นายกฯ ย้ำก่อน-หลังการเลือกตั้ง ต้องสงบ

มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย 17 ก.ย.-นายกฯ ลงพื้นที่ จ.เลย เปิดถนน 4 เลน เลย-เชียงคาน มอบหนังสือโครงการป่าชุมชน ระบุก่อน-หลังเลือกตั้งต้องสงบ เปรียบกำลังก่อสร้างปราสาทและประชาธิปไตยให้เข้มแข็ง ไม่ให้ใครมาทำลาย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (17 ก.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เดินทางลงพื้นที่หอประชุมทองวิไล มหาวิทยาลัยราชภัฎเลย จังหวัดเลย เป็นประธานในพิธีเปิดถนน 4 เลน หมายเลข 201 เลย-เชียงคาน เพื่อช่วยลดความแออัด รองรับปริมาณการจราจรและการเดินทางของประชาชนในการขยายตัวทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และการขนส่ง จากนั้น นายกรัฐมนตรีเป็นสักขีพยานในการมอบหนังสือแสดงโครงการป่าชุมชน ให้แก่ประธานป่าชุมชน 5 จังหวัด ได้แก่ บึงกาฬ เลย หนองคาย หนองบัวลำภู และอุดรธานี

นายกรัฐมนตรี กล่าวกับประชาชนว่า วันนี้รู้สึกเต็มตื้น ไม่ได้มาเพื่อให้ใครรักตน แต่จากที่ฟังเพลงสร้างไทยไปด้วยกัน ที่นักเรียนและนักศึกษาร้องให้ฟัง มีความหมายดี หมายถึงพวกเราทุกคน ซึ่งแม้ใครไม่รัก แต่ตนก็จะรัก เพราะเป็นหน้าที่ของตน และใครก็ตามที่มาทำการเมือง ซึ่งวันนี้ทำหน้าที่เป็นรัฐบาลอยู่ และรอคอยรัฐบาลใหม่ ที่เข้ามาทำหน้าที่ในวันข้างหน้า โดยต้องเข้ามาดูแลประชาชนอย่างต่อเนื่อง


“รัฐบาลชุดนี้พยายามทำเต็มที่เพื่อขับเคลื่อนกลุ่มจังหวัดไปข้างหน้า จึงขอให้ทุกคนเรียนรู้และฟังในสิ่งที่รัฐบาลพูด ซึ่งในอดีตมีความเหลื่อมล้ำมาก เช่น ถนนหนทางต่าง ๆ สนามบินที่ต้องปรับปรุง เพราะหากดีอยู่แล้ว คงไม่ต้องทำอะไรมาก ดังนั้นหลายอย่างต้องใช้เวลา ส่วนโครงการไทยนิยมฯ จะลงไปถึงทุกหมู่บ้าน เพราะหากสนับสนุนเป็นบางคนบางกลุ่ม หรือบางพวก ก็จะขัดแย้งกันแบบเดิม ทั้งนี้จะต้องปลดล็อคประตู โดยปรับตัวเองให้ได้ สร้างความเชื่อมโยงแบบไร้รอยต่อ และต้องไปด้วยกันทุกคน หากบอกว่ารักลุงตู่ ก็ต้องช่วยกัน แค่นี้ก็มีกำลังใจแล้ว เมื่อได้เจอกับประชาชน ซึ่งผมก็มีความเป็นมนุษย์ บางครั้งมีกำลังใจและบางครั้งก็รู้สึกท้อแท้ แต่ก็ท้อแท้ไม่ได้ หากท้อแท้ก็จะนึกถึงหน้าประชาชนทั้งประเทศ และย้ำว่ารัฐบาลกำลังทำสิ่งที่ดีกว่าเดิม” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันว่า ไม่เป็นศัตรูกับใครทั้งสิ้น ทั้งอดีตนักการเมืองและอดีตรัฐบาล แต่ต้องการให้ทุกอย่างดำเนินการตามกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม และไม่จำเป็นต้องไปไล่ล่า หรือฆ่าฟันใครทั้งสิ้น อยากให้มองว่าที่ผ่านมาแตกต่างกับวันนี้อย่างไร ซึ่งวันนี้มีรอยยิ้มกันมากขึ้น จึงอยากให้ทุกคนช่วยกันและช่วยประชาชนทุกจังหวัด เพราะคือประเทศไทย 

