ถนนข้าวสาร5 ก.ย.-กทม.สั่ง 50เขตตรวจเข้ม ร้านสักลายต้องมีใบอนุญาต ทั้งร้านตึกแถว วัด สำนักอาจารย์ต่างๆและหาบเร่ ถ้าตรวจแล้วไม่มีจัดการตามกฏหมายทันที พร้อมเตรียมแจ้งความ ‘อ.เก่ง TATTOO’ ช่างสักลายย่านคลองหลอด มอบเขตพระนคร แจ้งความตำรวจ ในความผิดประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต
นายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากเขตพระนคร ผู้บริหารสำนักอนามัย ลงพื้นที่ตรวจร้านสักลายผิวหนังบนถนนข้าวสาร
นายทวีศักดิ์ กล่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจสอบว่า หลังมีกระแสข่าวมีหญิงสาวเสียชีวิต ซึ่งสาเหตุของผู้เสียชีวิต มีการระบุว่าติดเชื้อเอชไอวีจากการสักลายผิวหนังในพื้นที่กรุงเทพฯนั้น ขณะนี้ได้ผลการตรวจสอบที่ชัดเจนว่า ผู้เสียชีวิตเกิดการติดเชื้อเอชไอวีอยู่ก่อนแล้ว จึงไม่ได้ติดเชื้อจากการสักลายผิวหนังแต่อย่างใด แต่การสักลายผิวหนัง ถือเป็นกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ซึ่งการสักหากไม่ถูกต้องตามหลักอนามัยจะมีความเสี่ยงต่อโรคต่างๆอย่างมาก ดังนั้การประกอบกิจการ ผู้ประกอบการจะต้องได้รับใบอนุญาตในการประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างถูกต้อง จึงจะสามารถประกอบการกิจการได้
นายทวีศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า จากการตรวจสอบพบว่าส่วนใหญ่ในถนนข้าวสารเป็นร้านที่ขออนุญาตถูกต้อง ผ่านเกณฑ์การขออนุญาตเปิดสถานประกอบการที่ประกอบด้วย 1.มีเครื่องมือปฐมพยาบาลเบื้องต้น 2.มีหลักฐานการกำจัดอุปกรณ์ติดเชื้อ เข็มสัก ในสถานที่ที่สาธารณสุขรับรอง 3.มีหลักฐานรับรองคุณภาพสีว่าเป็นสีที่ใช้ในการประกอบการสัก ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพหรือผิวหนังของมนุษย์ 4.ต้องมีป้ายแสดงกฎข้อห้ามในการปฏิบัติตัวระหว่างสัก 5.ต้องมีการกั้นแบ่งส่วนพื้นที่ในการสักอย่างชัดเจน 6.ต้องมีการแยกส่วนพื้นที่ในการทำความสะอาดอุปกรณ์อย่างชัดเจน 7.ต้องมีใบยินยอมในการสักและลงชื่อเป็นลายลักษณ์อักษรจากลูกค้า
นายทวีศักดิ์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบัน กทม.มีร้านสักที่มีใบอนุญาตถูกต้อง รวม 50ราย ซึ่งกระจายตามเขตต่างๆ โดยในพื้นที่เขตพระนคร มีร้านบริการรับสักลายผิวหนัง จำนวน 17ร้าน อยู่ในพื้นที่ถนนข้าวสาร จักรพงษ์ และรามบุตรี สำหรับร้านสักลายผิวหนัง ที่มีใบอนุญาตการประกอบกิจการอย่างถูกต้องนั้น หลังทำเรื่องขอไปยัง กทม.ก็จะมีเจ้าหน้าที่ของ กทม.เข้าไปประเมิน และลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างต่อเนื่องว่าเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดหรือไม่ เช่น พื้นที่ทำการสักต้องแยกสัดส่วนจากพื้นที่อื่น ไม่มีสัตว์เลี้ยงอยู่ในบริเวณที่ทำการสัก อุปกรณ์การสัก เจาะ ต้องจัดเก็บเป็นระเบียบ มีภาชนะบรรจุอย่างปลอดภัย มีอุปกรณ์ทำความสะอาดร่างกายต่อผู้รับบริการ สีต้องไม่เป็นอันตรายต่อร่ายกาย เข็ม ภาชนะบรรจุสี มีดโกน ต้องใช้ครั้งเดียวทิ้ง
