เวทีเสวนาอนาคตประเทศไทยฯไม่หนุนสืบทอดอำนาจ

สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย 10 ก.ย.-ตัวแทนหลายพรรคร่วมเวทีเสวนาอนาคตประเทศไทยตายหรือตันก่อนเลือกตั้ง เห็นตรงกันไม่หนุนการสืบทอดอำนาจ 


คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 และเครือข่ายตรวจสอบภาคประชาชน จัดการเสวนา  เรื่อง อนาคตประเทศไทย ตายหรือตันก่อนการเลือกตั้ง โดยมี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.), นพ.ระวี มาศฉมาดล ผู้ก่อตั้งพรรคพลังธรรมใหม่ นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา นายธีระชัย เขียวบริบรูณ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังร่วมเสวนา

นายจตุพร กล่าวว่า รัฐธรรมนูญออกแบบไม่ให้พรรคการเมืองใดได้เสียงข้างมากในการจัดตั้งรัฐบาล ดังนั้น หากพรรคการเมืองไม่ตกลงกันก่อน เพียงแค่นัยนายกรัฐมนตรีคนนอกหรือคนในก็เกิดปัญหาได้ และยังจะต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ด้วย คาดว่าถ้ากรณีได้นายกรัฐมนตรีคนนอก ที่เป็นคนที่ทุกคนคิดกันอยู่ขณะนี้ ที่มีอำนาจอาญาสิทธิ์ แต่เมื่อเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรแล้วจะไม่เหลือดาบอาญาสิทธิ์ การตรวจสอบ การถูกอภิปรายจะยังทนได้หรือไม่ 


“สิ่งสำคัญคือทุกฝ่ายต้องคุยกัน และขอพรรคการเมืองอย่าเพิ่งหาประโยชน์ในขณะตอนนี้ เพื่อร่วมกันสร้างบรรยากาศ และป้องกันปัญหาเหมือนกับเหตุการณ์พฤษภาคม 2535 เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสีย  ส่วนตัวผมไม่สนใจว่าพรรคใดจะชนะการเลือกตั้ง แต่สิ่งสำคัญจะต้องไม่มีผู้เสียชีวิต ไม่ว่าพรรคใดชนะหรือแพ้ ขอให้ยอมรับว่า 5 ปีที่ผ่านมา คนไทยกลัวคำว่าไม่สงบ จึงเป็นสิ่งที่หลอกหลอนคนไทยมาโดยตลอด และสิ่งที่ดำเนินการกันอยู่ทุกวันนี้ ยิ่งทำให้การเลือกตั้งไกลออกไปและอาจเกิดวิกฤติได้” นายจตุพร กล่าว

นพ.ระวี กล่าวว่า จุดยืนของพรรคพลังธรรมใหม่จะไม่ร่วมรัฐบาลกับเผด็จการทหารอย่างแน่นอน เพราะพรรคพลังธรรมใหม่มีความเป็นอิสระ จะไม่เอาประชาธิปไตยแบบตะวันตกหรือแบบที่ประเทศไทยผ่านมา 4-5 ปีก่อนด้วย แต่จะต้องเป็นธรรมาธิปไตย ที่ประชาชนมีส่วนร่วม ช่วยกันยุติความขัดแย้งกลุ่มคนสีเสื้อ หลังการเลือกตั้งตนจะสนับสนุนและเลือกคนดีให้เป็นนายกรัฐมนตรี  โดยจะทำประชามติกับสมาชิกพรรค เพื่อให้เลือกผู้ที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป

นายสิริพงศ์ กล่าวถึงจุดยืนของพรรคชาติไทยพัฒนาว่า ไม่เอานายกรัฐมนตรีคนนอก แต่ยังกังวลที่ว่าคำว่าคนนอกยังมีความหมายกว้าง รวมถึงไม่สามารถบอกว่า อนาคตประเทศไทยจะตายหรือตันก่อนเลือกตั้ง เพราะไม่ว่าจะอย่างไรก็จะต้องเดินหน้าต่อ พร้อมขอความร่วมมือจากพรรคการเมืองอย่าสร้างเงื่อนไขทางการเมือง เพื่อไม่ให้เกิดรัฐประหารอีก


