กบง.หวั่นราคาน้ำมันพุ่งเพิ่มเพดานอุดหนุนดีเซล 6 พันล้านบาท

กรุงเทพฯ 28 ก.ย.-ราคาน้ำมันดิบพุ่ง ดูไบเกิน 80 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล กบง.ยืนยันดูแลไม่เกิน 30 บาท/ลิตร อนุมัติเพิ่มเพดานอุดหนุนจากกรอบ 30 สตางค์/ลิตร เพิ่มเป็น 1 บาทต่อลิตร คาดใช้เงินไม่เกิน 6 พันล้านบาท บนฐานราคาน้ำมันดูไบไม่เกิน 85 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้านราคาแอลพีจีขยับขึ้นเช่นกัน กบง.ยืนยันดูแลไม่เกิน 363 บาท/ถัง 15 กก.มั่นใจตรึงดีเซล-แอลพีจีถึงสิ้นปี บนกรอบรวม 13,000 ล้านบาท   


นาย ศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ซึ่งมีตนเป็นเป็นประธาน ในวันนี้ ได้พิจารณาสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบที่พุ่งสูงขึ้น จากมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านของสหรัฐอเมริกา โดยสถานการณ์ในปัจจุบันราคาน้ำมันดิบ Brent ได้ไต่ระดับเกิน 82 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล       และราคาน้ำมันดิบ Dubai ระดับราคาเกิน 80 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ในขณะที่มีนักวิเคราะห์คาดว่าหากปัญหากำลังผลิตตึงตัว และเข้าช่วงฤดูหนาว ราคาน้ำมันดิบอาจพุ่งแตะ 90-100 ดอลลาร์/บาร์เรล    

ดังนั้น เพื่อเตรียมพร้อมในการดูแลผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน  กบง.จึงเห็นชอบในการคงนโยบายรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลให้ไม่เกิน 30 บาท/ลิตร บนสมุมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบไม่เกิน 85 ดอลลาร์/บาร์เรล กบง. จึงได้มีมติอนุมัติให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง รักษาเสถียรภาพราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล ในอัตราไม่เกิน 1.00 บาท/ลิตร ในวงเงินไม่เกิน 6,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากกรอบเดิมที่เคยอนุมติใช้เงินกองทุนดูแลดีเซลในอัตราไม่เกิน 30 สตางค์/ลิตร


“ค่าการตลาดดีเซลวันนี้ อยู่ที่ 1.33 บาทต่อลิตร นับว่าอยู่ในเกณฑ์ต่ำ ซึ่งวานนี้ กบง.ได้อนุมัติเพิ่มเงินกองทุนอุดหนุนจาก 15 สต./ลิตร เป็น 30 สต./ลิตร มีผลในตั้งแต่เช้าวันนี้ นับว่าเต็มเพดานกรอบอุดหนุนเดิม ดังนั้น กบง.จึงต้องอนุมัติเพิ่มการดูแลเป็นไม่เกิน 1 บาท/ลิตร”รมว.พลังงาน กล่าว

ทั้งนี้ ตามกรอบอนุมัติดังกล่าว คาดว่าการใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง จะสามารถรักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันดีเซล ให้ราคาไม่เกิน 30 บาท/ลิตร จนถึงสิ้นปี 2561 เช่นเดียวกับการดูแลรคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี ) ที่ ขณะนี้ ราคาตลาดโลกขยับขึ้นเช่นกัน ซึ่ง กบง.ยังคงดูแลที่ราคา 363 บาท/ถัง 15 กก. ไปจนถึงสิ้นปี บนกรอบการใช้เงินกองทุนน้ำมันฯดูแล ไม่เกิน 7 พันล้านบาท  ซึ่งเชื่อมั่นว่าการดูแลราคาพลังงานครั้งนี้ จะไม่ทำให้สถานะเงินกองทุนน้ำมันติดลบ และต้องกู้ยืมเงินแต่อย่างใด

” กบง. และกระทรวงพลังงาน ยังคงติดตามและเตรียมมาตรการรองรับเพื่อไม่ให้การเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันดีเซลและ ส่งกระทบต่อค่าขนส่งสินค้าและ ค่าครองชีพของประชาชน เช่น การส่งเสริมให้ผู้ประกอบการขนส่งและบริการรถโดยสารสาธารณะ   มาใช้น้ำมันดีเซลเกรดพิเศษ B20 ซึ่งมีราคาถูกกว่า 3 บาท/ลิตร ก็ขอเชิญชวนให้ผู้ประกอบการมาใช้ เพราะขณะนี้มีผู้ใช้ 3 ล้านลิตร/เดือน จากเป้าหมาย 300 ล้านลิตร/เดือน”รมว.พลังงาน


สำหรับสถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 23 ก.ย.2561 มีวงเงินสุทธิ 25,462 ล้านบาท โดยแยกเป็นบัญชีน้ำมัน 29,285 ล้านบาท และบัญชีก๊าซหุงต้ม ติดลบ 3,823 ล้านบาท

นายสุกฤตย์ สุรบถโสภณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) เปิดเผยว่า ผู้เชี่ยวชาญคาดราคาน้ำมันอาจปรับขึ้นถึง90ดอลลาร์/บาร์เรลหลังจากขณะนี้อยู่ที่80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลซึ่งทุกฝ่ายต้องปรับตัวรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น 

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในส่วนกำไรขั้นต้นจากการผลิตของกลุ่ม (GIM) ที่ไม่รวมผลกระทบจากสต็อกน้ำมันในช่วงไตรมาส 3/61 คาดว่าอ่อนตัวลงจากไตรมาส 2/61 เล็กน้อย จากค่าการกลั่น (GRM) ที่อ่อนตัวลงตามฤดูกาล แต่คาดว่าจะมีกำไรจากสต็อกน้ำมัน เนื่องจากราคาน้ำมันดิบปิดสิ้นไตรมาส 3/61 เฉลี่ยที่ราว 76-78 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากระดับ 72 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลในสิ้นไตรมาส 2/61

ขณะที่คาดว่า ค่าการกลั่นรวม (GIM )ไม่รวมผลกระทบจากสต็อกทั้งปี 61 จะต่ำกว่าปีที่แล้วเล็กน้อย จากเดิมที่คาดว่าจะทำได้ระดับใกล้เคียงกัน เนื่องจาก GRM ในไตรมาส 3/61 อ่อนตัวมากกว่าที่คาด

ด้าน บมจ.ไทยออยล์ รายงานว่าราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังนักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับอุปทานที่จะตึงตัวมากขึ้น เนื่องจากเข้าใกล้วันที่ 4 พ.ย. ซึ่งเป็นวันที่สหรัฐฯ เตรียมใช้มาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านและจะส่งผลให้อิหร่านส่งออกน้ำมันดิบได้ลดลง  โดยตลาดประมาณการว่าตัวเลขน้ำมันดิบที่ลดลงจากมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน จะอยู่ในช่วง 0.5 ถึง 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในขณะที่ รัฐบาลสหรัฐฯ ออกมายืนยันที่จะไม่พิจารณาการใช้น้ำมันดิบจากแหล่งสำรองน้ำมันดิบเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Petroleum Reserve) แม้ว่าตลาดจะกังวลถึงอุปทานที่หายไปจากอิหร่านก็ตาม 

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เชื่อว่าสหรัฐฯ จะมีการนำน้ำมันดิบจากแหล่งสำรองน้ำมันดิบเชิงยุทธศาสตร์มาใช้ หากราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นสูงก่อนที่จะมีการเลือกตั้งกลางสมัย (Midterm Elections) ในสหรัฐฯ ในวันที่ 6 พ.ย. นี้ ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นจะเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อพรรครีพับลิกันของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์   ส่วน ซาอุดิอาระเบียมีแนวโน้มที่จะปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า เพื่อรักษาสมดุลของอุปทานที่หายไปจากอิหร่าน. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เสียงสะท้อนจากวีรบุรุษแนวหน้าถึงแนวหลัง

11 ส.ค. – แม้สถานการณ์สู้รบไทย-กัมพูชาเหมือนจะดีขึ้น แต่ยังวางใจไม่ได้ เช่นข่าวทหารไทยเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บอีก 3 นาย วันนี้จะพาไปดูความพร้อมของหน่วยแพทย์ในการดูแลทหารของชาติในฐานะวีรบุรุษ พร้อมข้อคิดจากจ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญชูกล้า หรือจ่าเต้ 1 ในวีรบุรุษ ฝากถึงแนวหลัง.-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” เล็งปิด​ ศบ.ทก. หลังถก​ สมช.​ เคาะสถานการณ์สงบจริง

เมืองทองธานี 11 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ลั่น​ ก็จบ!! ​ หลัง “กองทัพ” ยืนยันแล้ว “แม่ทัพภาค 2” ไม่ได้พูดยึดปราสาทตาควาย ย้ำยังไม่มีอะไรผิดสัญญา เล็งปิด​ ศบ.ทก. หลังประชุม​ สมช.​ 13-14 ส.ค.นี้​ เคาะสถานการณ์สงบจริง​ นายภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี​ กล่าวถึงกรณีพลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2​ ออกมา ประกาศยึดคืนปราสาทตาควาย จะถือเป็นการละเมิดข้อตกลงไทย-กัมพูชาหรือไม่ ว่า​ ยังไม่ได้ยินแม่ทัพภาคที่ 2 พูด​ แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อตกลง​ เมื่อถามว่าแม้กองทัพ จะออกมาปฏิเสธแล้ว​ แต่ทางกัมพูชา​อาจมองเป็นการกระตุ้นให้เกิดความขัดแย้ง และละเมิดข้อตกลง 13 ข้อ นายภูมิ​ธรรม​ กล่าวว่า​ ยังไม่มีอะไรผิดสัญญา กองทัพซึ่งเป็นตัวหลักได้ยืนยันแล้ว​ ก็จบตามนั้น​ เมื่อถามว่า​ สถานการณ์ชายแดน 2-3 วันที่ผ่านมา​ ถือว่าสงบนิ่งหรือไม่​ เนื่องจากมีกระแสข่าวว่าเหตุการณ์ความไม่สงบจะกลับมา​อีก […]

ทบ.ยัน ‘มทภ.2’ ไม่ได้กล่าวรุกล้ำอธิปไตยปมปราสาทตาควาย

11 ส.ค.- โฆษกกองทัพบกโต้กัมพูชา ยันแม่ทัพภาค 2 ไม่ได้กล่าวรุกล้ำอธิปไตยปมปราสาทตาควาย ย้ำไทยไม่มีความพยายาม “ยั่วยุ-วางแผน” ใช้กำลังทางทหารตามที่เขมรกล่าวอ้าง พลตรี​ วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงกรณีกระทรวงกลาโหมกัมพูชาแถลงการณ์ถึงคำสัมภาษณ์ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เรื่องของปราสาทตาควาย ว่า “ยืนยันว่าเนื้อหาที่แม่ทัพภาคที่ 2 พูด ไม่ได้มีความหมายในแบบที่โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาได้แถลงไป โดยเฉพาะท่านไม่พูดเรื่องการเคลื่อนย้ายกำลัง เพื่อรุกล้ำอธิปไตยกัมพูชา สิ่งที่ท่านได้กล่าวในวันนั้นคือ ปราสาทตาควายอยู่ภายใต้อธิปไตยของไทย ในช่วงที่มีการปะทะที่ผ่านมาพยายามเข้าไปยึดด้วยการวางกำลัง แต่ยังไม่สำเร็จ จึงได้ทำการวางกำลังบริเวณด้านนอก ห่างจากตัวปราสาท 30 เมตร แต่ในอนาคตจะต้องพยายามนำกลับมาภายใต้การควบคุมของไทยให้ได้ ตามขั้นตอนที่เหมาะสม พร้อมกล่าวว่าเตรียมนำเรื่องต่างๆ ไปพูดคุยเจรจาในวงเจรจาในกรอบการประชุม RBC ที่จะเกิดขึ้นใน 2 สัปดาห์ และย้ำถึงจุดยืนว่าไทยจะไม่ถอยจากแนวการวางกำลังเดิม ขอยืนยันว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ไม่ได้พูดถึงเรื่องการใช้กำลังทางทหาร ไปดำเนินการอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นที่กล่าวไปในข้างต้น จึงไม่ใช่ความพยายามที่มีการยั่วยุและมีการวางแผนใช้กำลังทางทหารต่อกรณีปราสาทตาควายอย่างที่กัมพูชากล่าวอ้างแต่อย่างใด” -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเล็ก​” ยันรับฟังข้อเรียกร้องต่ออายุราชการ “มทภ.2” ยึดรอบคอบ

11 ส.ค.- “พล.อ.ณัฐพล​” ยันรับฟังข้อเรียกร้องต่ออายุราชการ “แม่ทัพภาค 2” แต่ต้องพิจารณารอบคอบ เพื่อไม่ให้กระทบขวัญกำลังใจผู้ปฏิบัติงานระดับรอง ที่จะมีโอกาสเติบโตก้าวหน้า พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกระแสข่าวเรียกร้องให้มีการต่ออายุราชการทหาร ของ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2  โดยยืนยันว่า รับฟังกระแสเรียกร้องดังกล่าว ที่มีมาจากคนไทยที่รักประเทศ และห่วงใยในสถานการณ์ หลังการสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชาเพิ่งผ่านไป ซึ่งในฐานะผู้บังคับบัญชา ยืนยันว่ารับฟังข้อเรียกร้องดังกล่าว อย่างไรก็ตามเรี่องนี้ ยืนยันว่าจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ สิ่งสำคัญ ต้องพิจารณาภาพรวมขวัญและกำลังใจของผู้ปฏิบัติงานระดับรอง ที่จะมีโอกาสก้าวหน้าเติบโตต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาสถานการร์การสู้รบ ทั้งแม่ทัพภาค 2 เอง และผู้บังคับบัญชาระดับรอง ต่างก็ทำภารกิจอย่างเต็มกำลัง และมีความสามารถทั้งหมด นักวิชาการไม่เห็นด้วยปมต่ออายุราชการ “แม่ทัพภาค 2” ผศ. ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต  ได้โพสท์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุถึงประเด็นดังกล่าวว่า เรื่องการขอเสนอการต่ออายุราชการ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ออกไปนั้น ตนไม่เห็นด้วย ขอให้วางใจวางสติให้ดี ว่าเราต้องไม่ตกหลุมกับดักของคนภายในและภายนอก […]