ก.วัฒนธรรม 20 ก.ย.-ก.วัฒนธรรม ร่วมกับ จ.เพชรบูรณ์จัดงาน “ประเพณีอุ้มพระดำน้ำ” หนึ่งเดียวในโลก 7-12 ต.ค.นี้ ยกระดับเทศกาลประเพณีไทยสู่นานาชาติสร้างรายได้สู่ท้องถิ่นและประเทศไทย
นางฉวีรัตน์ เกษตรสุนทร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม แถลงข่าวการจัดงานประเพณีอุ้มพระดำน้ำ จังหวัดเพชรบูรณ์ ประจำปี 2561 โดยระบุว่า วธ.มุ่งเน้นให้ประชาชนได้มีส่วนร่วม สร้างรายได้และความภาคภูมิใจในมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของท้องถิ่นและเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ สร้างความสัมพันธ์อันดีกับนานาชาติและภาพลักษณ์ที่ดีประเทศ ส่งเสริมประเพณีท้องถิ่นจนเป็นที่รู้จักกว้างขวางทั้งในประเทศและต่างประเทศ งานประเพณีอุ้มพระดำน้ำจังหวัดเพชรบูรณ์ ประจำปี พ.ศ.2561 เป็นงานที่มีความสำคัญต่อศรัทธาของผู้คนเป็นงานประเพณีเก่าแก่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะหนึ่งเดียวในโลกแสดงถึงความศรัทธาอันเปี่ยมล้นที่มีต่อพระพุทธศาสนาและองค์พระพุทธมหาธรรมราชา
อีกทั้งเป็นการสร้างจิตสำนึกให้แก่พุทธศาสนิกชนได้น้อมนำหลักธรรมของพระพุทธเจ้ามาใช้ในการดำเนินชีวิต รวมทั้งก่อให้เกิดกำลังใจในการสร้างความดีและละเว้นความชั่ว ทำให้สังคมเกิดความสงบสุข โดยถือเอาวันสารทไทย ตรงกับวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 ของทุกปี เป็นวันประกอบพิธี โดยผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้อัญเชิญ “พระพุทธมหาธรรมราชา” ที่เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองลงดำน้ำในแม่น้ำป่าสักตามความเชื่อเก่าแก่ที่มีมานานกว่า 400 ปี
ทั้งนี้ เชื่อกันว่าพิธีนี้จะทำให้ “น้ำท่าอุดมสมบูรณ์ บ้านเมืองร่มเย็นเป็นสุข” นำความสุข ความสงบร่มเย็น ทำให้ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล พืชผลการเกษตรอุดมสมบูรณ์และช่วยให้ชาวเพชรบูรณ์มีความเจริญรุ่งเรืองสืบไป
สำหรับกิจกรรมงานประเพณีอุ้มพระดำน้ำจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้แก่ พิธีบวงสรวงเทพยดา ประกวดวาดภาพ และแข่งขันตอบปัญหาท้องถิ่น การแข่งขันพายเรือทวนน้ำ ณ วัดไตรภูมิ การประกวดโต๊ะหมู่บูชาการแสดงแสงเสียง ตำนานอุ้มพระดำน้ำ ตลาดนัดคุณธรรมและเทศกาลอาหารอร่อย การประกวดสำหรับอาหารพื้นบ้าน ณ พุทธอุทยานเพชบุระ และกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา ณ วัดเพชรวราราม โดยมีพิธีสำคัญคือ การอัญเชิญ “พระพุทธมหาธรรมราชา” จากวัดไตรภูมิแห่รอบเมืองเพชรบูรณ์ในวันที่ 8ตุลาคม 2561
รวมทั้งมีพิธีเปิดงาน ณ บริเวณหน้าหอโบราณคดีเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย และพิธีอุ้มพระดำน้ำ ในวันที่ 9 ตุลาคม 2561 ณ บริเวณท่าน้ำวัดโบสถ์ชนะมาร ส่งเสริมการเรียนรู้และท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และเผยแพร่ประเพณีศิลปวัฒนธรรมไทยให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายทั้งระดับประเทศและระดับนานาชาติ รวมถึงสนับสนุนให้ เด็ก เยาวชนและประชาชนได้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ พัฒนาและสืบทอดประเพณีท้องถิ่นไปสู่คนรุ่นหลัง .-สำนักข่าวไทย