ร้อง ตร.ช่วย หวั่นคนหลอกซื้อทองกว่า 40 ล้านเผ่นนอก

กทม.7 ก.ย.-  เหยื่อถูกโกงหลอกซื้อขายทองคำผ่านเฟสบุ๊ก สูญเงินกว่า 40 ล้าน ร้อง ตร.เร่งรัดจับกุม หวั่นหอบเงินหลบหนี 


นายอธิพงษ์ นาครอด อายุ 38 ปี พร้อมผู้เสียหายกว่า 30 คน เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ศปอส.ตร.เพื่อขอให้ดำเนินคดีกับผู้ใช้เฟซบุ๊ค “นางชาลินี วิทยา”หลังถูกหลอกซื้อขายทองคำผ่านเฟซบุ๊ค มีมูลค่าความเสียหายกว่า 40 ล้านบาท


นายอธิพงษ์ เล่าว่า ได้ทำการซื้อขายทองคำกับเจ้าของเฟซบุ๊ครายดังกล่าวมากว่า 1 ปีแล้ว โดยเจ้าของเฟซบุ๊ค จะโพสต์ขายทองคำให้ในราคาถูกกว่าท้องตลอด 2,000-3,000 บาท และก่อนหน้านี้ก็มีการซื้อขายตามปกติ ใช้วิธีโอนเงินเข้าบัญชีของนางชาลินี เจ้าของเฟซบุ๊ค จากนั้นจะมีการจัดส่งทองคำให้ทางไปรษณีย์ ที่ผ่านมาได้รับสินค้าทุกครั้ง กระทั่งครั้งล่าสุดมีการติดต่อซื้อขายทองคำเมื่อวันที่ 27 ส.ค.โดยผู้ใช้เฟซบุ๊ครายนี้อ้างว่าจะได้รับทองคำภายใน 2 วันและราคาถูกกว่าเดิมที่เคยซื้อขาย ตนเห็นว่าได้ราคาถูกและได้ทองคำเร็ว จึงระดมทุนทั้งของตนและญาติพี่น้องมาซื้อ หวังจะได้กำไร เฉพาะเงินตนเกือบ 4,000,000 บาท พอโอนเงินไปกลับไม่ได้รับสินค้าตามกำหนดเมื่อทวงถามกลับติดต่อไม่ได้ ก่อนที่เจ้าของจะปิดเฟซบุ๊คไป อย่างไรก็ตาม นอกจากตนแล้ว ยังมีผู้เสียหายรายอื่นที่ถูกหลอกและหาเงินมาสั่งซื้อทองคำในล๊อตเดียวกันอีกหลายคน ในจำนวนนี้เยอะสุดคือ 10 ล้านบาท 

จากการสอบถามผู้เสียหายส่วนใหญ่เล่าว่าทางเจ้าของเฟซบุ๊ค ได้สร้างความน่าเชื่อถือโดยอ้างว่ารู้จักและเป็นญาติกับเจ้าของร้านทองหลายแห่ง มีการโพสต์ข้อความและแชร์ภาพเกี่ยวกับการสั่งซื้อ การส่งสินค้า แต่หลังเกิดเรื่องเมื่อตรวจสอบไปยังร้านทองกลับพบว่าไม่รู้จักและถูกแอบอ้างชื่อร้าน จึงได้รวมตัวกันไปทวงถามที่บ้านในพื้นที่ จ.ลพบุรี โดยพบเพียงอดีตสามีซึ่งเป็นทหารยศ “พ.อ.อ.”หย้าร้างกันได้ไม่กี่วัน      อ้างว่าไม่รู้ว่าอดีตภรรยาไปไหนและไม่รู้เห็นเกี่ยวกับการซื้อขายทองคำ แต่ทางผู้เสียหายไม่เชื่อ เพราะอดีตสามีก็เคยสั่งซื้อสินค้า กับ น.ส.ชาลินี ด้วยเช่นกัน จึงรวมตัวกันมาแจ้งความร้องทุกข์ให้ช่วยติดตามเนื่องจากเกรงว่าจะหลบหนีออกนอกประเทศ เพราะยังไม่มีหมายจับและมีเงินเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ทางผู้เสียหายยังพบว่า น.ส.ชาลินี เคยโกงเงินค่าแชร์เกือบ 1,000,000 บาทเมื่อปี 2557 แต่ไม่ถูกดำเนินคดี 


พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำและลงบันทึกประจำวัน ไว้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นเสี่ยงร่วมกระทำผิด

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ศึกชิงนายก อบจ.สุรินทร์ “ธัญพร มุ่งเจริญพร” เข้าป้าย

ศึกชิงนายก อบจ.สุรินทร์ ลุ้นกันจนนาทีสุดท้าย “ธัญพร มุ่งเจริญพร” พลิกชนะ “พรชัย มุ่งเจริญพร” แชมป์เก่าแบบขาดลอย คว้าเก้าอี้มาครอง นั่งนายก อบจ.หญิงคนแรกของจังหวัด

เลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ครึ่งวันเช้าคึกคัก

ภาพรวมการใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ครึ่งวันเช้าค่อนข้างคึกคัก มีประชาชนทยอยใช้สิทธิต่อเนื่อง ยังไม่มีรายงานการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง

ปชช.ตื่นตัวใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ท่ามกลางสายฝน

ชาวนครศรีธรรมราช ตื่นตัวออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ. ท่ามกลางสายฝน กกต.เผยภาพรวมครึ่งวันเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยังไม่มีรายงานการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง