กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – บีโอไอเผยความสนใจลงทุนกลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัลแนวโน้มสดใส 7 เดือนยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนสูงสุดใน 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยมีบริษัทเว็บซื้อขายสินค้าออนไลน์อันดับหนึ่งจากเกาหลีลงทุนในไทย และผู้พัฒนาซอฟต์แวร์วิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า
นางหิรัญญา สุจินัย เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยถึงแนวโน้ม การลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัล ซึ่งเป็นหนึ่งใน 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายตามนโยบายรัฐบาล ว่า มีทิศทางขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.ค.59) มีโครงการในกลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัลยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนมากถึง 155 โครงการ หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของจำนวนโครงการลงทุนทั้งหมดใน 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายที่มีจำนวน 443 โครงการ ขณะที่มีมูลค่าการขอรับส่งเสริมลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัล 2,540 ล้านบาท และยังมีบริษัทในกลุ่มดิจิทัลอีกหลายรายที่เตรียมยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุน จึงคาดว่าภายในปี 2559 มูลค่าเงินลงทุนของกลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัลจะไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ หากดูเงินลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัลจะมีมูลค่าเงินลงทุนไม่สูง แต่เป็นกิจการที่เน้นใช้เทคโนโลยีทันสมัย ใช้ความรู้ความสามารถของบุคลากรเข้ามาช่วยพัฒนาธุรกิจ โดยในช่วงที่ผ่านมามีโครงการที่อนุมัติให้ส่งเสริมลงทุนที่น่าสนใจ อาทิ การลงทุนในกิจการคลาวด์เซอร์วิส โดยบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญจากประเทศอังกฤษ เพื่อให้บริการดูแลระบบ บริหารจัดการ รวมถึงจัดเก็บข้อมูลผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ที่จะช่วยให้ลูกค้าซึ่งเป็นองค์กรหรือหน่วยงานต่าง ๆ ในประเทศไทย ลดต้นทุนค่าดูแลบำรุงรักษาระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ขณะเดียวกันทำให้ลูกค้ามีระบบสำรองข้อมูลที่ดีและมีเครือข่ายความเร็วสูง
นอกจากนี้ ยังอนุมัติส่งเสริมลงทุนกิจการของผู้ประกอบธุรกิจจากสาธารณรัฐเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นผู้นำอันดับหนึ่งทางด้านธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ และร้านค้าออนไลน์ โดยบริษัทสนใจเข้ามาลงทุนในกิจการอี-คอมเมิร์ซ โดยจัดทำเว็บโปรแกรมในรูปแบบการให้เช่าพื้นที่ สำหรับซื้อ-ขายสินค้าหรือให้บริการ ผ่านทาง World Wide Web (WWW) เช่น สินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องประดับ เครื่องใช้ภายในบ้าน เป็นต้น เนื่องจากบริษัทได้เข้ามาศึกษาถึงศักยภาพของตลาดออนไลน์ในประเทศไทยและพบว่ามีอัตราการขยายตัวสูง หลังจากที่ผ่านมาได้เข้าไปลงทุนในตลาดออนไลน์แล้วในหลายประเทศ อาทิ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และตุรกี รวมทั้งอนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนแก่ผู้ประกอบการไทยในการลงทุนกิจการเขตดาต้าเซ็นเตอร์มูลค่าเงินลงทุนกว่า 750 ล้านบาท ที่จังหวัดสระบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางสำหรับให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศแก่องค์กรต่าง ๆ ทั้งบริการรับฝากวางคอมพิวเตอร์แม่ข่าย บริการดูแลระบบ การดูแลป้องกันและลดความเสี่ยงการเสียหายของข้อมูล ซึ่งการลงทุนของบริษัทจะมีส่วนผลักดันให้ประเทศไทยเป็นที่ตั้งศูนย์ข้อมูลที่มีประสิทธิภาพสูงของภูมิภาค รวมถึงเป็นศูนย์กลางที่น่าเชื่อถือด้านศักยภาพและบริการไอทีในอนาคต .-สำนักข่าวไทย