กรุงเทพฯ 24 ก.ย.-“อัจฉริยะ”เดินหน้ายื่นหลักฐานให้อัยการสูงสุด เอาผิดคนช่วย”เอมี่”นางเอกสาว หลุดคดียาเสพติด เป็นตำรวจ 3 นาย อัยการ 1 คน
นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำหลักฐานเข้ายื่นต่ออัยการสูงสุด เพื่อให้ตรวจสอบคดีของนางสาวเอเมเรีย จาคอป หรือ เอมี่ อดีตนางเอกธิดาวานร หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชน ที่ให้เบาะแสมา และมีพยานหลักฐานสำคัญเป็นเอกสารราชการ ที่เชื่อว่าทำเป็นขบวนการ ที่มีทั้งตำรวจประมาณ 3 นาย พลเรือน 2 คน อัยการ 1 คน และคนที่แอบอ้างตัวเป็นอัยการและทนายความ ที่ร่วมกันวิ่งเต้นล้มคดี ที่อดีตนางเอกสาว ตกเป็นจำเลย ในคดีค้ายาเสพติด ต่อมาศาลยกฟ้อง ด้วยเงินหลายล้านบาท โดยมีนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยงค์ รองโฆษกอัยการสูงสุด และนางชนิญญา ชัยสุวรรณ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดียาเสพติด เป็นผู้มารับเรื่องไว้ ก่อนนำเสนอให้อัยการสูงสุดพิจารณา
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า คดีนี้ มีจุด ที่เป็นพิรุธ น่าสงสัย คือ หลักฐานต่างๆในคดีหลุดไปอยู่ในมือของจำเลย เช่น คลิปวิดีโอขณะจับกุมก็มีการตัดต่อและนำไปใช้ในชั้นศาล จนศาลเชื่อทำให้เอมี่หลุดคดี และยังมีพยานบุคคล ที่รู้เห็นเกี่ยวกับการกระทำความผิด พยานเอกสาารทางราชการ ซึ่งหากอธิบดีอัยการสำนักงานคดียาเสพติดเห็นเอกสาร จะเข้าใจได้ทันที และเชื่อว่าภายใน3 วันนี้น่าจะมีคนที่ถูกดำเนินคดี โดยมั่นใจพยานหลักฐานที่มีอยู่สามารถเอาผิดขบวนการได้อย่างแน่นอน และพร้อมรับผิดชอบคำพูดของตัวเอง และขอยืนยันด้วยว่านี่คือการวิ่งเต้นล้มคดียาเสพติดและทำเป็นขบวนการ และหลักฐานที่นำมาเสนอต่ออธิบดีอัยการสำนักงานคดียาเสพติดในวันนี้สามารถชี้ชัดได้เลยว่าอัยการมีส่วนเกี่ยวข้อง ส่วนที่ออกมาเอาผิดเรื่องนี้เพราะต้องการเอาผิดขบวนการนี้เพราะยาเสพติดเป็นเรื่องบ่อนทำลายชาติไม่เกี่ยวกับความขัดแย้งกับนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ทนายความของเอมี่ เพราะไม่ใช่สาระสำคัญ
ด้าน นายโกศลวัฒน์ ระบุว่า จะนำเอกสารหลักฐานที่ได้รับ เสนอต่อ อัยการสูงสุด เพื่อตรวจสอบแต่ทั้งนี้ต้องรอผลสอบสวนจากกองบัญชาการตำรวจนครบาลประกอบด้วย อีกทั้งยังต้องตรวจสอบบุคคลที่แอบอ้างเป็นอัยการที่นายอัจฉริยะกล่าวอ้าง ถ้าหากพบว่ามีการแอบอ้างจริงก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย
ขณะท่ีนางชนิญญา ยืนยัน ว่าคดีของอดีตดาราสาวเอมี่ พนักงานสอบสวน สน.สายไหม ส่งสำนวนมาให้อัยการในฝากที่ 7 ทั้งที่ต้องส่งสำนวนให้เร็วกว่านี้ ทำให้อัยการไม่มีเวลาตรวจสอบสำนวน ซึ่งอัยการที่ทำคดีนี้เป็นรูปแบบคณะทำงานเป็นพนักงานอัยการจำนวน5 คน ซึ่งทุกคนล้วนมีประวัติดีไม่เคยมีการร้องเรียน และข้อมูล หลักฐาน เอกสาร ภาพถ่าย ที่ได้รับจากนายอัจฉริยะในวันนี้ก็ถือว่าเป็นประโยชน์อย่างมาก และจากการตรวจสอบภาพถ่าย พบว่าอัยการที่แอบอ้างไม่ใช่คณะทำงานพิจารณาสำนวนคดีของอดีตนางเอกสาว ซึ่งก็ต้องเอาภาพดังกล่าวไปตรวจสอบในสารระบบของอัยการว่าเป็นอัยการจริงหรือไม่ นอกจากนี้ยังสั่งตั้งกรรมการขึ้นมาพิจารณา เรื่องดังกล่าวให้แล้วเสร็จโดยเร็วเนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ ส่วนการอุทธรณ์คดี ดังกล่าว ได้รับรายงานว่า อัยการได้คำพิพากษาคดีนี้มาเมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา อาจต้องขอขยายเวลาในการยื่นอุทธรณ์เพราะตามกฎหมายนั้นต้องยื่นภายใน 30 วัน เพราะอัยการต้องพิจารณาคำพิพากษาอย่างละเอียดว่าจะอุทธรณ์ในประเด็นใดบ้าง.-สำนักข่าวไทย