สำนักข่าวไทย 3 ก.ย.- ร่าง พ.ร.บ.ยา ฉบับใหม่ อยู่ระหว่างจัดทำ และเตรียมเสนอตามขั้นตอนเพื่อออกมาบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป แต่มีผู้เกี่ยวข้องออกมาคัดค้านอย่างต่อเนื่อง โดยประเด็นสำคัญที่มีการคัดค้าน คือ การเปิดช่องให้ผู้อื่นที่ไม่ใช่ “เภสัชกร” สามารถจ่ายยาได้ รวมถึงความเชื่อมโยงที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจไปเอื้อประโยชน์ให้เอกชน
ร่าง พ.ร.บ.ยา ฉบับใหม่ มีการผลักดันโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. และปิดการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนไปแล้ว เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา สาระสำคัญของร่างกฎหมายนี้ จะขอให้แก้ไข พ.ร.บ.ยา ฉบับเดิม ที่มาใช้ตั้งแต่ปี 2510 ให้มีความทันสมัยและมีความเป็นสากลมากยิ่งขึ้น แต่ประเด็นที่มีการเห็นต่างมากที่สุดอยู่ที่ “การให้บุคคลในวิชาชีพอื่นที่ไม่ใช่ “เภสัชกร” สามารถจ่ายยาได้”
ท่าทีของสภาเภสัชกรรมออกแถลงการณ์คัดค้านเนื้อหาร่าง พ.ร.บ.ยา ฉบับใหม่ ใน 9 ประเด็น เช่น การแบ่งแยกประเภทยาที่ไม่เป็นไปตามสากล การตัดบทบาทของวิชาชีพเภสัชกรรมในการปรุงยาและจ่ายยา การให้เภสัชกรสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้เกิน 1 แห่ง ทำให้เกิดอาชีพ ‘เภสัชกรแขวนป้าย’ ฯลฯ
สำนักข่าวไทย อสมท เปรียบเทียบความแตกต่าง ระหว่าง พ.ร.บ. ยา พ.ศ.2510 กับ ร่าง พ.ร.บ.ยา ….ที่กำลังเป็นประเด็น 2 เรื่อง
1.เรื่อง การแบ่งประเภทของยาตามร่าง มาตรา 4 ว่าด้วย นิยาม
• ปี 2510 ฉบับเดิม มีการกำหนดนิยามคำเดิม มี 4 ประเภท
-ยาอันตราย
-ยาควบคุมพิเศษ
-ยาสามัญ
-ยาแผนปัจจุบัน หรือยาที่ไม่มีอันตราย
แต่ในร่าง พ.ร.บ.ยา ที่กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ นี้มีการปรับปรุง โดยยึดหลักการคุ้มครองผู้บริโภคเพื่อความปลอดภัยในการใช้ยา จากการที่ยาทุกชนิดมีทั้งคุณและโทษ การใช้ยาตามหลักสากลส่วนใหญ่จึงแบ่งยาเป็น 3 กลุ่ม คือ
-ยาควบคุมพิเศษ คือ ยาที่จ่ายตามใบสั่งแพทย์ Prescription only
-ยาอันตรายพิเศษ คือ ยาที่จ่ายโดยเภสัชกร Pharmacist only
-ยาสามัญ คือ ยาที่ประชาชนเลือกใช้ได้เอง Self-medication ซึ่งเป็นที่เข้าใจโดยง่ายของประชาชนในการได้มาซึ่งยารักษาโรค
2.เรื่องหน้าที่ของวิชาชีพเภสัชกรรมในการปรุงยาและจ่ายยาตามใบสั่งของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรม และผู้ประกอบวิชาชีพการสัตวแพทย์ หรือแพทย์ ทันตแพทย์ และสัตวแพทย์ โดยบุคคลผู้ที่มีบทบาทหน้าที่เกี่ยวกับยามีอยู่ 3 กลุ่ม คือ
แพทย์ – ตรวจรักษา วินิจฉัยอาการ และสั่งยา
พยาบาล – ดำเนินการสั่งยา
เภสัชกร – จัดยา จัดยาตามใบสั่งแพทย์ ร่วมวิเคราะห์การสั่งยา อธิบายสรรพคุณยาให้ผู้ป่วยได้เข้าใจ
พ.ร.บ.ยา พ.ศ. 2510 บัญญัติให้หน้าที่ในการจ่ายยา-เภสัชกร แพทย์ ทันตแพทย์ สัตวแพทย์ สั่งจ่ายยาสำหรับรักษาผู้ป่วยเฉพาะรายของตนเท่านั้น แต่ พ.ร.บ.ยาใหม่ ผู้มีหน้าที่มีการจ่ายยา เพิ่มขึ้นมาจากเดิมอีก 4 ด้าน พยาบาลวิชาชีพ นักเทคนิคการแพทย์ นักกายภาพบำบัด แพทย์แผนไทย
นพ.วันชัย สันติยาวุฒิพงศ์ เลขาธิการ อย. ก็ออกมาบอกว่า จากการรับฟังความคิดเห็นที่ผ่านมา ทุกฝ่ายต่างเห็นพ้องกับเนื้อหา 90% ของ พ.ร.บ.ยา ฉบับใหม่ มีที่เห็นต่างแค่ 10% เท่านั้น จึงจะเสนอส่วนที่เห็นพ้องไปตามขั้นตอน ส่วนที่เห็นต่างก็อาจจะเขียนว่าให้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาปรับแก้ได้ภายหลัง
ขณะที่อีกด้านหนึ่ง ภก.นิลสุวรรณ ลีลารัศมี นายกสภาเภสัชกรรม ได้ทำหนังสือถึงเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา โดยเป็นหนังสือขอคัดค้านร่าง พระราชบัญญัติยา พ.ศ…(ฉบับใหม่) เมื่อวันวันที่ 27 สิงหาคม 2561.-สำนักข่าวไทย