คนไทยใช้เงิน 930 ล้านบาทซื้อขนมไหว้พระจันทร์

กรุงเทพฯ 8 ก.ย.- ตลาดขนมไหว้พระจันทร์ปี 61 เพิ่มเป็น 930 ล้านบาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.3 เพราะรสชาติ บรรจุภัณฑ์ ทรงคุณค่า เป็นตัวกระตุ้นกำลังซื้อ ทดแทนการซื้อไปไหว้ตามประเพณีที่ถูกตัดทอนให้เหลือเท่าที่จำเป็นตามยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป


บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดขนมไหว้พระจันทร์ ที่มีช่วงเวลาจำหน่ายสั้นๆ ประมาณ 1 เดือนก่อนเทศกาล ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 24 ก.ย.นี้  จะมีมูลค่ารวมสูงถึง 930 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.3  เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา และผู้ซื้อร้อยละ 12 ใช้เทคโนโลยีช่วยในการซื้อ โดยเฉพาะการสั่งซื้อทางสื่อโซเชียลและการใช้บริการการจัดส่งสินค้า โดยปีนี้ ยอดซื้อไปกินหรือไปฝาก มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 870 บาทต่อคน สูงกว่ากลุ่มที่ซื้อไปไหว้พระจันทร์ ที่ซื้อเฉลี่ยคนละ 640 บาท ยอดซื้อไปกินหรือไปฝาก สูงกว่าประมาณร้อยละ  20   ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ กลุ่มคนชั้นกลางขึ้นไป  ซึ่งได้รับปัจจัยบวกจากเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ประกอบกับผู้ผลิตบางรายมีการพัฒนารูปแบบไส้และบรรจุภัณฑ์ที่มีความพิเศษ เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีกับผู้ซื้อและผู้รับ ทำให้ผู้ขายได้ราคาขายต่อหน่วยเพิ่มขึ้น 

ปัจจัยที่ผู้ซื้อขนมไหว้พระจันทร์สนใจต่อสินค้าของผู้ประกอบการอันดับ 1 คือสินค้าต้องมีความพิเศษแตกต่างจากรายอื่น มีสัดส่วนร้อยละ 53.7 ขณะที่ชื่อเสียงบริษัทมีความสำคัญลำดับ 2 ร้อยละ 34.1 และกระแสการกล่าวถึงในสื่อโซเชียลต่างๆเป็นอันดับ 3 สัดส่วนร้อยละ 29.3  โดยกลุ่มคนรุ่นใหม่ต้องการขนมไหว้พระจันทร์ที่แตกต่าง เนื่องจากวัตถุประสงค์การซื้อขนมไหว้พระจันทร์ของคนรุ่นใหม่ ส่วนใหญ่เพื่อกินและเป็นของฝากญาติหรือลูกค้าองค์กร กลุ่มนี้ จึงสนใจและต้องการสินค้าที่มีความแตกต่างไปจากสินค้าที่มีวางขายทั่วไป โดยเฉพาะการคัดเลือกสินค้าที่นำไปเป็นของฝากบุคคลสำคัญ จะต้องทำให้ผู้ได้รับเกิดความประทับใจว่าสินค้านั้นถูกคัดสรรอย่างเอาใส่ใจเป็นพิเศษ ด้านไส้ของขนมไหว้พระจันทร์ก็มีพัฒนาการเอาใจคนรุ่นใหม่มากขึ้น เพราะความแปลกใหม่ของขนมไหว้พระจันทร์ จะช่วยดึงกลุ่มลูกค้าใหม่ที่ไม่ซื้อให้หันกลับมาซื้อ  แต่โดยภาพรวมแล้วไส้ขนมไหว้พระจันทร์ที่นิยมยังคงเป็นไส้ดั้งเดิม อาทิ ทุเรียน พุทรา และโหงวยิ้ง แต่มีการพัฒนาผลิตขนมไส้แปลกใหม่และเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น อาทิ คัสตาร์ด ชาเขียว แมคคาเดเมีย 


