พร้อมด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาภาคสนาม พยาบาลผู้เชี่ยวชาญทางสุขภาพจิต เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอ ได้เข้าสอบสวนสาเหตุการตายผิดปกติของชาวบ้านภูฮังทั้ง 5 ราย และนำหน่วยแพทย์เข้าตรวจสุขภาพ ซึ่งเบื้องต้นพบว่าเป็นเหตุผิดปกติที่ไม่พบบ่อย โดยมีสาเหตุจากโรค NCDs หรือโรคที่ไม่ติดต่อ คือโรคหลอดเลือดสมอง โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และอุบัติเหตุท้องถนน โดยสาเหตุการเสียชีวิตทั้ง 5 รายนั้น ได้แก่ รายที่ 1.นางน้อย โยการี อายุ 68 ปี มีอาการซึมไม่รู้สึกตัว เหงื่อออกตัวเย็น มีโรคประจำตัวคือเบาหวาน และโรคไตวาย แพทย์วินิจฉัย เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และปอดอักเสบ เสียชีวิตวันที่ 10 กันยายน 2561 รายที่ 2.นายทองพันธ์ สุภาษร อายุ 44 ปี มีอาการแขนขาขวาอ่อนแรง พูดไม่ได้ แพทย์วินิจฉัยโรคหลอดเลือดสมองแตก เสียชีวิตวันที่ 11 กันยายน 2561 รายที่ 3.นายสมพงษ์ วงชารี อายุ 46 ปี มีอาการล้มลงไม่รู้สึกตัวขณะทำกับข้าว มีโรคประจำตัวคือโรคความดันโลหิต แพทย์วินิจฉัยโรคหลอดเลือดหัวใจ เสียชีวิตวันที่ 23 กันยายน 2561 รายที่ 4.นางภู วงชารี อายุ 73 ปี มีอาการปวดเอวข้างขวาร้าวลงมาขา มีโรคประจำตัวโรคความดันโลหิตสูง แพทย์วินิจฉัยโรคความดันโลหิตสูงและติดเชื้อในกระแสโลหิต เสียชีวิตวันที่ 29 กันยายน 2561 และรายที่ 5.นางสาวพรนภา ชัยศรี อายุ 16 ปี ขับรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถซาเล้งและกระเด็นไปโดนรถพ่วง 10 ล้อสลบไม่รู้สึกตัวคลำชีพจรไม่ได้ แพทย์วินิจฉัยเลือดคั่งในอวัยวะภายในจากอุบัติเหตุ

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ประเมินความเครียด ให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพแก่ชาวบ้าน ซึ่งการป้องกันโรค NCDs นั้นสามารถป้องกันได้ด้วย 3 อ. 2ส. คืออาหาร อารมณ์ ออกกำลังกาย ไม่ดื่มสุรา ไม่สูบบุหรี่ ส่วนอุบัติเหตุบนท้องถนนนั้นต้องมีมาตรการป้องกันทั้งคน ยานพาหนะ และถนน ซึ่งถนนสายหนองกุงศรี-ท่าคันโท แคบไม่มีไหล่ทาง ทัศนวิสัยไม่ดี จึงเป็นสาเหตุสำคัญของอุบัติเหตุ โดยพบการเสียชีวิตบนถนนสายนี้เฉลี่ยเดือนละ 1 ราย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูเชิญถกอาเซียน ยันไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยได้

พรรคภูมิใจไทย 19 ก.ย.- “อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูหาเชิญร่วมประชุมอาเซียน ยันไม่มีใครเคลียร์-แทรกแซงรัฐบาลได้ หลัง “ฮุน มาเนต” ขอมาเลเซียเป็นตัวกลาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยว่าได้โทรศัพท์พูดคุยเป็นการส่วนตัว โดยนายอนุทิน ยอมรับว่า เมื่อวานนายอันวาร์ได้โทรมาหา พูดคุยถึงการเชื้อเชิญว่า ถ้าหากตนได้รับตำแหน่งเรียบร้อยแล้วคงจะได้พบกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในช่วงเดือนหน้า ส่วนการพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนจังหวัดสระแก้ว นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียด อีกทั้งตนยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เนื่องจากยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงมีรัฐบาลรักษาการ เราให้เกียรติกัน “ผมรับตำแหน่งได้ ก็ต่อเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน ส่วนเรื่องนโยบาย ข้อสั่งการ ต้องรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งขณะนี้เราก็ยังรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไว้ให้มากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว ส่วนกรณีที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร้องขอไปยังนายอันวาร์ เพื่อให้เข้ามาแทรกแซงการเจรจานั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยและอธิปไตยของไทยได้ ส่วนเรื่องการพูดคุย นายอนุทิน ย้ำว่า เราสามารถทำได้ เพราะเป็นคนที่คุ้นเคยรู้จักกัน […]

