รพ.จุฬาลงกรณ์ ร่วมกับ ศิลปินนักแสดง ผู้ประกาศข่าว จัดคอนเสิร์ต เพื่อผู้ป่วยโรคเลือดและมะเร็งเด็ก

โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ 29 ก.ย. – โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กองทุนโรคเลือดและมะเร็งเด็ก หน่วยโลหิตวิทยา ฝ่ายกุมารเวชศาสตร์ และศิลปินนักแสดง ผู้ประกาศข่าว ร่วมจัดงานแถลงข่าว การจัดแสดงคอนเสิร์ต “ส่งต่อความหวัง พลังชีวิต เพื่อน้องโรคเลือดและมะเร็งเด็ก” และจัดเสวนาให้ความรู้สถานการณ์โรคเลือดในเด็กปัจจุบัน ณ อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์


ศ.นพ.สุทธิพงศ์ วัชรสินธุ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และคณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่าโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทยได้มุ่งมั่นที่จะผลิตผลงานวิชาการและให้บริการทางการแพทย์แก่เด็กอย่างรอบด้าน โดยมีภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ก่อตั้งมายาวนานกว่า 70 ปี ได้สะสมประสบการณ์และพัฒนาด้านการรักษามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เป็นที่ยอมรับในวงการแพทย์ระดับนานาชาติ  และมีวิสัยทัศน์ในการขับเคลื่อนการดำเนินงาน คือการผลิตกุมารแพทย์ที่มีศักยภาพ ด้วยองค์ความรู้เป็นสถาบันต้นแบบที่มีคุณธรรม และสร้างมาตรฐานเพื่อเป็นแหล่งอ้างอิงทางกุมารเวชศาสตร์ ทั้งในด้านงานบริการและงานวิจัยในระดับนานาชาติ และมีเป้าหมายคือการดูแลเด็ก ซึ่งเป็นอนาคตของชาติอย่างครบวงจร ทั้งด้านการป้องกันโรค การเสริมสร้างพัฒนาการและฟื้นฟู เพื่อให้ผู้ป่วยเด็กสามารถกลับไปใช้ชีวิตกับครอบครัว และสังคมได้อย่างมีความสุขต่อไป

รศ.พญ.ดารินทร์ ซอโสตถิกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคโลหิตวิทยาและมะเร็งเด็ก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์วิทยาลัย กล่าวว่า ในแต่ละปีมีเด็กในประเทศไทยจำนวนไม่น้อยกว่า 1,000 คน ได้รับการวินิจฉัยเป็นโรคเลือดและโรคมะเร็ง โดยโรคที่พบบ่อยได้แก่ โรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย โรคเลือดออกง่าย ฮีโมฟีเลีย มะเร็งเม็ดเลือดขาวและมะเร็งสมอง ผู้ป่วยเหล่านี้หากได้รับการวินิจฉัยอย่างรวดเร็วและได้รับการรักษาที่เหมาะสม จะสามารถกลับไปมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตใกล้เคียงกับเด็กปกติได้  


อย่างไรก็ตาม โรคส่วนใหญ่เป็นโรคเรื้อรัง ผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่องยาวนาน  อีกทั้งจำเป็นต้องอาศัยทีมบุคคลากรทางการแพทย์ที่มีความชำนาญ รวมทั้งได้รับยา เครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย และที่สำคัญ คือการดูแลเอาใจใส่จากผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลอย่างใกล้ชิด  

ปัจจุบัน สาขาวิชาโลหิตวิทยาและมะเร็งเด็ก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ให้การดูแลรักษาผู้ปวยเด็กโรคเลือดและมะเร็งจำนวนมาก โดยมีผู้ป่วยใหม่ได้รับการวินิจฉัยปีละ 80 – 100 ราย ผู้ป่วยโรคโลหิตจางธาลัสซีเมียชนิดรุนแรงปานกลาง ถึงรุนแรงมาก จำเป็นต้องได้รับเลือดจากผู้บริจาคทุกๆ 3 – 4 สัปดาห์อย่างต่อเนื่อง ตลอดชีวิต  ผู้ป่วยโรคเลือดออกง่ายฮีโมฟีเลีย จำเป็นต้องได้รับสารช่วยการแข็งตัวของเลือดทางหลอดเลือด ทุกสัปดาห์ตลอดชีวิต ผู้ปวยโรคมะเร็งจำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด ผ่าตัด และฉายแสงเป็นระยะเวลา 1- 3 ปีขึ้นกับชนิดของโรค ผู้ป่วยบางรายที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาและการรักษามาตรฐาน จำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดซึ่งเป็นการรักษาที่ซับซ้อนและมีค่าใช้จ่ายสูง  

ทั้งนี้ สาขาวิชาโลหิตวิทยาและมะเร็งเด็ก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้จัดตั้งกองทุน “โรคเลือดและมะเร็งเด็ก จุฬาฯ”  ขึ้น  เพื่อให้การดูแลและช่วยเหลือผู้ปวยเด็กโรคเลือดและมะเร็งที่ขาดแคลน สนับสนุนยาและการรักษาบางประเภทที่ไม่สามารถเบิกได้จากสิทธิประกันสุขภาพถ้วนหน้า รวมถึงสนับสนุนค่าเดินทางในการมารับการรักษาและช่วยเหลือครอบครัวที่มีความขัดสนเพื่อให้สามารถมารับการรักษาได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ป่วยเด็กมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถไปโรงเรียนและทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนได้มากขึ้น และช่วยลดความกังวลของผู้ปกครองอีกด้วย


นายกฤษณะพงศ์ พงศ์แสนยากร รองประธานกรรมการโครงการคอนเสิร์ต “ส่งต่อความหวัง พลังชีวิต เพื่อน้องโรคเลือดและมะเร็งเด็ก” กล่าวว่า  เพื่อเป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจของสังคมต่อโรคเลือดและมะเร็งเด็ก และการระดมทุนช่วยเหลือผู้ป่วยสาขาวิชาโลหิตวิทยาและมะเร็งเด็ก  คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงได้ร่วมกับกลุ่มศิลปินเพลง, และสื่อมวลชน ผู้ประกาศข่าว จัดโครงการคอนเสิร์ตการกุศล “ส่งต่อความหวัง พลังชีวิต เพื่อน้องโรคเลือดและมะเร็งเด็ก” จัดงานเสวนาให้ความรู้สถานการณ์โรคเลือด และมะเร็งในเด็ก  กิจกรรมแบ่งปันประสบการณ์ของผู้ปกครองและผู้ป่วยที่ผ่านการรักษาไปแล้ว กิจกรรมการแสดงจากดารา ศิลปินและผู้ประกาศข่าว และพิธีมอบเงินบริจาคเพื่อเข้าสมทบกองทุนฯ 

ผู้ที่สนใจร่วมบริจาค สามารถโอนเงินเข้าบัญชี “เงินทุนโลหิตวิทยา กุมารจุฬาฯ” ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสภากาชาดไทย บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 045-297217-0 โดยเงินบริจาคสามารถลดหย่อนภาษีได้ตามกฎหมาย หรือสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ สาขาวิชาโลหิตวิทยาและมะเร็งเด็กภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 ประสานงานโครงการ: 02 -256-4949 (ในเวลาราชการ), 092-010-6509 (นอกเวลาราชการ) . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่