ปัจจุบัน ยังมีคนจำนวนมากที่ยังไม่เคยซื้อขนมไหว้พระจันทร์  เพราะ ไม่ได้ไหว้ ไม่ชอบทาน และสินค้ามีราคาสูงเกินไป  ซึ่งกลุ่มคนที่ไม่ซื้อขนมไหว้พระจันทร์ เห็นว่า ปัจจัยทางด้านความแปลกใหม่ของไส้ที่ไม่มีในตลาดมีความสำคัญเป็นลำดับ 1 ที่จะกระตุ้นให้เกิดการซื้อ สัดส่วนสูงถึงร้อยละ 41.7 รองลงมาคือราคาที่คุ้มค่าสัดส่วนร้อยละ 38.9 และการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่สวยงามสัดส่วนร้อยละ 16.7 ซึ่งปัจจัยดังกล่าวสอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการสินค้าที่บ่งบอกตัวตน ชอบสิ่งใหม่ๆ แต่ต้องมีค่าใช้จ่ายไม่สูงมากเกินไป นอกจากตลาดในประเทศแล้ว ตลาดกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะคนเชื้อสายจีนจากประเทศต่างๆ เช่น นักท่องเที่ยวจากจีน ฮ่องกง สิงคโปร์และไต้หวัน เป็นอีกตลาดที่น่าสนใจที่ผู้ประกอบการขนมไหว้พระจันทร์ ที่อยู่ในทำเลแหล่งท่องเที่ยวอาจทำตลาดกระตุ้นยอดขาย สำหรับในปีนี้ผู้ประกอบการขนมไหว้พระจันทร์ อาจจะทำการตลาดขยายระยะเวลาการจำหน่ายออกไป จนถึงช่วงที่มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทยสูงในช่วงวันหยุดยาววันชาติจีน 1-7 ตุลาคม เพื่อเป็นของฝากของที่ระลึก โดยเฉพาะขนมไหว้พระจันทร์ที่ผลิตและวางจำหน่ายในโรงแรม หรือที่วางจำหน่ายตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ

 สำหรับปัจจัยเชิงลบที่กระทบต่อตลาดขนมไหว้พระจันทร์ในระยะต่อไปข้างหน้าคือ การที่ลูกหลานจีน อาจจะไม่สืบทอดประเพณีของบรรพบุรุษต่อไป ทำให้การซื้อขนมไหว้พระจันทร์เพื่อจุดประสงค์การไหว้ลดลง ขณะที่ปัจจัยเชิงบวกคือการขับเคลื่อนของลูกค้ากลุ่มใหม่ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่ซื้อไปกินและเป็นของฝาก ดังนั้น การสนับสนุนให้ตลาดขนมไหว้พระจันทร์ ยังคงเติบโตต่อไปได้ในระยะข้างหน้า จะขึ้นอยู่กับการพยายามรักษาฐานผู้ซื้อกลุ่มเดิม ซึ่งอาจไม่ใช่กลุ่มที่ซื้อไปไหว้ เนื่องจากกลุ่มนี้มีจำนวนลดลงเรื่อยๆ แต่จะเป็นกลุ่มที่ซื้อไปกิน/เป็นของฝากในปัจจุบัน และลูกค้ากลุ่มใหม่ ที่ยังไม่เคยซื้อขนมไหว้พระจันทร์เลย  สิ่งสำคัญที่จะช่วยรักษากลุ่มลูกค้าเดิม และขยายกลุ่มลูกค้าใหม่ของตลาดขนมไหว้พระจันทร์ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ จะอยู่ที่การสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างและความประทับใจจากการซื้อสินค้า โดยเฉพาะการพัฒนารูปแบบสินค้าที่ฉีกไปจากกรอบเดิมๆ ทั้งทางด้านรสชาติ ไส้และบรรจุภัณฑ์ ซึ่งสามารถทำได้ทั้งกลุ่มผู้ประกอบการรายเดิม ที่มีโอกาสสร้างตลาดใหม่ๆ เพิ่มเติมจากตลาดลูกค้าที่มีความภักดีต่อรสชาติและไส้ดั้งเดิมของสินค้าอยู่แล้ว รวมถึงผู้ประกอบการรายใหม่ ที่อาจใช้เทคโนโลยีเข้ามาเป็นช่องทางสื่อสารถึงผู้บริโภค รวมถึงลดอุปสรรคของการไม่มีหน้าร้านลงได้

