เห็นชอบออกระเบียบสำนักนายกฯว่าด้วยการประเมินสิ่งแวดล้อมฯ

ทำเนียบฯ 19 ก.ย.- ที่ประชุมคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน เห็นชอบ ออกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการประเมินสิ่งแวดล้อมเชิงยุทธศาสตร์ ใช้ควบคู่กับการประเมิน EIA-EHIA โครงการใหญ่ เพื่อสร้างตัวชี้วัดให้มีคุณภาพ


นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ครั้งที่ 1/2561 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยที่ประชุมได้เห็นชอบ ให้นำการประเมินสิ่งแวดล้อมเชิงยุทธศาสตร์ หรือ SEA  มาใช้ในการประเมินควบคู่กับ รายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA และ รายงานการวิเคราะห์ผลกระทบต่อสุขภาพ หรือ EHIA ในการประเมินการดำเนินโครงการขนาดใหญ่ เพื่อเพิ่มมุมมองที่กว้างขึ้นในเชิงยุทธศาสตร์ นโยบาย และ ผลกระทบ ต่อความยั่งยืนในระยะยาว โดยมอบหมายให้ นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  เป็นผู้รับผิดชอบ  

เลขาฯ สภาพัฒน์ กล่าวว่า จะมีการออกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมเชิงยุทธศาสตร์ขึ้นมาด้วย ซึ่งระหว่างนี้จะต้องดำเนินงานเก็บข้อมูล เพื่อนำมาวิเคราะห์ว่าจังหวัดใดต้องมีการพัฒนาอย่างยั่งยืน ถึงแม้ปัจจุบันคนไทยจะใช้อินเทอร์เน็ตจำนวนมาก แต่พบว่าข้อมูลที่มีอยู่ยังไม่เพียงพอในการนำไปวางแผนเพื่อพัฒนา อีกทั้งยังต้องดูว่าจะต้องมีการสร้างตัวชี้วัดใดขึ้นมาเพิ่มหรือไม่  จากนี้ต้องไปพิจารณาว่าจะมีโครงการใด ที่จะใช้การประเมินเชิงยุทธศาสตร์ SEA ซึ่งจะหยิบยกมาเพียงโครงการใหญ่ ๆ 3-4 โครงการ ที่ทำไปแล้วจะทำให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน ทำให้ประชาชนดีขึ้นในระยะยาว สิ่งแวดล้อมไม่เสียหาย โดยนายกรัฐมนตรี เน้นย้ำ ว่าแม้จะมีกระบวนการประเมินเพิ่มขึ้น แต่จะต้องไม่ทำให้การพิจารณาโครงการล่าช้า และเปิดกว้างเพื่อให้เกิดประโยชน์มากที่สุด.-สำนักข่าวไทย  


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย