นนทบุรี 24 ก.ย. – พาณิชย์เร่งตรวจสอบสตอกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และข้าวสาลีทั่วประเทศ เพื่อติดตามปริมาณคงเหลือที่อยู่ในความครอบครองของผู้ผลิตอาหารสัตว์และผู้รวบรวม
รัฐบาลได้มีนโยบายในการดูแลสินค้าเกษตรที่สำคัญ เช่น ข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง วัตถุดิบอาหารสัตว์ และสินค้าเกษตรอื่นๆ ซึ่งเป็นสินค้าควบคุมตามมาตรการกำกับดูแลสินค้าเกษตร เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้งเกษตรกร ผู้ประกอบการ และผู้บริโภค เพื่อนำไปประกอบการพิจารณากำหนดมาตรการและการแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตรอย่างเป็นระบบ คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จึงมีมติมอบหมายให้คณะทำงานตรวจสอบสตอกสินค้าเกษตรดำเนินการตรวจสอบสตอกสินค้าเกษตรคงเหลืออย่างเคร่งครัดและต่อเนื่อง
นายฉัตรชัย ศักดิ์ศิลปชัย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า คณะทำงานตรวจสอบสตอกสินค้าเกษตรได้จัดคณะสายตรวจออกตรวจสอบสตอกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และข้าวสาลี ประกอบด้วย ผู้แทนจากกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 32 สาย ตรวจสอบสตอกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และข้าวสาลีในพื้นที่ 41 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ปทุมธานี สิงห์บุรี นครนายก กาญจนบุรี นครสวรรค์ อุทัยธานี ปราจีนบุรี จันทบุรี ชลบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร สระบุรี ราชบุรี พระนครศรีอยุธยา นครปฐม เพชรบุรี สุพรรณบุรี ลพบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สระแก้ว ลำพูน พิษณุโลก พิจิตร ลำปาง เชียงใหม่ อุตรดิตถ์ แพร่ กำแพงเพชร น่าน เพชรบูรณ์ นครราชสีมา ขอนแก่น อุบลราชธานี ชัยภูมิ เลย หนองคาย พะเยา ตาก เชียงราย และสงขลา ระหว่างวันที่ 17 – 23 กันยายน 2561 เพื่อติดตามปริมาณข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และข้าวสาลีคงเหลือที่อยู่ในความครอบครองของผู้ผลิตอาหารสัตว์และผู้รวบรวม 426 ราย โดยการตรวจนับปริมาณข้าวโพดเลี้ยงสัตว์คงเหลือทั้งชนิดเมล็ดและชนิดฝัก และข้าวสาลีเทียบเคียงกับปริมาณคงเหลือตามบัญชี
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 22 กันยายนที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่ติดตามการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่สายตรวจในจังหวัดปทุมธานี ณ บริษัท เซนทาโกไซโล จำกัด และบริษัท ท๊อป ฟีด มิลล์ จำกัด เพื่อรับทราบผลการปฏิบัติงานและปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการตรวจสตอกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากผู้ประกอบการที่ใช้ข้าวโพดผลิตอาหารสัตว์และผู้ประกอบการที่รับซื้อรวบรวมข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการรับซื้อและผู้ครอบครองข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่มีปริมาณตั้งแต่ 50 เมตริกตันต่อเดือนขึ้นไปให้ปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) โดยแจ้งราคา ปริมาณ สถานที่เก็บ จัดทำบัญชีควบคุมสินค้าข้าวโพด และแสดงราคารับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้ถูกต้อง เพื่อให้สามารถนำข้อมูลมาประกอบการพิจารณากำหนดมาตรการกำกับดูแลข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับสถานการณ์การค้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์อย่างแท้ตามมาตรการของกระทรวงพาณิชย์.-สำนักข่าวไทย