“ครูวิภา” เป็นไท ปลดหนี้กยศ.แล้ว

สำนักข่าวไทย 6 ก.ย.- “ครูวิภา”เป็นไท ปลดหนี้กยศ.แล้ว  เตรียมติดตามทวงหนี้จากนักเรียนที่ค้างชำระเป็นรายคน  นำเงินมาตั้งกองทุนช่วยเหลือนักเรียนที่เดือดร้อน


น.ส.วิภา บานเย็น อายุ 47 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งในจ.กำแพงเพชร เปิดเผยความคืบหน้าการชำระหนี้ที่เกิดจากการค้ำประกันกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.)  ให้กับนักเรียนตั้งแต่ปี 2541-2542 จำนวน 60 ราย แต่มีลูกศิษย์จำนวน 20-30 ราย ค้างชำระหนี้  จนกยศ.ได้บังคับคดีในฐานะที่เป็นผู้ค้ำประกัน และทำให้เกือบถูกยึดทรัพย์ บ้าน ที่ดิน ซึ่งหลังจากเป็นข่าวไปแล้ว จะมีลูกศิษย์บางรายเข้ามาชำระหนี้ รวมถึงมีหลายหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือ  ว่า เมื่อวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา ตนได้ใช้ชำระหนี้ กยศ.แทนลูกศิษย์ไปเรียบร้อยแล้ว รวมเป็นเงินกว่า 2.7 แสนบาท ดีใจมากที่หลุดพ้นจากการเป็นผู้ค้ำประกัน กยศ.ไม่ต้องกังวลเรื่องหมายศาล หรือกังวลคนมายึดทรัพย์สินของตน ขณะนี้รอหนังสือยันยันจาก กยศ.ว่าตนหมดภาระคนค้ำประกันแล้ว


น.ส.วิภา กล่าวต่อว่า ขั้นตอนต่อไปคือการติดตามทวงหนี้นักเรียนที่ยังคงไม่มีการชำระหนี้  ซึ่งตนได้รับความช่วยเหลือจาก นายธัชชัย สีสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร ที่ช่วยประสานทุกหน่วยงานในจังหวัด เพื่อขอความร่วมมือช่วยตามหาที่อยู่นักเรียนที่เคยกู้ กยศ.จำนวน 20 คน ว่าอยู่ที่ไหน ทำอาชีพอะไร ขณะนี้ได้ข้อมูลที่อยู่ อาชีพนักเรียนครบถ้วนแล้ว อยู่ขั้นตอนการดำเนินการติดตามทวงหนี้เป็นรายคนไป แต่ในจำนวน 20 คน มีบางส่วนที่มีปัญหาทางการเงิน และต้องการความช่วยเหลือตนก็เข้าไปปิดบัญชีให้เเล้ว ขณะที่หลังจากติดตามทวงหนี้เป็นรายคนไป ก็มีเด็กบางคนยินดีที่จะคืนเงินให้แล้ว  ตนจะเอาเงินที่ได้รับคืนจากลูกศิษย์ตั้งเป็นกองทุนเพื่อช่วยเหลือนักเรียนที่เดือดร้อน ซึ่งหวังว่าลูกศิษย์ของตนจะเป็นคนดี มีความรับผิดชอบจะมาคืนเงินให้ และอยากจะขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่เข้ามาช่วยเหลือให้ประสบความสำเร็จและหลุดพ้นจากภาระการเป็นผู้ค้ำประกัน

น.ส.วิภา กล่าวต่อว่า จะนำบทเรียนเรื่องนี้คอยย้ำเตือนในการใช้ชีวิต หากอนาคตมีลูกศิษย์มาขอให้ค้ำประกันอีก ตนจะพิจารณาเป็นรายบุคคล ว่าต้องมั่นใจในตัวเขาเเละต้องติดต่อกันได้ตลอดเวลา ซึ่งจะต้องคิดเยอะขึ้น เพราะเหตุการณ์ที่ผ่านมาไม่ได้คิดอะไรเลย อยากจะช่วยเหลือเด็กอย่างเดียว เเละฝากให้เรื่องนี้เป็นอุทธาหรณ์สำหรับคนที่กำลังจะค้ำประกันหรือค้ำประกันอยู่ด้วย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

ดีเอสไออนุมัติสืบสวนคดีแตงโม คาดตั้งชุดเริ่มสืบได้ 27 ม.ค.นี้

อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติให้สืบสวนคดีแตงโม ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ คาดเริ่มได้ 27 ม.ค.นี้

พ่อผู้ต้องหาชนไรเดอร์ กราบขอขมาครอบครัวผู้เสียชีวิต

พ่อผู้ต้องหาชนไรเดอร์ กราบขอขมาครอบครัวผู้เสียชีวิต เปิดใจกับสื่อ ลูกชายยังอยู่ในอาการช็อก เชื่อเสียใจและอยากมาขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ จากภาคใต้ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก หารือผู้นำและภาคเอกชนชั้นนำของโลก

กทม.จำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามรถบรรทุกวิ่ง เริ่มคืนนี้!

ผู้ว่าฯ กทม. ติดตามสถานการณ์ฝุ่น กทม. คาดสุดสัปดาห์ระบายอากาศดีขึ้น พร้อมจำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามวิ่งรถบรรทุก เริ่มคืนนี้! ย้ำประชาชนช่วยสอดส่องการลอบเผา ต้นเหตุฝุ่น PM 2.5