ทั้งนี้ จากการพูดคุยกับผู้ประกอบการร้านสัก พบว่าในกรุงเทพฯน่าจะมีผู้ที่ประกอบอาชีพเป็นช่างสักประมาณ 1,000 คน อยู่ตามร้านต่างๆ แต่มีร้านสักที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องในกรุงเทพฯมีอยู่ 50 แห่งเท่านั้น โดยยังมีบางร้านไม่มาขออนุญาต จึงฝากให้ทั้ง 50 เขต ช่วยกันสอดส่อง แจ้งเตือนผู้ให้บริการ ให้มาขออนุญาตเปิดสถานกิจการอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะร้านสักหาบเร่ หรือร้านสักตามตลาดนัด เป็นต้น ทุกร้านต้องมีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมายและปฏิบัติถูกต้องตามหลักเกณฑ์การประกอบกิจการที่กำหนด หากพบการประกอบกิจการสักผิวหนัง เจาะหู หรืออวัยวะอื่นๆ ไม่มีใบอนุญาต หรือเป็นร้านสักแบบเร่ ตั้งแผงรับสักในจุดใดๆ จะต้องสั่งหยุดกิจการ และดำเนินคดีตามกฎหมายในทันที
สำหรับประชาชนผู้ใช้บริการสักลายผิวหนัง ถือเป็นเรื่องที่มีความเสี่ยง ผู้ใช้บริการจึงต้องร่วมตรวจสอบ ดูแลตนเอง โดยดูว่าร้านที่ใช้บริการ มีสถานที่และความสะอาดที่เหมาะสม และมีใบอนุญาตประกอบกิจการอย่างถูกต้องหรือไม่ หากพบความไม่ถูกต้อง ก็ไม่ควรเข้ารับบริการอย่างเด็ดขาด
ขณะเดียวกัน กทม.เตรียมหารือร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ให้ออกประกาศหลักเกณฑ์การขึ้นทะเบียนช่างสักเพื่อออกใบประกอบวิชาชีพ และเพื่อควบคุมให้การสักดำเนินการได้ตามมาตรฐาน ความสะอาด
นอกจากการสักแฟชั่น สักสวยงามแล้ว ทาง กทม. เตรียมเจรจาทำความเข้าใจกับผู้ให้บริการสักตามความเชื่อ ประเภทการสักยันต์ ตามวัดและสำนักต่างๆ ก็ต้องได้มาตรฐาน ถูกสุขอนามัยที่ดีด้วย
สำหรับกรณีช่างเก่งสักลาย ย่านคลองหลอด พบว่ายังคงนั่งเปิดให้บริการตามปกติ แต่หลังจากที่เป็นข่าวก็ไม่มีลูกค้าเข้ามา ล่าสุดทางสำนักงานเขตพระนครเตรียมเข้าแจ้งความกับตำรวจในพื้นที่ ในความผิดประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติสาธารณสุข ต่อไป
ด้านนายนนทิวัฒน์ จันทรประสิทธิ์ เจ้าของร้านอัพทูยู แทททู เปิดเผยว่า ร้านสักของตนเปิดมานานกว่า12ปีได้รับใบอนุญาตถูกต้องในการประกอบกิจการจาก กทม. โดยสำนักงานเขตพระนคร อย่างไรก็ตามกระบวนการสักลายผิวหนังของร้านจะมุ่งเน้นดูแลด้านความสะอาด สุขอนามัยอย่างเต็มที่ ซึ่งร้านได้ดูแลความสะอาด สุขอนามัยของอุปกณ์การสัก สถานที่ และสุขอนามัยของช่างสักร่วมด้วย ซึ่งจะมีการอบรมความรู้ การดูแลสุขอนามัยการสักลายผิวหนังกับช่างสักลายผิวหนังอยู่เสมอ
สำหรับผู้รับบริการสักลายผิวหนัง จะมีการติดป้ายชัดเจนกำหนดอายุการสักที่ 18ปีขึ้นไป ส่วนหากมีผู้อายุต่ำกว่า 18ปี จะใช้บริการ ช่างสักจะต้องมีการพูดคุย และแจ้งไม่รับสักกับบุคคลที่อายุต่ำกว่าเกณฑ์ นอกจากนี้ที่ร้านจะไม่รับสักลวดลายที่เกี่ยวเนื่องกับความเชื่อทางศาสนาใดๆ เพื่อไม่ให้เกิดความสุ่มเสี่ยง เกิดข้อขัดแย้งใดๆขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการเปิดกิจการร้านสักลายผิวหนัง เจาะหู หรือการเจาะอวัยวะอื่น ๆ ต้องมีใบอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ตามพระราชบัญญัติการสาธารณะสุข ปี 2535 จากเจ้าพนักงานท้องถิ่น ซึ่งหากมีการประกอบกิจการโดยไม่มีใบอนุญาต จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 6เดือนหรือปรับไม่เกิน 10,000บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนใบอนุญาตการประกอบกิจการสัก เจาะหู หรืออวัยวะอื่นๆนั้น จะต้องมีการต่อใบอนุญาตเป็นรายปี โดยมีค่าธรรมเนียมใบอนุญาต 5,000บาทต่อปี. –สำนักข่าวไทย