“ดังนั้นทุกรัฐบาล ต้องดูแลทุกคน ไม่ใช่ใครคนใดคนหนึ่ง ขอฝากประชาชนอย่าหลงเชื่อว่าใครสัญญาว่าจะให้อะไร ต้องดูกฎหมายทำได้หรือไม่ และจะนำเงินงบประมาณจากไหน เพราะวันนี้มีกฎหมายวินัยการเงินการคลัง ที่รัฐบาลต้องระมัดระวัง ขอยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ถังแตก ยังมีเงินสำรองมหาศาล และไทยไม่ใช่ประเทศที่มีหนี้สาธารณะเกิน 60% แต่ทำอะไรต้องอยู่ในกรอบ ไม่ทำให้งบประมาณการเงินการคลังเสียหาย” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ประเทศไทยประกอบไปด้วยชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งชาติหมายถึงคนและแผ่นดิน ชาติใดจะเจริญได้ต้องพัฒนาทั้งคนและแผ่นดิน ขณะเดียวกันประเทศไทยมีหลายศาสนาที่อยู่ร่วมกัน ดังนั้นอย่าให้ใครสร้างความขัดแย้งหรือแบ่งแยกพื้นที่ ต้องรวมพลังทั้งแผ่นดินหลอมรวมความรักความสามัคคีเป็นหนึ่งเดียว และลืมข้อบาดหมางในอดีตที่ผ่านมาให้ได้

“ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เป็นการเขียนแผนวางอนาคตเพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง ไม่ใช่รัฐบาลจะรักษาอำนาจไว้ 20 ปี ใครจะอยู่ยังไม่รู้ หมดหน้าที่ก็คือหมด วันหน้าใครจะเป็นรัฐบาล ไม่ว่าลุงตู่ ลุงเต่อ หรือใครก็แล้วแต่ ผมพูดในฐานะเป็นรัฐบาลในวันนี้ที่ต้องการสร้างความปรองดอง ความสงบ และสันติในชาติในช่วงการเลือกตั้ง ดังนั้น ไม่ว่าก่อนหรือหลังการเลือกตั้งต้องสงบแบบนี้ หรือใครไม่ต้องการใคร ต้องการให้ตีกันอีก ให้ร้ายกันไปมา ผมไม่ก้าวล่วงใคร เว้นแต่ชี้แจงที่มีหลายคนก้าวล่วงรัฐบาล เพราะผมไม่ใช่นักการเมือง ตอนนี้ผมทำหน้าที่งานการเมืองให้ท่าน ทำให้คนทั้งประเทศ ไม่ใช่ทำให้คนที่ชอบผม แล้วไม่ทำให้คนที่ไม่ชอบ แต่ผมทำให้ทุกคน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเลือกตั้งที่จะมาถึง ขอฝากท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ไม่ให้เกิดความวุ่นวายแบบเดิม ไม่ใช่รัฐบาลไม่อยากให้มีการเลือกตั้ง แต่ขึ้นอยู่ที่ทุกคน และรัฐบาลมีหน้าที่ดูแล ไม่ได้อยากใช้กฎหมาย พร้อมขออย่าฟังสิ่งที่บิดเบือน 

“วันนี้กำลังก่อสร้างปราสาท สร้างบ้าน สร้างประชาธิปไตยให้เข้มแข็ง ไม่ให้ใครมาทำลาย ให้ช่วยเติมอิฐ ปูน ทรายเข้าไป แล้วเชื่อมด้วยน้ำใจของพวกเรา ผสมไปด้วยความทุ่มเทของทุกคน จะทำให้ปราสาทหลังนั้น บ้านเมืองของเราเข้มแข็ง ไม่ให้พังลง ไม่ให้ใครมาเคาะฐานรากที่เป็นแกนหลักของประเทศไทย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการลงพื้นที่พบปะประชาชนที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย นางเปล่งมณี เร่งสมบูรณ์สุข อดีต ส.ส.เลย พรรคเพื่อไทย มาให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรีด้วย โดยนางเปล่งมณี ระบุว่า ตนมาในนามประธานสภาสตรีจังหวัดเลย ไม่มีเรื่องการเมือง และไม่ขอพูดเรื่องการเมืองใด ๆ ทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตนออกจากพรรคเพื่อไทยแล้ว แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะไปอยู่พรรคใด ส่วนจะตัดสินใจไปร่วมกับกลุ่มสามมิตร หรือพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ ยังตอบไม่ได้ในขณะนี้

