ทำเนียบฯ 14 ก.ย. – บอร์ดบีโอไอเห็นชอบส่งเสริมลงทุนโรงกลั่นไทยออยล์ 1.56 แสนล้าน เลขาบีโอไอยอมรับหลังกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.-ส.ว.บังคับใช้ สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติ
นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการ คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาให้การส่งเสริมโครงการลงทุน 4 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 167,679 ล้านบาท ประกอบด้วย เห็นชอบส่งเสริมการลงทุนให้กับบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ได้รับส่งเสริมกิจการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงสำเร็จรูป เงินลงทุนทั้งสิ้น 156,621 ล้านบาท ตั้งโครงการที่จังหวัดชลบุรี เพื่อเพิ่มความสามารถในการกลั่นน้ำมันดิบ รองรับการผลิตน้ำมันอากาศยานและน้ำมันดีเซลเพื่อรองรับการเป็นศูนย์กลางการขนส่งและเมืองการบินของเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) การรองรับความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศเพิ่มขึ้น เตรียมเริ่มลงทุนปีนี้ หลังจาก ครม.เห็นชอบต่อสัญญาเช่าที่ราชพัสดุอีกเป็นเวลา 30 ปี สัญญาเดิมกำลังจะสิ้นวันที่ 10 กันยายน 2565 ให้กับบริษัท ไทยออยล์ บริเวณถนนสุขุมวิท อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เนื้อที่ 1,499 ไร่
นอกจากนี้ ยังมีบริษัท ผลิตไฟฟ้า นวนคร จำกัด ได้รับส่งเสริมกิจการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ 60 เมกะวัตต์ และไอน้ำ 10 ตันต่อชั่วโมง เงินลงทุนทั้งสิ้น 3,105 ล้านบาท ตั้งโครงการที่จังหวัดปทุมธานี โครงการนี้เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม ซึ่งนำอากาศเสียที่มีความร้อนสูงมาใช้ต่อ จึงช่วยประหยัดพลังงาน และเป็นการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศไทย และโครงการของบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) ได้รับส่งเสริมกิจการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ 57 เมกะวัตต์ และไอน้ำ 70 ตันต่อชั่วโมง เงินลงทุนทั้งสิ้น 3,980 ล้านบาท ตั้งโครงการที่จังหวัดระยอง โครงการนี้เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม ซึ่งนำอากาศเสียที่มีความร้อนสูงมาใช้ต่อประโยชน์ รวมทั้งโครงการส่งเสริมการลงทุนบริษัท สยาม เด็นโซ่ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ได้รับส่งเสริมกิจการผลิตชิ้นส่วนระบบเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องยนต์ดีเซลที่ลดการใช้น้ำมันและการปล่อยมลพิษ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานยูโรใหม่ เงินลงทุนทั้งสิ้น 3,973 ล้านบาท ตั้งโครงการที่จังหวัดชลบุรี โดยโครงการนี้จะใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศปีละกว่า 2,632.6 ล้านบาท และช่วยสร้างความเข้มแข็งแก่อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ของไทย
นางสาวดวงใจ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจาก พ.ร.ป.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และ ส.ว.ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อเริ่มต้นขั้นตอนไปสู่การเลือกตั้ง ยอมรับว่าสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติและการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนของภาคเอกชน เพราะต่างชาติมีแผนการลงทุนต้องวางแผนระยะยาว อีกทั้งภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศเข้มแข็ง ปัจจัยบวกด้านอื่นเริ่มดีขึ้น จึงน่าจะสร้างความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น. – สำนักข่าวไทย