“อนุทิน” กินข้าว “อภิสิทธิ์” ขอคำแนะนำอดีตนายกฯ

กทม. 19 ก.ย.- “อนุทิน” โพสต์ภาพร่วมโต๊ะกินมื้อกลางวันคู่กับ “อภิสิทธิ์” บอกขอคำแนะนำอดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพรับประทานอาหารกลางวันคู่กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นการส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า “ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์และคุณค่ามากมายจากท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ให้เกียรติมาให้กำลังใจและทานอาหารกลางวันด้วยกันในวันนี้ ขอบพระคุณท่านมากครับ” ทั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกของนายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายอนุทิน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีอีกกระแสข่าว ที่เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ -สำนักข่าวไทย

รวบยกแก๊ง 4 ชาวอังกฤษขับรถชิงทรัพย์ชาวอเมริกัน

ภูเก็ต 19 ก.ย. – วานนี้มีเหตุอุกอาจกลางเมืองภูเก็ต กลุ่มชายฉกรรจ์ขับรถชนรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายก่อนลงไปชิงนาฬิกาหรู มูลค่ากว่า 2 ล้าน เช้านี้ตำรวจรวบผู้ก่อเหตุได้ครบ เชื่อวางแผนทำกันเป็นขบวนการ.-สำนักข่าวไทย

ไทยยึดหลักสากล จัดการปมบ้านหนองหญ้าแก้ว

กระทรวงการต่างประเทศ 19 ก.ย.- “อนุทิน” แจงประธานอาเชียน เหตุบ้านหนองหญ้าแก้ว ไทยยืนยันยึดหลักสากล จัดการปัญหา กัมพูชาขัดข้อตกลงหยุดยิง ใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์ ไร้มนุษยธรรม ไม่สร้างสรรค์ บิดเบือนข้อเท็จจริง พร้อมเรียกร้องกัมพูชาแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหา นายนิกรเดช พลางกูล อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ที่มีการรื้อถอนสิ่งกีดขวางของฝ่ายไทย และมีการปะทะจนมีเจ้าหน้าที่ไทยได้รับบาดเจ็บ ซึ่งถือเป็นการทำผิดกฎหมายไทยหลายมาตรา โดยย้ำว่าที่ผ่านมาฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดทุกประการมาโดยตลอด ข้อตกลงนี้เป็นหมุดหมายสำคัญที่จะปูทางไปสู่สันติภาพ แม้สถานการณ์สงบลง แต่กัมพูชายังยั่วยุในรูปแบบต่างๆ ซึ่งขัดข้อตกลงหยุดยิง พร้อมย้ำว่าการวางเครื่องกีดขวางเสริมความมั่นคง เป็นการดำเนินการในอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยอดกลั่น และใช้เวลาชี้แจงกับประชาชนกัมพูชา แต่ไม่เป็นผล ที่สุดเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนของไทยต้องเข้าระงับเหตุตามหลักสากล ตามหลักมนุษยชนการปลุกระดมให้ประชาชนมาเป็นโล่มนุษย์ ขัดกฎหมายระหว่างประเทศ ไร้มนุษยธรรม ขาดความรับผิดชอบ ไม่สร้างสรรค์ และไม่ยึดถือประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนเป็นที่ตั้ง นอกจากนี้ ทั้ง 2 ประเทศให้คำมั่นหยุดยิงไปแล้ว แต่กัมพูชาเลือกเส้นทางจากต่างไทยโดยสิ้นเชิง ไทยมุ่งมั่นแสวงหาสันติภาพ ซึ่งต่างจากกัมพูชาที่แสวงหาความรุนแรง การวางรั้วลวดหนามของฝ่ายไทย เป็นไปเพื่อป้องกันการปะทะ และเพื่อสร้างความปลอดภัยของประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ และเหตุความรุนแรงอาจนำไปสู่การสูญเสีย […]