กรุงเทพฯ, ภูมิภาค 6 ก.ย.-เหตุหญิงสาวชาวไทยเสียชีวิต 2 ศพที่เมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน สหรัฐ ล่าสุดจนถึงขณะนี้ยังไม่มีคำแถลงอย่างเป็นทางการว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ขณะที่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตกำลังเตรียมทำเรื่องขอรับศพกลับมาบำเพ็ญกุศลที่ภูมิลำเนา พร้อมปฏิเสธกระแสข่าวว่า “น้องแอ๋ม” ติดต่อญาติ แจ้งว่าเกิดความไม่ปลอดภัยในชีวิตนั้น ไม่เป็นความจริง
สำหรับผู้เสียชีวิต 2 ศพภายในอพาร์ตเมนต์ที่เมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐ มีคำยืนยันจาก น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ว่าสถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแองเจลิส ได้รับการยืนยันอัตลักษณ์ศพผู้เสียชีวิตแล้ว 1 คน คือ น.ส.ฐิฏิอร โชติช่วงทรัพย์ อายุ 32 ปี หรือ “น้องอร” ชาวสมุทรสาคร แต่รายละเอียดต่างๆ ยังไม่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการ ส่วน น.ส.กรกมล หลีนวรัตน์ หรือ “น้องแอ๋ม” อายุ 25 ปี เป็นนักศึกษาปริญญาโท ชาวปทุมธานี แม้ไม่มีคำยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่ญาติรับทราบว่าได้เสียชีวิตแล้วเช่นกัน
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ลงพื้นที่ไปยังบ้าน “น้องแอ๋ม” ย่านคลอง 7 ถนนรังสิต-นครนายก ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี โดยเป็นอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น แต่ถูกปิดเงียบ โดยเคยทำธุรกิจขายอุปกรณ์เครื่องมือการเกษตร แต่ 4-5 ปีก่อนแม่ของ “น้องแอ๋ม” เสียชีวิต ทำให้ครอบครัวเลิกกิจการ ก่อนผู้ตายจะไปเรียนต่อ
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์สอบถามนายวีระศักดิ์ หลีนวรัตน์ ส.จ.ปทุมธานี พี่ชายของ “น้องแอ๋ม” ได้รับข้อมูลว่า ครอบครัวยังตกใจและเสียใจกับเหตุการณ์ ไม่สามารถให้สัมภาษณ์ได้ แต่พ่อ “น้องแอ๋ม” ได้นำหลักฐานเข้าพบกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อทำเรื่องมอบอำนาจให้ญาติในสหรัฐรับศพกลับมาบำเพ็ญกุศลที่วัดนาบุญ ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี พร้อมกันนี้ยังปฏิเสธกระแสข่าวว่า “น้องแอ๋ม” ติดต่อญาติ แจ้งว่าเกิดความไม่ปลอดภัยในชีวิตนั้น ไม่เป็นความจริง
แต่ก่อนที่ “น้องแอ๋ม” เสียชีวิต พบว่าไม่สามารถติดต่อได้ 2-3 วัน ทั้งๆ ที่ผ่านมา “น้องแอ๋ม” ติดต่อกลับครอบครัวและแฟนหนุ่มตามปกติ กระทั่งช่วงบ่ายวันเสาร์ “น้องแอ๋ม” ขาดการติดต่อกับเพื่อน และไม่ได้ไปทำงานที่ร้านอาหาร ทำให้ครอบครัวร้อนใจและให้ญาติที่อยู่สหรัฐแจ้งตำรวจตรวจสอบอพาร์ตเมนต์ แต่ไม่สามารถเข้าไปได้ กระทั่งผ่านมา 2 วัน เมื่อตำรวจได้รับแจ้งเหตุ จึงพบ “น้องแอ๋ม” และ “น้องอร” เสียชีวิต
นอกจากนี้ใน Facebook ของนายวีระศักดิ์ โพสต์ข้อความเป็นรูปภาพ “น้องแอ๋ม” พร้อมข้อความแสดงความเสียใจ โดยยกให้เธอเป็นนางฟ้าของครอบครัว เรียนเก่ง จบกฎหมายที่ธรรมศาสตร์ พอเรียนจบแล้วจึงเรียนเนติบัณฑิตไทยภายใน 1 ปี จากนั้นไปต่อปริญญาโทที่บอสตัน และกำลังเรียนปริญญาโทอีกใบ เพิ่งเดินทางไปสหรัฐ เมื่อ 21 สิงหาคม แต่สุดท้ายก็มาจบชีวิตลงด้วยอายุเพียง 24 ปี 9 เดือน ทั้งที่ในอีก 7 เดือน จะกลับมาสอบผู้พิพากษา
ด้านนายกฤษฎา หลีนวรัตน์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลธัญบุรี บอกกับผู้สื่อข่าวว่า พ่อของ “น้องแอ๋ม” ซึ่งมีศักดิ์เป็นพี่ชายตนเอง ยังทำใจไม่ได้ ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด แต่ผู้ที่เสียชีวิตอีกคนเป็นเพื่อนสนิท “น้องแอ๋ม” โดยได้ให้ลูกชายและลูกสาวที่เรียนที่สหรัฐประสานนำศพกลับมาบำเพ็ญกุศลแล้ว
ขณะที่ผู้สื่อข่าว สำนักข่าวไทย ประจำจังหวัดสมุทรสาคร เดินทางไปหาครอบครัวของผู้เสียชีวิตอีกคน คือ “น้องอร” ที่บ้านหลังหนึ่งในต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร โดยเป็นตึกแถว 2 ชั้น 4 คูหา แต่ไม่พบผู้อยู่อาศัย และมีป้ายปิดประกาศขาย จากการสอบถามชาวบ้านละแวกใกล้เคียงเล่าว่า ในอดีตครอบครัวนี้พักด้วยกัน 6 คน มีพ่อแม่และลูกอีก 4 คน “น้องอร” เป็นลูกคนโต โดยบ้านหลังนี้เคยเป็นโรงแป้งและโรงกลึง แต่เมื่อพ่อของ “น้องอร” เสียชีวิต จึงย้ายไปบ้านใหม่ย่านพุทธมณฑลสาย 2 ตั้งแต่ปี 2554
ด้าน พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ระบุว่า “น้องแอ๋ม” เดินทางออกจากไทยเมื่อ 21 สิงหาคม ส่วน “น้องอร” เดินทางออกไทยเมื่อ 27 สิงหาคม โดยกำลังตรวจสอบข้อมูลอื่นๆ เพื่อประสานไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต่อไป.-สำนักข่าวไทย