“จุดยืนของพรรคชาติไทยพัฒนพร้อมเป็นฝ่ายค้าน ถ้าพรรคอื่น ๆ จับมือแล้วสามารถทำงานร่วมกันได้ หรือถ้าไม่ว่าพรรคใด งรัฐบาลแล้วมีแนวโน้มจะเกิดวิกฤติหรือเป็นเสียงข้างน้อย พรรคชาติไทยพัฒนาจะไม่เข้าร่วม แต่ถ้าร่วมแล้วได้เป็นเสียงข้างมาก เพื่อทำงานได้ เดินหน้าได้ สามารถออกกฎหมายได้ พรรคชาติไทยพัฒนาก็พร้อมร่วมงาน พร้อมสนับสนุนนายวราวุธ ศิลปอาชา ว่าที่หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาเป็นนายกรัฐมนตรี” นายสิริพงศ์ กล่าว

นายจาตุรนต์ กล่าวถึงแนวคิดให้พรรคการเมืองหาเสียงน้อย และใช้กฎหมายด้วยการเลือกปฏิบัติกับประชาชน หรือพรรคการเมืองที่วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล ถือว่าไม่เป็นธรรมต่อการเลือกตั้ง เพราะพรรคการเมืองไม่สามารถพบประชาชนได้อย่างเต็มที่ ทำให้ประชาชนไม่มีข้อมูลว่าพรรคการเมืองจะมีนโยบายใด ทำให้ขาดข้อมูลในการตัดสินใจ

“พรรคเพื่อไทยไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจของผู้นำคสช.หรือคนนอกมาเป็นนายกรัฐมนตรี รวมทั้งการเสนอรายชื่อคนนอกมาเป็น 1 ใน 3 รายชื่อที่พรรคการเมืองเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งแม้จะได้เสียงคะแนนข้างมาก พรรคก็ไม่สนับสนุน หรือถ้าพรรคการเมืองที่สนับสนุนคสช.มีเสียงข้างมากจัดงรัฐบาล เพื่อไทยขอเป็นฝ่ายค้าน โดยพร้อมเป็นพันธมิตรกับพรรคการเมืองที่ไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจ อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถให้คำตอบได้ว่าจะร่วมรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์ได้หรือไม่ แต่ถ้าจะเป็นฝ่ายค้านพรรคเพื่อไทยก็พร้อมจะร่วมงานด้วย

ด้านนายจุรินทร์ กล่าวว่า อนาคตประเทศไทยก่อนการเลือกตั้งจะต้องไม่ตาย หรือตัน แต่สิ่งที่จะเดินไปสู่ทางตายคือคสช. จากปัจจัย 2 ประการ คือปัจจัยทางเศรษฐกิจ และปัจจัยทางการเมือง แม้คสช.จะประกาศจีดีพีโตขึ้น แต่เม็ดเงินไม่ได้กระจายไปสู่ฐานราก ซึ่งปัญหารวยกระจุก จนกระจายเป็นตัวกดดันคสช. ส่วนปัจจัยการเมืองยังถูกกดดันจากต่างประเทศ และประชาชนอยากเห็นการเลือกตั้งเกิดขึ้น แม้จะมีบางส่วนยังลังเล เพราะกลัวความขัดแย้งจะเกิดขึ้น 

“ประเด็นสำคัญ ไม่ใช่การคลายล็อค ปลดล็อคเมื่อใด หรือจะหาเสียงอย่างไร เพราะสุดท้ายการเลือกตั้งครั้งนี้ คสช.จะยังคงดำรงตำแหน่งผู้เขียนกติกา และเป็นทั้งผู้กำกับการที่มีอำนาจสูงสุดตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ทั้งการควบคุมและการใช้อำนาจม.44 รวมถึงเป็นผู้แข่งในสนามเลือกตั้งด้วย แม้การเลือกตั้งเสร็จสิ้นไปแล้ว คสช.ยังมีอำนาจม.44 อยู่ในมือ เพราะคสช.จะพ้นอำนาจเมื่อได้รัฐบาลใหม่ ดังนั้น ความลังเลของประชาชนจึงห่วงว่าจะเกิดความขัดแย้งเหมือนในอดีต

