สำนักข่าวไทย 17 ก.ย.-แพทย์ รพ.ยันฮี เตรียมพาน้องทราย เหยื่อครูปาแก้ว ตรวจคลื่นไฟฟ้ากล้ามเนื้อที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ คาดไม่เกินพรุ่งนี้จะทราบสาเหตุของอาการ ก่อนรักษาให้ถูกทาง ด้านผู้ปกครองไม่พอใจ หลังคณะกรรมการสอบสวนชี้เป็นความผิดไม่ร้ายแรง
นพ.สุธน พิศูทธินุศาสตร์ ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลยันฮี ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวไทย ถึงความคืบหน้าในการตรวจรักษาอาการของน้องทราย นักเรียนชั้น ม.5 ที่โดนครูพลศึกษาปาแก้ว ทำให้ใบหน้าบิดเบี้ยวและตาเสื่อมสภาพว่า วันนี้เวลา 15.00 น.จะพาน้องทรายไปตรวจคลื่นไฟฟ้ากล้ามเนื้อ (EMG) เพื่อดูการทำงานของเส้นประสาทคู่ที่ 7 บริเวณใบหน้าว่าขาดหรือไม่ โดยใช้วิธีการกระตุ้นด้วยเข็ม ที่ศูนย์ของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ และนำผลให้แพทย์เฉพาะทางวินิจฉัย ซึ่งจะนำผลการตรวจที่ได้มาประเมินร่วมกับการตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสมอง (MRI) เพื่อตรวจสอบระบบว่ามีการฝ่อหรือบีบรัดเส้นประสาทที่ตรวจไปแล้วเมื่อวาน โดยผลที่ออกมายังไม่ชัดเจนนัก แต่คาดว่าจะทราบผลหรือสาเหตุที่ทำให้หน้าบิดเบี้ยวและตาเสื่อมสภาพได้ไม่เกินวันพรุ่งนี้ (18 ก.ย.) ก่อนจะรักษาอาการต่อไป โดยน้องทรายตอนนี้พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลยันฮีพร้อมญาติ
ด้านนางมัชฌิมา สุแพง น้าของน้องทราย ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวไทยว่า ตอนนี้น้องอาการคงตัว ได้รับการดูแลจากแพทย์อย่างใกล้ชิด ส่วนกรณีผลการดำเนินการสอบสวนความผิดทางวินัยของครูพละคนดังกล่าว พบว่าเป็นความผิดทางวินัยไม่ร้ายแรง การลงโทษอาจเป็นแค่การภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือนหรือลดเงินเดือน ซึ่งหลังทราบข่าวตนรู้สึกไม่ดี คิดว่าการลงโทษควรจะมากกว่านั้น ต้องให้เด็กเสียชีวิตเลยหรือถึงจะมีความผิดร้ายแรง ขณะที่ด้านคดีความ อัยการยังไม่นัดสอบเพิ่มเติม ส่วนน้องจะย้ายโรงเรียนหรือไม่นั้น ครอบครัวอยู่ระหว่างการพูดคุยกัน.-สำนักข่าวไทย