รร.เซ็นทารา 3 ก.ย. – กระทรวงพาณิชย์คาดส่งออกปีนี้ขยายตัวร้อยละ 9 พร้อมเดินหน้าเจาะตลาดจีนใต้ หวังต่อยอดผู้ประกอบการไทย ตั้งเป้าส่งเสริมการค้าการลงทุน 2 ประเทศ 140,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 63
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ทิศทางการส่งออกปีนี้สดใส คาดขยายตัวร้อยละ 9 โดยจีนถือเป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของไทย สำหรับมูลค่าการค้าไทยและจีนขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2560 การค้า 2 ฝ่าย มีมูลค่ามากกว่า 73,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 12.4 ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดของไทย ปีนี้ตั้งเป้ามูลค่าการค้าไทยและจีนจะขยายตัวมากกว่า 80,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ตั้งเป้าการค้าการลงทุนระหว่างนักธุรกิจ ผู้ซื้อ ผู้นำเข้าและนักลงทุนของไทยและจีน 140,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2563
สำหรับจีนถือเป็นตลาดใหญ่และมีกำลังซื้อมหาศาล เพราะมีประชากรมากถึง 1,300 ล้านคน กระทรวงพาณิชย์จึงมีเป้าหมายที่จะผลักดันผลไม้ของไทยเข้าสู่ทุกมณฑลของตลาดจีน เพื่อรองรับผลผลิตผลไม้ของไทยทุกฤดูกาล เช่น ลำไย ทุเรียน ซึ่งเป็นที่นิยมของตลาดจีนผ่านเส้นทางจีนตอนใต้เชื่อมโยงไปทุกมณฑลของจีน อาทิ เมืองคุนหมิง และเมืองผิงเสียง ซึ่งถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญสามารถเชื่อมโยงการค้ากับกลุ่มประเทศ CLMVT กับ One Belt One Road ของจีน ถือเป็นเส้นทางการค้าใหม่ที่มีศักยภาพเชื่อมเอเชียสู่ยุโรป ทำให้การส่งออกสินค้าของไทยมีช่องทางเพิ่มมากขึ้นและสามารถเจาะเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคใหม่แต่ละมณฑล โดยกระทรวงพาณิชย์จะใช้เป็นกุญแจในการผลักดันให้ไทยก้าวสู่การเป็นมหาอำนาจด้านการผลิตผลไม้ โดยจะใช้กลยุทธ์เจาะตลาดใหม่ ขยายเข้าสู่เมืองรองเพิ่มมากขึ้นและรักษาตลาดเดิม พร้อมผลักดันการทำการค้าผ่านอี-คอมเมิร์ซ รวมถึงส่งเสริมการออกไปลงทุนในต่างประเทศ เพื่อสร้างโอกาสและผลักดันให้ประเทศไทยก้าวไปสู่นครผลไม้โลกได้อย่างยั่งยืน
นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า สำหรับมูลค่าการส่งออกของไทยช่วงเดือนมกราคม – มิถุนายน ปี 2561 มีมูลค่า 125,811.71 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 โดยมีมูลค่าการค้าระหว่างไทย-จีน อยู่ที่ 39,428.11 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 12.33 โดยเป็นการส่งออก 14,818.74 ล้านเหรียญสหรัฐ และนำเข้า 24,609.37 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ จีนกลายเป็นศูนย์กลางทางการค้าของทวีปเอเชีย โดยเมืองคุนหมิงถือเป็นตลาดที่มีแนวโน้มดีสำหรับสินค้าที่นำเข้าและบริการจากทั่วโลก โดยเฉพาะสินค้าที่ผลิตโดยผู้ประกอบการจากต่างประเทศ ซึ่งเข้ามาลงทุนในคุนหมิงอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นตลาดค้าปลีกสำคัญอันดับ 1 ของจีนในขณะนี้
นอกจากนี้ ไทยและจีนยังมีการจัดทำข้อตกลงเขตการค้าเสรีไทย-จีน (Thailand-China Free Trade Area) ทำให้ไทยได้รับผลประโยชน์ทางการค้าร่วมกับจีนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการส่งออกสินค้า หรือการนำเข้าวัตถุดิบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมบางประเภทของไทยที่ยังต้องมีการพึ่งพาวัตถุดิบนำเข้าจากจีนโดยอาจมีการตั้งฐานการผลิตหรือโรงงานผลิตชิ้นส่วนในจีน ซึ่งตลอดเส้นทางการค้าถือเป็นโอกาสที่ผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะเอสเอ็มอีเข้าถึงตลาดใหม่ ๆ ที่มีศักยภาพผ่านประชากร 60 ล้านคนของไทย สู่ประชากร 250ล้านคนของ CLMVT ไปสู่ประชากรกว่า 1,300 ล้านคนของจีน จึงถือเป็นช่องทางสำคัญที่จะทำให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเติบโตและสามารถเข้าถึงช่องทางการค้าในตลาดจีนได้เป็นอย่างดี.- สำนักข่าวไทย