นอกจากนี้ การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้สำหรับตลาดขนมไหว้พระจันทร์ในระยะต่อไป อาจไม่ได้จำกัดอยู่แค่การสร้างโอกาสในการขายเท่านั้น แต่ข้อมูลต่างๆ ที่รวบรวมไว้อาจถูกนำมาใช้ในการบริหารจัดการวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ซื้อ เพื่อนำมาปรับปรุงรูปแบบสินค้า ที่ตอบโจทย์ตรงความต้องการของผู้ซื้อที่เปลี่ยนแปลงไป นอกจากนี้อาจใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ในการขยายโอกาสการจำหน่ายขนมไหว้พระจันทร์ของไทยไปยังตลาดต่างประเทศ เหมือนเช่นที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว ในการนำเอาผลไม้ไทย เช่น ทุเรียน ขึ้นไปอยู่บนแพลตฟอร์มออนไลน์ระดับโลก จนสร้างยอดขายเพิ่มขึ้นจำนวนมากเพียงชั่วข้ามคืน


กลุ่มคนรุ่นใหม่ คือ กลุ่ม Gen X และกลุ่ม Gen Y มีจำนวนรวมกันประมาณ 32.8 ล้านคน กลุ่มนี้ผู้ประกอบการสามารถที่จะเข้ามามีบทบาทในตลาดขนมไหว้พระจันทร์ ในฐานะกลุ่มที่ซื้อไปกินและเป็นของฝากได้ โดยเฉพาะมุมมองต่อสินค้าที่เน้นด้านคุณค่า และความพึงพอใจของผู้ซื้อและผู้รับมาก่อนปัจจัยด้านราคา จะมีส่วนช่วยให้ธุรกิจเข้าใจถึงความต้องการ และมองเห็นลู่ทางในการทำตลาดที่ต่างไปจากเดิม คนกลุ่ม Gen X กำลังเป็นกลุ่มหลักในการซื้อไปกินและเป็นของฝากให้กับลูกค้าธุรกิจ เนื่องจากกำลังซื้อ รวมถึงตำแหน่งในธุรกิจที่เป็นผู้ตัดสินใจซื้อขนมไหว้พระจันทร์เพื่อมอบให้กับลูกค้า และกลุ่ม Gen Y ที่กำลังซื้อน้อยกว่า แต่เริ่มมีบทบาทมากขึ้นในตลาดขนมไหว้พระจันทร์ในฐานะผู้ซื้อไปกิน/ฝากเพื่อน ซึ่งแม้ว่ากลุ่มคนเหล่านี้ จะมีความเข้าใจต่อวัฒนธรรมประเพณีของคนรุ่นก่อนที่เจือจางลง ตามกาลเวลาที่เปลี่ยนแปลงไป แต่เนื่องจากเอกลักษณ์ของขนมไหว้พระจันทร์ที่แตกต่างจากสินค้าทั่วไป อาทิ ระยะเวลาจำหน่ายที่ค่อนข้างจำกัด มีเฉพาะในช่วงเทศกาล ประกอบกับรสชาติและบรรจุภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์  รวมถึงประโยชน์ในด้านการเป็นของฝาก ให้กับเพื่อนฝูงญาติมิตรและลูกค้าธุรกิจ ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้สภาพตลาดขนมไหว้พระจันทร์เปลี่ยนแปลงไป จากหน้าที่ในฐานะขนมที่เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมประเพณี ปรับมาเป็นขนมทานเล่นหรือของฝากที่มีคุณค่าต่อผู้รับ . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ฤทธิ์พายุหนองฟ้าทำหลายจังหวัดอ่วม ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก

31 ส.ค. – พายุหนองฟ้าทำพิษ สุโขทัยเจอน้ำท่วมไหลเชี่ยวกรากหลายอำเภอ ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก ขณะที่ จ.พิษณุโลก น้ำป่าหลากท่วมหลายจุด ต้นพะยอม 100 ปี โค่นขวางถนนกลางเมือง ส่วน จ.สกลนคร พายุกระหน่ำกระทบงานไหว้สาพญาเต่างอย พายุหนองฟ้าทำพิษ จ.สุโขทัย น้ำท่วมหลายอำเภอ โดยพื้นที่ที่กระทบหนักคือ อ.ศรีสัชนาลัย อ.สวรรคโลก อ.ศรีสำโรง อ.เมือง อ.กงไกรลาศ อ.บ้านด่านลานหอย และ อ.คีรีมาศ ซึ่งเช้าวันนี้ ปภ.แจ้งเตือนผ่าน Cell Broadcast ไปยังโทรศัพท์มือถือของประชาชนให้รับมือ นอกจากนี้พบว่าพื้นที่หมู่ 2 หมู่ 4 ต.ปากแคว อ.เมือง มวลน้ำล้นตลิ่งจากแม่น้ำยม ไหลบ่าเข้าท่วมอย่างรุนแรงและเชี่ยวกราก บ้านเรือนได้รับผลกระทบเกือบ 100 หลัง น้ำป่าเข้าท่วมหลายจุดในพิษณุโลกที่ จ.พิษณุโลก น้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ลงสู่ อ.วังทอง และ อ.เนินมะปราง หลังเกิดฝนตกหนักตั้งแต่ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชน พื้นที่การเกษตรเสียหาย โดยถนนทางหลวงช่วงบ้านกกไม้แดง ต.ดินทอง […]

ปชป.ยังไม่มีมติร่วมรัฐบาล กก.บห.มอบหัวหน้าพรรคตัดสินใจ

ปชป. 31 ส.ค. – “เฉลิมชัย” บอก​ ปชป. ยังไม่มีมติเข้าร่วมรัฐบาล ที่ประชุม กก.บห. มอบอำนาจหัวหน้าพรรคตัดสินใจ แจง​จับมือแถลงร่วมเพื่อไทย​ เป็นมารยาท​ เหตุยังร่วม ครม.​ ลั่นสถานการณ์​ปัจจุบัน​ยังไม่มีใครตัดสินใจได้​ ต้องรอฝุ่นจางจะเห็นภาพชัด​ ถ้าด่วนตัดสินใจอาจพลาด​ ย้ำทุกอย่างต้องผ่านมติพรรค ไม่เช่นนั้นเป็นของเถื่อน​ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม​ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังการประชุมกรรมการบริหารพรรค โดยใช้เวลากว่า​ 1 ชั่วโมง​ ว่า ต้องบอกว่าวันนี้การเมืองยังไม่มีข้อยุติ ดังนั้น พรรคประชาธิปัตย์ จึงต้องเรียกประชุมกรรมการบริหารพรรค เพื่อพูดคุยสถานการณ์การเมืองทั้งหมด และกำหนดแนวทางการขับเคลื่อนตามข้อบังคับพรรค ซึ่งเมื่อ น.ส.แพทองธาร​ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พ้นจากตำแหน่ง เท่ากับว่ารัฐบาลได้หมดสิ้นไป การดำเนินการของพรรคประชาธิปัตย์จะต้องมาเริ่มกระบวนการใหม่ทั้งหมดตามข้อบังคับพรรค เพื่อให้สามารถบริหารงานได้ทันการ ซึ่งที่ประชุมมีมติ ใช้ข้อบังคับ 1 3 และ 4 ยกเว้นการใช้ข้อบังคับพรรค โดยใช้เสียงไม่เกิน 3 ใน 5 ของกรรมการบริหารพรรคที่เข้าร่วมประชุม […]

