กรุงเทพฯ 30 ก.ย. – โรงงานน้ำตาลทรายจัดประชุมเชิงปฎิบัติการ ต.ค.นี้ เตรียมเปิดหีบฤดูการผลิตปี 61/62 รับมืออ้อยที่จะเข้าหีบ 120-125 ล้านตัน แต่ราคาอ้อยขั้นต้นปี 61/62 คาดว่าจะลดเหลือต่ำกว่า 700 บาทต่อตัน
นายสิริวุทธิ์ เสียมภักดี รองประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ไทยชูการ์ มิลเลอร์ จำกัด (TSMC) เปิดเผยว่า ในฤดูการผลิตปี 2561/2562 จะมีโรงงานน้ำตาลทรายเพิ่มขึ้นอีก 3 แห่ง จากเดิมมี 54 แห่ง โดยผู้ประกอบการโรงงานน้ำตาลทรายทั้งหมดจะเข้าร่วมประชุม Workshops เตรียมความพร้อมเปิดหีบอ้อยระหว่างวันที่ 5-6 ตุลาคม 2561 โดยจะมีการติดตามสถานการณ์อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายไทย หลังปรับโครงสร้างจากการลอยตัวราคาน้ำตาลทราย โดยสถานการณ์ปัจจุบันที่ราคาน้ำตาลทรายในตลาดโลกอยู่ในภาวะตกต่ำ จากเดิม 16-20 เซนต์ต่อปอนด์ในช่วงปีก่อนหน้า ลดลงเหลือ 10-11 เซนต์ต่อปอนด์ ขณะที่เงินบาทแข็งค่าอยู่ในระดับ 32.60 บาท มีผลต่อการคำนวณราคาอ้อยขั้นต้นปี 2561/2562 ที่คาดว่าจะลดเหลือต่ำกว่า 700 บาทต่อตัน
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการโรงงานมีความกังวลและเข้าใจถึงผลกระทบต่อราคาอ้อยตกต่ำไม่คุ้มกับต้นทุนการเพาะปลูกอ้อยและส่งผลกระทบต่อชาวไร่อ้อยทั่วประเทศ ดังนั้น ที่ประชุมครั้งนี้จะมีหารือถึงแนวทางให้ความช่วยเหลือชาวไร่ ซึ่งจะยึดหลักผลประโยชน์ของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องและต้องไม่ผิดกฎระเบียบองค์การการค้าโลก หรือ WTO
“โรงงานน้ำตาลทรายจะหารือถึงแนวทางการให้ความช่วยเหลือชาวไร่อ้อย เนื่องจากชาวไร่อ้อยก็เปรียบเสมือนคนในครอบครัวเดียวกัน ชาวไร่อยู่ได้โรงงานก็อยู่ได้ และไม่ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค ส่วนแนวทางจะเป็นอย่างไรนั้น จะต้องมีการพูดคุยกับทุกฝ่ายอีกครั้งและที่สำคัญต้องไม่ผิดต่อกฎระเบียบ WTO” นายสิริวุทธิ์ กล่าว
รองประธานคณะกรรมการบริหาร TSMC กล่าวว่า ที่ประชุมยังเตรียมหารือแนวทางการยกระดับคุณภาพผลผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอ้อยทั้งระบบ ตั้งแต่การประเมินพันธุ์อ้อย การแก้ไขปัญหาโรคใบขาว รวมถึงการเสนอใช้เครื่อง NIRS มาใช้ตรวจวัดสิ่งปนเปือนในอ้อย และการจัดการด้านโลจิสติกส์ในอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย ครอบคลุมตั้งแต่การจัดเก็บผลผลิตอ้อยจากไร่ การขนส่งอ้อยไปยังโรงงานน้ำตาล และการจัดเก็บผลผลิตน้ำตาลทราย เพื่อให้เกิดการวางแผนแบบบูรณาการเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อประโยชน์ของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายไทยทั้งระบบ หลังจากปีที่ผ่านมาติดข้อจำกัดด้านการขนส่งผลผลิตอ้อยไปยังโรงงาน ทำให้ปริมาณการขนอ้อยต่อเที่ยวลดลง และหากปีนี้ปริมาณผลผลิตที่มีการคาดการณ์ว่าจะมีอ้อยเข้าหีบ 120-125 ล้านตันอ้อย ดังนั้น การวางแผนบริหารจัดการเพื่อเตรียมความพร้อมที่ดี เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาที่ทำให้โรงงานต้องปิดหีบล่าช้าเป็นผลให้คุณภาพผลผลิตอ้อยเข้าหีบในช่วงปลายฤดูหีบมีคุณภาพลดลง
“ปีนี้เน้นคุณภาพผลผลิตอ้อยที่มีคุณภาพ จึงต้องมีการบริหารจัดการที่ดีตั้งแต่ต้น ทั้งการเพาะปลูกอ้อย การจัดเก็บผลผลิตเพื่อจัดส่งให้แก่โรงงาน คุณภาพอ้อยต้องไม่มีสิ่งปนเปื้อน ซึ่งเชื่อว่าการหารือเพื่อวางแนวทางปฏิบัติก่อนการเปิดหีบฤดูการนี้จะทำให้เราสามารถลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบอุตสาหกรรมได้ดีขึ้นและจะส่งผลดีต่อการสร้างความเข้มแข็งให้แก่อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายไทย เพื่อให้ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ร่วมกัน” นายสิริวุทธิ์ กล่าว. – สำนักข่าวไทย