กรุงเทพฯ 18 ก.ย. – กรมทางหลวงสรุปอุบัติเหตุบนทางหลวงเดือนสิงหาคม พบผู้เสียชีวิตลดลงร้อยละ 10 จากปีที่ผ่านมา สาเหตุหลักขับรถเร็วและหลับใน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากรมทางหลวงสรุปข้อมูลอุบัติเหตุบนทางหลวงทั่วประเทศเดือนสิงหาคม 2561 จากการรายงานอุบัติเหตุทางระบบ HAIMS พบว่า อุบัติเหตุเกิดขึ้นบนทางหลวงในความรับผิดชอบของกรมทางหลวง 796 ครั้ง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 123 คน ได้รับบาดเจ็บ 757 คน รถที่เกิดอุบัติเหตุ 1,088 คัน เป็นเหตุให้ทรัพย์สินของกรมทางหลวงเสียหายประมาณ 15 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบสถิติอุบัติเหตุเดือนสิงหาคม 2560 อุบัติเหตุเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 4 ผู้เสียชีวิตลดลงร้อยละ 10 บาดเจ็บเพิ่มขึ้นร้อยละ 11 รถที่เกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 สาเหตุหลักการเกิดอุบัติเหตุมาจากผู้ขับขี่ขับรถด้วยความเร็วสูงกว่ากฎหมายกำหนดร้อยละ 69 (467 ครั้ง) รองลงมา ได้แก่ การตัดหน้าระยะกระชั้นชิดร้อยละ 7 (52 ครั้ง) หลับในร้อยละ 6 (44 ครั้ง) และอุปกรณ์รถบกพร่องร้อยละ 4 (31 ครั้ง)
สำหรับอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดบริเวณทางตรงร้อยละ 55 (435 ครั้ง) ทางโค้งปกติร้อยละ 21 (169 ครั้ง) และทางแยกร้อยละ 8 (62 ครั้ง) ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่ ได้แก่ รถปิคอัพบรรทุก 4 ล้อ ร้อยละ 34 (376 คัน) รถยนต์นั่งร้อยละ 24 (257 คัน) และรถบรรทุกมากกว่า 10 ล้อ (รถพ่วง) ร้อยละ 11 (121 คัน) หากจำแนกตามภาคของการเกิดอุบัติเหตุพบว่าเส้นทางภาคเหนือเกิดอุบัติเหตุสูงสุดร้อยละ 26 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือร้อยละ 24 และภาคใต้ร้อยละ 18 นอกจากนี้ ทางหลวงที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ ทางหลวงหมายเลข 304 วังน้ำเขียว – ดอนขวาง 14 ครั้ง หากจำแนกตามรายจังหวัดพบว่าจังหวัดนครราชสีมาเกิดอุบัติเหตุสูงสุด รองลงมา ได้แก่ จังหวัดตาก จังหวัดสงขลา ตามลำดับ
ทั้งนี้ กรมทางหลวงได้มีมาตรการแก้ไขที่ได้ดำเนินการร่วมกับตำรวจทางหลวงในการบังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการตรวจจับความเร็วยานพาหนะที่วิ่งบนทางหลวง ซึ่งเป็นมาตรการสำคัญในการลดและป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ในช่วงฤดูฝนอาจทำให้ถนนลื่นและบดบังทัศนวิสัยในการขับขี่ กรมทางหลวงขอความร่วมมือผู้ใช้ทางโปรดขับขี่ด้วยความระมัดระวัง เพื่อความปลอดภัยของท่านและผู้ร่วมทาง รวมถึงป้องกันและลดอุบัติเหตุให้ได้ประสิทธิผลและขอความร่วมมือปฏิบัติตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม “ขับรถช้า เปิดไฟหน้า คาดเข็มขัด” . – สำนักข่าวไทย