ประธานบอร์ดจีพีเอสซีตั้งโต๊ะแถลงซื้อโกลว์ไม่ผิดกฎหมาย

กรุงเทพฯ 18 ก.ย. – ประธานบอร์ดจีพีเอสซีแถลงการซื้อหุ้นโกลว์ไม่ผิดรัฐธรรม ไม่ผิดกฏหมายใด ๆ แต่ต้องรอบอร์ด กกพ.ชุดใหม่ชี้ขาด ยืนยันราคาเหมาะสม พร้อมเดินสายพบลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มปูนใหญ่ ,ดาวเคมิคอล, ลินเด้ให้เข้าใจ สัญญาเท่าเทียมโปร่งใส ไม่ผูกขาด 


นายสุรงค์ บูลกุล ประธานคณะกรรมการ บมจ.โกลบอลเพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ หรือจีพีเอสซี กล่าวว่า ข้อตกลงการซื้อขายหุ้นระหว่างจีพีเอสซีและโกลว์นั้น ขอยืนยันว่าได้มีการว่าจ้างที่ปรึกษาทางด้านการเงินทางด้านกฎหมายดูอย่างครบถ้วน ยืนยันไม่ผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นรัฐธรรมนูญมาตรา 75 (2)  เรื่องที่รัฐต้องไม่ประกอบกิจการที่มีลักษณะเป็นการแข่งขันกับเอกชน  และกฎหมายการประกอบกิจการพลังงาน เนื่องจากจีพีเอสซีเป็นบริษัทเอกชนในตลาดหลักทรัพย์ไม่ใช่รัฐวิสาหกิจ ขณะที่ สัดส่วนการผลิตไฟฟ้าหากเมื่อควบรวมกันแล้ว มีกำลังผลิตประมาณ  5,000 เมกะวัตต์ หรือมีสัดส่วนร้อยละ 6.9 ของกำลังผลิตของประเทศ นับเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าอันดับ 4-5 รองจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง และกลุ่มกัลฟ์ ดังนั้น จึงไม่ถือว่ามีการผูกขาดแต่อย่างใด 

อย่างไรก็ตาม เรื่องการพิจารณาว่าจะอนุญาตให้ซื้อหุ้นได้หรือไม่ ต้องรอคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ( กกพ.) ชุดใหม่พิจารณา โดยมีกำหนดตามกฎหมาย กกพ. คือ พิจารณาภายใน 90 วัน ตั้งแต่จีพีเอสซีและโกลว์ยื่นเรื่องไปถึง โดยจะครบกำหนดภายในปลายเดือนกันยายนนี้ และ กกพ.สามารถขยายเวลาพิจารณาได้อีก 15 วัน หรือกลางเดือนตุลาคม 2561


“แม้จีพีเอสซีและโกลว์ จะหารือเจรจากันบนพื้นฐานเชิงพาณิชย์ระหว่างกัน ผู้ขายและผู้ซื้อพอใจ และดูด้านกฎหมายครบถ้วน  ไม่มีเรื่องทางการเมืองเกี่ยวข้อง แต่สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับบอร์ด กกพ.จะตัดสินใจ ซึ่งก็พร้อมยอมรับ หากทุกอย่างลุล่วงก็จะเดินหน้ากู้เงินและจ่ายเงินตามข้อตกลง ขณะเดียวกันยืนยันว่าบริษัทยังเดินหน้าการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ เช่น เมียนมาตามแผน และถือว่าจีพีเอสซีนั้นเป็นหุ้นมาตามนัด ” นายสุรงค์ กล่าว

นายสุรงค์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้เดินสายทำความเข้าใจลูกค้าของโกลว์ที่มีความเป็นห่วงเรื่องความโปร่งใส สัญญาไม่เท่าเทียมและผูกขาด เพราะจีพีเอสซี เป็นบริษัทในเครือ ปตท. โดยที่ผ่านมาได้ชี้แจงกลุ่มลินเด้ ไปแล้ว ในเย็นวันนี้จะเข้าพบนายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย และจะเข้าไปพบกลุ่มดาวเคมิคอลต่อไป โดยให้ความยืนยันว่าสัญญาลูกค้าจะเป็นเหมือนเดิม โดยกลุ่มลูกค้าในนิคมฯ มาบตาพุดเป็นสัญญาระยะยาวมากกว่า 10 ปีที่เหลืออยู่ขึ้นไป และจากที่เป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ มีข้อกำหนดชัดเจนไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลความลับทางการค้าให้กับรายอื่น ๆ ได้ โดยบริษัทพร้อมจะทำข้อตกลงสัญญาเพิ่มเติมระหว่างกัน หากกลุ่มลูกค้าต้องการ 

