กทม. 31 ส.ค. – เงินดิจิทัลถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับประเทศไทย แต่มีนักลงทุนจำนวนไม่น้อยที่กล้าเสี่ยง ขณะที่เอกชนพร้อมใช้การระดมทุนด้วยเงินดิจิทัล ร่วมถอดบทเรียนการออก ICO ครั้งแรกในประเทศไทย
สำนักงานคณะกรรมการหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ออก พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อดูแลการระดมทุนด้วยการเสนอขายเหรียญดิจิทัลต่อประชาชน (ไอซีโอ) ดังนั้นบริษัทที่จะทำไอซีโอต้องได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต.เท่านั้น
“รพี สุจริตกุล” เลขาธิการ ก.ล.ต. ชี้แจงว่า ก.ล.ต.เป็นห่วงนักลงทุนกลุ่มที่ “กระโดด” เข้ามาเก็งกำไร หวังผลตอบแทนสูงๆ จากการลงทุนในเหรียญดิจิทัล ทำให้ ก.ล.ต.ต้องสกรีนตั้งแต่ต้นทาง เพื่อไม่ให้มีการหลอกลวงออกไอซีโอเถื่อน จึงต้องออก พ.ร.ก.มาดูแล อย่างไรก็ตาม แม้นักลงทุนจะลงทุนกับเหรียญดิจิทัลที่ถูกกฎหมาย แต่ยังมีความเสี่ยงอีกไม่น้อย เพราะโครงการ Startup ที่ไอเดียสวยหรู อาจจะโด่งดังหรืออาจจะฟุบระหว่างทางก็ได้ ขณะที่ราคาเหรียญดิจิทัลอาจจะผันผวน ราคาร่วง ไม่มีสภาพคล่อง เปลี่ยนมือยาก ซึ่งล้วนเป็นความเสี่ยงที่นักลงทุนต้องรับให้ได้
ในมุมของผู้ออกเหรียญดิจิทัลรายแรกของประเทศไทย นายธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เวนเจอร์ ที่ดูแลการออกเหรียญเจฟิน คอยน์ ของบริษัท เจมาร์ท เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ยอมรับว่าได้เรียนรู้จากการเป็นผู้นำร่องการออกเหรียญดิจิทัล มีทั้งความสำเร็จและปัญหาอุปสรรค โดยเฉพาะเรื่องราคาเจฟินคอยน์ที่ปรับลงต่ำกว่าราคาจอง พร้อมกันนี้ฝากเตือนนักลงทุนอย่าลงทุนตามกระแส และให้พิจารณาปัจจัยพื้นฐานของบริษัทประกอบการลงทุน อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงเดินหน้าพัฒนาระบบการปล่อยสินเชื่อผ่านดิจิทัล ซึ่งเตรียมเปิดตัวสินเชื่อ ป๋า ตุลาคมนี้
บทเรียนจากการลงทุนในกระแสความโด่งดังของเงินดิจิทัล อาจจะสร้างบาดแผลให้กับนักลงทุนกันบ้าง แต่ก็ทำให้เกิดการตื่นตัวเรียนรู้นำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในธุรกิจก่อนที่จะถูกดิสรัป ซึ่งต้องติดตามกันต่อไปเงินดิจิทัลจะฟู่ฟ่าต่อไป หรือเป็นกระแสนิยมชั่วคราว หลังมีบทเรียนให้ศึกษากันแล้ว. – สำนักข่าวไทย