กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – กนง.มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง คงดอกเบี้ยร้อยละ 1.50 พร้อมปรับลดการส่งออกปีหน้าเหลือโตร้อยละ 4.3 ผลกระทบจากสงครามการค้า
นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ เลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการ กนง.มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 1.50 ต่อปี และมี 2 เสียงให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 เป็นร้อยละ 1.75 ต่อปี แต่ที่ประชุม กนง.เห็นว่าความจำเป็นในการใช้นโยบายการเงินระดับผ่อนคลายมากทยอยลดลงเรื่อย ๆ
นายจาตุรงค์ กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่อง ดังนั้น คณะกรรมการ ฯ จึงคงประมาณการอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปีนี้ร้อยละ 4.4 และปี 2562 เติบโตร้อยละ 4.2 แม้ว่าโครงการลงทุนภาครัฐบางโครงการเลื่อนออกไป คือ โครงการรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 รถไฟฟ้าสายสีม่วง รถไฟชานเมืองบางซื่อ-รังสิต แต่เนื่องจากการบริโภคภาคเอกชนและการลงทุนเอกชนขยายตัวดีขึ้นมาชดเชย ทำให้คณะกรรมการคงอัตราการขยายตัวไว้ระดับเดิม
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม คือ ผลกระทบจากนโยบายกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่มีผลต่อการค้าโลกและการส่งออกไทยบ้าง คาดว่าผลกระทบที่มีต่อไทยจะมากขึ้นตั้งแต่ปี 2562 ดังนั้นคณะกรรมการฯ จึงปรับการส่งออกขยายตัวชะลอลงบ้างเหลือร้อยละ 4.3 จากเดิมร้อยละ 5 ส่วนการส่งออกปีนี้ขยายตัวร้อยละ 9 ตามที่เคยคาดการณ์
นอกจากนี้ คณะกรรมการ ฯ เป็นห่วงการแข่งขันการปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยที่ส่งผลให้มาตรฐานการปล่อยสินเชื่อลดลงและภาวะอุปทานคงค้างของอาคารชุดในบางพื้นที่อย่างใกล้ชิด รวมถึงพฤติกรรมการก่อหนี้ของภาคครัวเรือน เนื่องจากสถานะหนี้ครัวเรือนยังไม่ปรับตัวดีขึ้น โดยหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีไตรมาส 1/2561 ยังสูงอยู่ที่ร้อยละ 77.6 พร้อมให้ติดตามการแข็งค่าของเงินบาทที่เกิดจากการเคลื่อนย้ายเงินทุน ซึ่งอาจไม่สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจไทย เนื่องจากนักลงทุนเห็นว่าเงินบาทเป็น SafeHaven เพราะพื้นฐานเศรษฐกิจไทยแข็งแกร่ง.-สำนักข่าวไทย