“ภูมิธรรม” ลาประชุม ก.ตร. มอบ “บิ๊กต่าย” ปธ.เคาะโผนายพล

31 ส.ค.- ก.ตร. ประชุมครั้งที่ 8/2568 จับตาแต่งตั้งโยกย้ายใหญ่ ขณะที่ “ภูมิธรรม” ติดภารกิจ มอบ ผบ.ตร. นั่งประธานแทน วันที่ 31 สิงหาคม 2568 เวลา 15.00 น. ที่ห้องประชุมศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) จัดประชุมครั้งที่ 8 ประจำปี 2568 โดยมีวาระสำคัญว่าด้วยการบริหารงานบุคคลและการแต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่งภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งถือเป็นการประชุมใหญ่ที่ถูกจับตามองจากทุกฝ่าย ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ที่ประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 7/2568 มีมติเลื่อนการพิจารณามายังวันนี้ เนื่องจากมีหนังสือร้องเรียนหลายประเด็น รวมถึงกรณีที่เกี่ยวข้องกับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการสอบสวนกลาง ทำให้ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบข้อมูลก่อนตัดสินใจ อย่างไรก็ตาม นายภูมิธรรม เวชยชัย ประธาน ก.ตร. ไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้เนื่องจากติดภารกิจสำคัญเร่งด่วน จึงมีหนังสือถึงที่ประชุมให้ดำเนินการตามข้อบังคับ ก.ตร. ว่าด้วยการประชุมและการลงมติของ ก.ตร. และคณะอนุกรรมการ […]

พรรคร่วมรัฐบาลตอบรับทุกข้อเสนอ “ปชน.” รอเคาะ

พรรคประชาชน 31 ส.ค.- “ภูมิธรรม” เผย พรรคร่วมรัฐบาล ตอบรับทุกข้อเสนอ “ปชน.” รอพรรคประชาชนตัดสินใจ ลั่นทำเร็ว ยุบสภาได้ก่อน 4 เดือน ขณะม็อบหนุน พท. โผล่ให้กำลังใจ “เพื่อไทยสู้ๆ” ภายหลังแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลที่นำโดยนายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย เข้าหารือกับแกนนำพรรคประชาชนประมาณ 1 ชั่วโมง นายภูมิธรรม ได้นำแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลมา แถลงข่าวด้านล่างพรรคประชาชน ขาดเพียงนายเดชอิศม์ ขาวทอง และนายชัยชนะ เดชเดโช แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ที่ระบุว่ารีบไปประชุม กรรมการบริหารพรรค จึงไม่ได้ร่วมวงสัมภาษณ์ได้ โดยนายภูมิธรรม ระบุว่า ในนามพรรคร่วมรัฐบาล ได้มอบหมายให้พรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำในการประสานจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคประชาชน ซึ่งตัวแทนที่มาวันนี้ (31 ส.ค.) ก็ครบทุกพรรค ส่วนตัวแทนพรรครวมไทยสร้างชาติไม่สบาย แต่เขาพร้อม หากไม่สบายใจหรือมีข้อสงสัยก็พร้อมจะซูมเข้ามา ซึ่งข้อเสนอของพรรคร่วมรัฐบาลมีความเป็นเอกภาพ เนื่องจากเห็นว่าการเมืองขณะนี้เป็นช่วงวิกฤต เป็นเรื่องที่ควรจะหาทางออกร่วมกัน ดังนั้นหลังจากที่พูดคุยกันแล้วพรรคร่วมรัฐบาลจึงได้มาพูดคุยกับพรรคประชาชน เนื่องจากพรรคประชาชนเป็นพรรคที่เสนอว่า หากใครรับข้อเสนอของพรรคประชาชนได้ ก็จะนำมาตัดสินใจว่าจะให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งวันนี้(31 […]