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ทางออก 4 ประการที่จะทำให้เกิดการเลือกตั้งที่รู้รักสามัคคีว่า ทุกฝ่ายจะต้องยึดมั่นระบอบประชาธิปไตยแบรัฐสภา ไม่ใช่ประธานาธิบดี และหลังการเลือกตั้ง พรรคที่รวมเสียงข้างมากได้จะต้องเป็นผู้นำในการจัดตั้งรัฐบาล เสียงข้างน้อยจะต้องเป็นฝ่ายค้านตรวจสอบรัฐบาล และเมื่อมีรัฐบาลแล้ว ฝ่ายบริหารต้องใส่ใจรับฟังเสียงประชาชนและเสียงข้างน้อย เพื่อไม่ให้กลายสภาพเป็นเผด็จการรัฐสภา พาประเทศสู่วิกฤติเหมือนในอดีต รวมถึงทุกฝ่ายจะต้องยึดกฎหมายและหลักนิติธรรมในการอยู่ร่วมกัน เพื่อสร้างสังคมสันติ.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

พล.อ.ณัฐพล เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย

มาเลเซีย 7 ส.ค.-พล.อ.ณัฐพล รมช.กห. เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย ก่อนถก GBC ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ บ่ายนี้ เมื่อเช้าวันนี้ (7 ส.ค. 68) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เข้าเยี่ยมคำนับดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งเป็นประธานอาเซียนในขณะนี้และเป็นเจ้าภาพของสถานที่การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป(General Border Committee: GBC) ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชาเข้าร่วมด้วย ซึ่งเป็นโอกาสแรกที่ฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชาได้พบกันในระดับรัฐมนตรีก่อนที่จะเข้าร่วมประชุม GBC สมัยวิสามัญ ที่จะมีขึ้นในช่วงบ่ายของวันนี้ Deputy Minister of Defence pays courtesy call on Malaysian Prime Minister before Extraordinary Session of Thailand […]

“บิ๊กเต่า” ลุยค้น 3 จุด จับอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร – อดีตเจ้าอาวาส

กทม. 7 ส.ค.-“บิ๊กเต่า” ลุยค้น 3 จุด บุกจับอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร – อดีตเจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ก๊วนกิ๊กเก่า “สีกากอล์ฟ” หลังพบทุจริตยักยอกเงินวัด เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 7 ส.ค. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปาตแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาฯ ป.ป.ท. นำกำลังตำรวจ บก.ปปป. และ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เปิดปฏิบัติการ “กอล์ฟทีม EP.1” บุกค้นเป้าหมาย 3 จุด ใน จ.สุราษฎร์ธานี จ.พิจิตร และ จ.สมุทรสงคราม เพื่อจับกุมอดีตพระชั้นผู้ใหญ่ และ คนใกล้ชิด ที่เคยพัวพันสัมพันธ์ฉาวสีกากอล์ฟ หลังพบกระทำผิดทุจริตยักยอกเงินวัดมาใช้ดูแลสีกา เป้าหมายจุดแรกที่เข้าตรวจค้นเป็นสถานปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่ง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นบ้านพักของนายทิวากร ดีไพร หรือ […]

มท.1 เด้งฟ้าผ่า ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี

เมืองทองธานี 7 ส.ค.-รมว.มหาดไทย สั่งเด้งฟ้าผ่า “ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี” ก่อนประชุมมอบนโยบายกระทรวงมหาดไทย เหตุมีปัญหาเบิกจ่ายงบประมาณดูแลประชาชนได้รับผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยก่อนการประชุมมอบนโยบายสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ว่า ได้มีการสั่งย้าย ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ให้มาช่วยราชการที่กระทรวงมหาดไทย หลังมีปัญหาเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณในการช่วยเหลือดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งมีการเบิกงบทดรองราชการจ่ายเพียง 55,600 บาท จากที่รัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้ 100 ล้านบาท ส่วนจะย้ายชั่วคราว หรือถาวรน้้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า เดี๋ยวค่อยว่ากัน เมื่อถามว่า จะรอผลสอบก่อนใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เดี๋ยวค่อยว่ากันในรายละเอียด โดยคำสั่งจะออกในช่วงเช้าวันนี้ อย่างไรก็ตาม มีการยืนยันจากผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ว่าได้เดินทางมาร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย​ แต่ปฏิเสธที่จะแสดง​ความเห็น​ และไม่ขอให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน.-315.-สำนักข่าวไทย

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]