ส่วนกรณีที่นายกรณ์ จาติกวณิช ประธานคณะกรรมการนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาคัดค้านการซื้อกิจการ และระบุว่าราคาที่ซื้อหุ้นโกลว์ ราคา 94.892 บาทต่อหุ้น ที่กลุ่ม ENGIE จะได้ประมาณ 96,000 ล้านบาทนั้น  เป็นราคาเต็มมูลค่า หรือสูงเกินไปนั้น นายสุรงค์ กล่าวว่า หากนายกรณ์ เชิญไปให้ข้อมูลทางบริษัทก็พร้อมชี้แจงทั้งเรื่องกฎหมายและอื่น ๆ โดยราคาที่ซื้อนี้เป็นราคาที่เหมาะสม ที่เรียกว่าใช้ราคา DCS หรือกระแสเงินสดคิดลดที่เป็นหลักการที่ใช้กันทั่วโลก โดยที่ผ่านมาข้อตกลงการซื้อหุ้นผ่านการเห็นชอบจากการประชุมผู้ถือหุ้นทั้ง 2 บริษัท และผู้ถือหุ้นจีพีเอสซีร้อยละ 99.98 เห็นชอบไปแล้ว 


นอกจากนี้ บริษัทไม่มีเจตนาจะผูกขาดใด ๆ  และการผลิตไฟฟ้า ก๊าซธรรมชาติก็เป็นไปตามระบบการค้าเสรี ซึ่งความเสี่ยงในอนาคตก็มี บริษัทไม่ได้ห่วงเรื่องการผูกขาด แต่จากเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปมีความเสี่ยงเรื่องลูกค้าจะยกเลิกสัญญาในอนาคตมากกว่า และหันไปพึ่งกาผลิตไฟฟ้าของตัวเองมากขึ้น 

นายเติมชัย บุญนาค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่จีพีเอสซี  กล่าวว่า การซื้อหุ้นโกลว์นั้น เป็นการเสริมเติมนโยบายภาครัฐในเรื่องการจัดหาพลังงาน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุน ในพื้นที่อีอีซี.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ตรวจสอบบ้านลักลอบทำประทัดไล่นก บึ้มกลางชุมชน

สุพรรณบุรี 31 ก.ค. – จากเหตุบ้านที่ลักลอบทำประทัดไล่นก เกิดระเบิดขึ้น ทำให้มีผู้เสียชีวิต วันนี้ตำรวจเข้าเก็บหลักฐานเพิ่มเติม ยืนยันว่าที่เกิดเหตุไม่ใช่โรงงาน แต่เป็นที่ลักลอบทำ ที่น่าตกใจคือหลังเกิดเหตุชาวบ้านโดยรอบบอกว่า ไม่เคยรู้มาก่อนว่าบ้านดังกล่าวลักลอบทำประทัดไล่นก จี้หน่วยงานตรวจสอบ กลัวว่าอาจจะมีบ้านที่ลักลอบทำอีก.-สำนักข่าวไทย

พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ 7 ผู้บริสุทธิ์

ศรีสะเกษ 31 ก.ค. – ที่จังหวัดศรีสะเกษ มีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ 7 ผู้บริสุทธิ์ ที่เสียชีวิตบริเวณปั๊มน้ำมัน ในพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ จากการโจมตีของกัมพูชา ที่วัดมหาพุทธาราม หรือวัดพระโต พระอารามหลวง จ.ศรีษะเกษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ ในการพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และวางพวงมาลาพระราชทาน แก่ประชาชน รวม 7 คน ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความความไม่สงบ ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยผู้เสียชีวิต 6 คน เป็นประชาชนเสียชีวิตบริเวณปั๊มน้ำมัน ในพื้นที่บ้านผือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีษะเกษ และอีก 1 คนเสียชีวิตจากระเบิดลงบ้าน ในพื้นที่หมู่ที่ 4 ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยมีนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานในพิธี พร้อมครอบครัวผู้เสียชีวิต และมีพิธีการบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมทุกคืน ถึงวันที่ 2 ส.ค.นี้ ก่อนจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพ 3 สิงหาคมนี้ ด้านนายคมสันต์ […]

พบโดรนปริศนาหลายพื้นที่ คาดเป็นโดรนจารกรรม

บุรีรัมย์ 31 ก.ค. – แม้จะมีประกาศห้ามบินโดรนทั่วประเทศตั้งแต่เมื่อวานนี้ แต่ในหลายพื้นที่ยังตรวจพบโดรนปริศนาขึ้นบิน เบื้องต้นคาดเป็นโดรนสอดแนม ขณะที่วิทยุการบินฯ วอนประชาชนร่วมมือ หากฝ่าฝืนจะใช้มาตรการทางทหารจัดการทันที เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. คืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างจรรยา จุด อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ใช้โทรศัพท์บันทึกภาพโดรนที่บินเหนือ รพ.เฉลิมพระเกียรติ ไว้ได้ และยังพบว่ามีโดรนบินเหนือบ้านตะโก, บ้านยายคำ, ตลาดตาเป๊กและบ้านเจริญสุข รวมทั้งหมด 4 แห่ง บินวนเวียนประมาณ 5 นาที จึงพยายามตรวจสอบโดยรอบพื้นที่ ก่อนจะพบรถตู้ยี่ห้อฮุนไดสีดำจอดอยู่ เชื่อว่าน่าจะเป็นเจ้าของโดรน เมื่อเข้าไปสอบถามคนในรถตู้ ที่เปิดกระจกลงมาพูดคุย เห็นภายในรถตู้มีคนประมาณ 3-4 คน มีอุปกรณ์คล้ายเครื่องควบคุมอะไรบางอย่างอยู่ในรถ จึงสอบถามว่าจะไปที่ไหน ได้รับคำตอบว่าจะไปสระแก้ว หลังจากนั้นรถตู้ได้ขับหนีออกไปอย่างรวดเร็ว แม้จะพยายามขับรถไล่ตามแต่ตามไม่ทัน เชื่อว่าเป็นโดรนของกัมพูชามาบินสอดแนมอย่างแน่นอน ส่วนที่ อำเภอบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ตรวจพบโดรนปริศนาหลายสิบลำ บินว่อนเหนือพื้นที่อำเภอบ้านกรวด ครอบคลุมพื้นที่ 7 ตำบล คือ ตำบลสายตะกู ตำบลจันทบเพชร […]

ทบ. เชิญผู้ช่วยทูตทหารอาเซียนรับฟังข้อเท็จจริงชายแดนไทย-กัมพูชา

กทม. 31 ก.ค.- ทบ. เชิญผู้ช่วยทูตทหารอาเซียนร่วมหารือและรับฟังการชี้แจงข้อเท็จจริง อัปเดตสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังตั้งทีมเฝ้าติดตามหยุดยิงชายแดนไทย-กัมพูชา วันนี้ (31 ก.ค.68) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพบกโดยกรมข่าวทหารบก ร่วมหารือกับผู้ช่วยทูตทหารอาเซียนประจำประเทศไทย นำโดยผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียประจำประเทศไทย ณ อาคารศรีสิทธิสงคราม ภายในกองบัญชาการกองทัพบก โดยมี พล.ท.กำชัย วงศ์ศรี เจ้ากรมข่าวทหารบก เป็นประธานในการหารือ การหารือครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รวมทั้งการจัดตั้ง Interim ASEAN Defence Attaches Monitoring Team (Interim ASEAN DAs Monitoring Team) ในการปฏิบัติหน้าที่สังเกตการณ์สถานการณ์หยุดยิง (Ceasefire) ตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา ซึ่งการหารือในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากข้อตกลงหยุดยิง ที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 28 ก.ค.68 ที่ผ่านมา ซึ่งมีการเห็นพ้องร่วมกันในการจัดตั้งทีมเฝ้าติดตามชั่วคราวของฝ่ายทูตทหารจากชาติสมาชิกอาเซียนโดยเร่งด่วน เพื่อเป็นกลไกเบื้องต้นในการติดตามสถานการณ์และสร้างความไว้วางใจระหว่างทั้งสองฝ่าย นอกจากนี้ในที่ประชุมได้มีการหารือเกี่ยวกับการจัดตั้งกลไก ASEAN Monitoring Team (AMIT) ในอนาคต […]