อยุธยา 15 ก.ย.-พระนครศรีอยุธยา เป็นจังหวัดที่มีนิคมอุตสาหกรรมหลายแห่ง และมีสถานประกอบกิจการหลายประเภท ข้อมูลล่าสุดมีลูกจ้างในระบบมากกว่า 300,000 คน และเป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีการขอปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจอยู่ในช่วงขาลง สวนทางกับค่าครองชีพที่ปรับเพิ่มขึ้น
วุฒิไกร เป็นลูกจ้างรายวันในคาร์แคร์ ทำงานที่นี่มาได้เดือนกว่า ได้ค่าแรงวันละ 350 บาท ต้องจ่ายค่าเช่าห้องพัก ค่ากิน ค่าน้ำมันและค่าผ่อนรถจักรยานยนต์ ก็แทบไม่มีเหลือ เขาบอกว่าหากมีการปรับขึ้นค่าแรง ก็น่าจะทำให้มีเงินเก็บได้บ้าง
ส่วนลูกจ้างคนอื่นๆ เป็นแรงงานต่างด้าวชาวพม่า เจ้าของกิจการคาร์แคร์ บอกว่า ให้ที่พักพร้อมอาหารฟรี ให้ค่าแรงวันละ 300 บาท แต่ถ้าวันไหนทำล่วงเวลา ก็จะเพิ่มค่าแรงพิเศษให้อีก 100 บาท หากปรับขึ้นค่าแรง กระทบแน่นอน เพราะงานเท่าเดิม แต่ต้องจ่ายค่าแรงเพิ่มขึ้น จึงอยากให้พิจารณาปรับขึ้นเฉพาะกิจการบางประเภทเท่านั้น
ผู้รับเหมารายนี้ยอมรับว่า สภาพเศรษฐกิจทำให้งานลดลงบ้าง หากปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ อาจต้องยอมลดกำไรลง หรือบางงานอาจไม่สามารถรับก่อสร้างได้เพราะแบกรับต้นทุนไม่ไหว
ขณะที่ตัวเลขลูกจ้างในระบบมีอยู่กว่า 300,000 คน มากที่สุด 3 อันดับแรก คือ ซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ผลิตรองเท้า และผลิตภัณฑ์พลาสติก ซึ่งแรงงานเหล่านี้เป็นแรงงานฝีมือ ที่มักได้รับค่าแรงมากกว่าค่าแรงขั้นต่ำอยู่แล้ว ทางเลือกจับจ่ายใช้สอยของผู้ใช้แรงงานคือตลาดนัด แต่ในยามที่เศรษฐกิจถดถอยผู้ค้าในตลาดนัดเองก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน อย่างแม่ค้ารายนี้บอกว่า สาวโรงงานที่เป็นลูกค้าหลักใช้จ่ายน้อยลงมาก ยอดขายลดลงไปถึง 3,000 บาท/วัน
อยุธยาเป็นหนึ่งใน 11 จังหวัด ที่มีการขอปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ โดยพิจารณาจากสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจและค่าครองชีพในพื้นที่ ซึ่งอีกเพียง 1 เดือน ก็จะทราบผลว่าจะมีการปรับขึ้นค่าจ้างหรือไม่.-สำนักข่าวไทย
