เริ่มแล้ว! อภ .ศึกษาวิจัยสารสกัดกัญชาเน้นรักษา 4 โรคหลักคาดแล้วเสร็จเดือนธันวาคม

อภ. 25 ก.ย. .-อภ . รับมอบกัญชาของกลางยาเสพติด จาก ป.ป.ส. เพื่อนำมาศึกษาวิจัยคาดว่าจะสามารถสกัดเป็นน้ำมันกัญชาได้แล้วเสร็จในเดือนธันวาคม  เน้นรักษา 4 โรคหลัก อาทิ ลมชัก ผลข้างเคียงจากการให้คีโม  ย้ำไม่ได้รักษามะเร็ง ส่วนการปลดล็อกกัญชา ยังอยู่กระบวนการพิจารณาของสนช.  


นพ.โสภณ เมฆธน ประธานบอร์ดองค์การเภสัชกรรม พร้อมตัวแทนป.ป.ส. ส่งมอบกัญชาของกลาง 100 กิโลกรัมให้แก่องค์การเภสัชกรรม เพื่อการศึกษาวิจัย ท่ามการการรักษาความปลอดภัยเข้มงวด   ที่ตึกสถาบันวิจัยและพัฒนา องค์การเภสัชกรรม  นพ.โสภณ กล่าวว่า การนำของกลางยาเสพติดให้โทษ ในส่วนของกัญชา มาใช้ในการศึกษาวิจัยนั้น จะนำมาสกัดเป็นสารสกัดน้ำมันกัญชา โดยกัญชา 100 กิโลกรัม สามารถผลิตเป็นสารสกัดได้ถึง 18,000 ขวด. ขวดละ 5 ซีซี   คาดว่าจะสามารถสกัดเป็นน้ำมันกัญชาได้แล้วเสร็จ ในเดือนธันวาคม ซึ่งสารสกัดน้ำมันกัญชานี้ จะนำไปทำน้ำมันหยดใต้ลิ้น ซึ่งมุ่งศึกษาวิจัย หาสารสำคัญในกัญชา ที่มีอยู่ 2 ชนิด คือ TSC  และ CBD  เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ มุ่งรักษา 4 โรคสำคัญ 1.แก้อาการคลื่นไส้อาเจียน  จากผลข้างเคียงจากการรับคีโม  ทำให้ผู้ป่วยมะเร็งกลับมาเจริญอาหาร. 2.การรักษาโรคลมชัก 3. ปวดปลอกปลายประสาทอักเสบ และ 4 รักษาบรรเทาอาการปวดอื่น ทดแทนการใช้มอร์ฟีน แต่ไม่สามารถรักษามะเร็งได้  


พล ต.ต. ทนงศักดิ์ ทั่งทอง รองผบช.ปส. กล่าวว่า การคัดเลือกของกลางยาเสพติด เพื่อนำมาส่งให้อภ.ศึกษาวิจัย นั้นเป็นกัญชาของกลาง ที่จับกุมได้ในปี 2561 โดยเป็นกัญชาอัดแท่ง และดอกกัญชา มี ทั้งกัญชา สายพันธุ์ SATIVA  ของไทย  และสายพันธุ์  INDICA ของแคนาดา  ที่ผ่านมา เคยมี 2 สถาบันการศึกษา ได้ขอของกลางมาศึกษาวิจัย ได้แก่ มหาวิทยาลัยนเรศวร และมหาวิทยาลัยรังสิต ซึ่งทาง ป.ป.ส. มีความยินดี ที่จะส่งมอบให้ เนื่องจากมองว่าของกลางยาเสพติดเหล่านี้ ล้วนแต่เป็นขยะ และรอการเผาทำลายอยู่แล้วทุกปี ซึ่งของกลางยาเสพติดที่ทางป.ป.ส. ส่งมอบให้นั้น มีการตรวจสอบความปลอดภัย จากสารเคมี และยาฆ่าแมลง สามารถนำมาทำลองศึกษาวิจัยได้ 

ส่วนเรื่องของขั้นตอนทางกฎหมาย ในการปลดล็อกกัญชา นั้น นพ.โสภณ กล่าวว่า  การปลดล็อกมีการเข้าสู่การพิจารณาของสนช.แล้ว ส่วนเรื่องการจะใช้ม.44 เพื่อปลดล็อกก็ยังอยู่ในระหว่างการหารือ แต่คาดว่าทุกอย่างจะทำคู่ขนานกันไปกับการศึกษาวิจัย งานวิจัยยังครอบคลุมเรื่องการพัฒนาสายพันธุ์กัญชา ให้มีประสิทธิภาพทางยา โดยจะมีการทดลองปลูกในห้องปฏิบัติการขององค์การเภสัชกรรมด้วย 


ผศ.ดร.วิเชียร กีรตินิจกาล อาจารย์คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า กัญชาสายพันธุ์ไทยนับว่ามีชื่อเสียง มีปริมาณ สารสำคัญมาก  บางพื้นที่ของโลก อย่างออสเตเลีย มีการตั้งเป้าปลูกเพื่อการส่งออก  มีมูลค่าสูง ถึง  4.6 ล้านล้านบาท ซึ่งสูงกว่ามูลค่าการท่องเที่ยวของประเทศไทยถึง 3 เท่า  อีกทั้งในอนาคตยาที่มีส่วนผสมจากกัญชา  จะต้องมีใช้ อย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ และกลายเป็นยานำเข้าจากต่างประเทศที่มีราคาแพงอย่างแน่นอน  โดย  1. ซีซี หรือ 5 หยด ราคา 1,000 บาท   ขณะที่องค์การอนามัยโลกได้ประกาศ ว่ากัญขามีแนวโน้มสูงที่จะนำมารักษาโรคพาร์กินสันและอัลไซเมอร์ได้ .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้โรงอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย

เพลิงไหม้โรงงานอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่เร่งนำรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ เพื่อควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่ใกล้เคียง เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้

พุ่งไม่หยุดราคาทองคำโลกนิวไฮอีก คาดไปต่อถึง 3 พันดอลลาร์/ออนซ์

ราคาทองคำตลาดโลกพุ่งแตะ 2,800 ดอลลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ นักวิเคราะห์คาดมีโอกาสพุ่งต่อถึง 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่งผลราคาทองไทยวันนี้ขึ้นต่อจากราคาปิดวานนี้ และทำนิวไฮเท่าวานนี้

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : คอมมาลา แฮร์ริส

รายงานศึกชิงทำเนียบขาว 2024 พาไปรู้จักกับนางคอมมาลา แฮร์ริส ที่เพิ่งได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ไม่กี่เดือนก่อนเลือกตั้ง เปรียบเหมือนการเปลี่ยนม้าใหม่กลางศึก หากชนะได้เธอจะกลายเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐด้วย

เปิดโครงการ “เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต” ครั้งที่ 10

นายกฯ ควง “คุณหญิงพจมาน-ครอบครัว” นำ ครม.-ประชาชน ร่วมโครงการเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

สาว อบต.ตกใจ ตำรวจตามรอยเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน

สาว อบต. ตกใจ ตำรวจมาถึงที่ทำงาน ถามถึงเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน ยันไม่เคยรู้จัก “มาดามอ้อย-ทนายตั้ม” มาก่อน