ขณะเดียวกันในพื้นที่จัดงาน ได้มีการสำรองที่นั่ง ติดป้ายชื่อนายธนเทพและนางนันทนา ทิมสุวรรณ , นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข และนายวันชัย บุษบา อดีต ส.ส. พรรคเพื่อไทย ไว้โซนแถวหน้าอีกด้วย อย่างไรก็ตาม นางเปล่งมณี ระบุว่า คนอื่น ๆ ไม่ได้เดินทางมาต้อนรับนายกรัฐมนตรีแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายกรัฐมนตรี กล่าวกับประชาชน ได้ชี้ไปที่นางเปล่งมณี เร่งสมบูรณ์สุข พร้อมกล่าวว่า “ใช่หรือไม่คุณเร่งสมบูรณ์สุข ดีหรือเปล่านะแบบนี้ ขอให้มาช่วยกันก็แล้วกัน ก็ทำงานให้ดี จะช่วยใคร ผมไม่รู้ ขอให้ช่วยประชาชนในลักษณะที่ไปด้วยกันทั้งจังหวัด เพราะทั้งหมดคือประเทศไทย” 

ทั้งนี้ก่อนเดินทางไป อ.เชียงคาน นายกรัฐมนตรี ได้ถ่ายรูปกับกลุ่มสตรีที่นางเปล่งมณี มาให้การต้อนรับ

สำหรับบรรยากาศในหอประชุมทองวิไล มหาวิทยาลัยราชภัฎเลย นักเรียนจากโรงเรียนเลยพิทยาคม นำภาพวาดของเพื่อนที่ติดสอบ ไม่สามารถมาได้ มอบให้กับนายกรัฐมนตรี โดยเด็กนักเรียนทั้ง 2 คนได้ขอกอดนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กอดตอบ ก่อนที่จะเดินทักทายประชาชนและยี่ยมชมผลิตภัณฑ์โอทอปของดีชุมชนจังหวัดเลย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

กัมพูชายืนยันไม่รับแผนที่ 1 : 50,000

15 มิ.ย. – กัมพูชาแถลงปฏิเสธแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างเด็ดขาด อ้างไทยเขียนขึ้นฝ่ายเดียว ยึดมั่นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตาม MOU43 เท่านั้น พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยด้วยกลไกทวิภาคี ยกเว้น 4 จุดที่นำขึ้นศาลโลก เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ว่า ฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะรับรองแผนที่ที่ฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำใช้อ้างอิงอันเป็นที่มาหลักของปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เรื้อรังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนไม่สิ้นสุดนั้นคือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชายึดถือ Khmer Times อ้างตามเอกสารข่าวเผยแพร่จากสำนักเลขาธิการกิจการชายแดนเกี่ยวกับการประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดนและประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา และนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของไทย และประธาน JBC ฝ่ายไทย […]

“ลูกหมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย

สำนักงานกฎหมายทนายคลายทุกข์ 13 มิ.ย. – “ลูกหมี รัศมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้ 2 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ด้าน “ทนายเดชา” เผยหาก 30 วัน ไม่ใช้หนี้ เตรียมยื่นเรื่องยึดทรัพย์-ฟ้องล้มละลาย นางสาวรัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี นางแบบชื่อดัง พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา และนางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีลูกหนี้ ซึ่งเป็นอดีตดารานักแสดงชื่อดัง ได้ทำการกู้ยืมเงิน พร้อมจ่ายเช็คเด้ง จำนวน 2 ล้านบาท โดยไม่ยอมชำระคืนตามที่ได้ตกลงทำสัญญากันไว้ ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้คุณลูกหมีฟ้องลูกหนี้ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน โดยเงินต้นจำนวน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ศาลพิพากษาว่า สัญญากู้เงินต้น 2 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด […]

อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กันในระลอกใหม่

เทลอาวีฟ 15 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิสราเอลได้ขยายการโจมตีอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์ที่สหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งการทิ้งระเบิดของอิสราเอลได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ยังถือว่าไม่มีอะไรที่จะเทียบเคียงกับสิ่งที่อิหร่านจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การโจมตีของอิหร่านล่าสุดเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังเวลา 23:00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกัล 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในนครเยรูซาเลมและเมืองไฮฟา ทำให้ผู้คนราวหนึ่งล้านคนต้องรีบเข้าไปในสถานที่หลบภัย หน่วยบริการพยาบาลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเด็กวัย 10 ขวบและหญิงสาววัยราว ๆ  20 ปีรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คนจากการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สื่ออิสราเอลรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 35 คน หลังจากที่ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่เมืองบัตยัม ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินกล่าวว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งชนอาคาร 8 ชั้นในเมืองนั้น และในขณะที่ผู้คนจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะนี้่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีอาคารกี่หลังที่ถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ จนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย นับตั้งแต่อิหร่านเปิดฉากโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พยาบาลเกษียณร้องไซเบอร์ ถูกโรแมนซ์สแกม สูญ 12 ล้าน

16 มิ.ย. – พยาบาลเกษียณ วัย 65 ปี ร้องตำรวจไซเบอร์ ถูกหลอกสร้างความสัมพันธ์เชิงชู้สาว หรือโรแมนซ์สแกม ชวนลงทุนคริปโต สูญเงิน 12 ล้าน นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาพยาบาลเกษียณอายุราชการวัย 65 ปี ผู้เสียหาย ถูกมิจฉาชีพหลอกหลอกให้รัก (Romance Scam) และชักชวนให้ลงทุนในระบบคริปโตผ่านแพลตฟอร์มเทรดปลอม สูญเงินเกือบ 12 ล้านบาท เข้าร้องทุกข์กับตำรวจไซเบอร์ โดยมี พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 รับเรื่อง นางสาวอ้อ อายุ 65 ปี อดีตพยาบาลผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2567 มิจฉาชีพหรือ นางสาวพร (นามสมมติ) ทักข้อความมาหาตนผ่านแอพ TikTok และชวนพูดคุยในลักษณะเชิงชู้สาว และต้องการหาคู่ชีวิต และชวนคุยเรื่องส่วนตัวจนเตนเชื่อใจ จนผ่านไป 2 […]

“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000

ก.ต่างประเทศ 16 มิ.ย.-“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000 แฉ “กัมพูชา” ถูกสั่งห้ามคุยปม 4 พื้นที่พิพาทในวง JBC แต่เสียดาย ไม่มีในบันทึกการประชุม เพราะหารือในวงเล็ก ยัน JBC รอบนี้ราบรื่นที่สุด บอกแต่ก่อนทะเลาะกันเยอะกว่านี้ นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ JBC แถลงชี้แจงผลการประชุม JBC ว่า ตนเข้าร่วมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 แล้ว จากระดับเจ้าหน้าที่ และครั้งนี้ไปประชุมในฐานะประธาน ถือว่าราบรื่นที่สุดเท่าที่เคยประชุมมา แต่ก่อนทะเลาะกันแรงกว่านี้เยอะ และครั้งนี้ ประสบความสำเร็จทางด้านเทคนิค พร้อมอธิบายภารกิจของ คณะกรรมการ JBC ว่า ประกอบไปด้วย 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นการตรวจหาหลักเขตที่ปักปันตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ปี 2462-2463 ซึ่งมีการปักหลักเขตไปแล้ว 73 หลัก ตอนนี้เห็นชอบไปแล้ว 45 หลัก อีก […]

นายกฯ เผย กต.เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ลั่นไทยเคารพกรอบทวิภาคี

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – นายกฯ เผย กต. เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ทำความเข้าใจกรณีไทย-กัมพูชา ย้ำไทยให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ลั่นการเคลื่อนไหวนอกเหนือจากการเจรจาถือเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ ประกาศกร้าว จะไม่ยอมให้ใครมากลั่นแกล้ง ใส่ร้าย ข่มขู่ เราก็เป็นประเทศที่มีศักดิ์ศรีเช่นกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ ก.ต่างประเทศ เรียกประชุมทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยให้ได้รับทราบ ถ้าไม่เคารพกติกา ทั่วโลกก็จะไม่ยอมรับ ยอมรับไทยมีการสื่อสารที่เป็นสาธารณะน้อยมาก เพราะให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ทั้งไทยและกัมพูชาจะต้องยึดตามกรอบการเจรจาทวิภาคี การเคลื่อนไหวที่นอกเหนือจากการเจรจาถือว่าเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ นอกจากนี้ระหว่างความสัมพันธ์ของรัฐบาลกับกองทัพ มีการพูดคุยอย่างต่อเนื่อง ว่าท่าทีของไทยจะเป็นอย่างไร อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ เพื่อรักษาอธิปไตยของไทย และยืนยันว่าไม่มีปัญหากันแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย