สุราษฎร์ธานี 31 ส.ค.- ศาลจังหวัดเกาะสมุยออกหมายจับแล้วหญิงชาวอังกฤษแอดมินสื่อออนไลน์ “สมุย ไทม์” เสนอข้อมูลเท็จโจมตีเกาะเต่ากรณีสาวอังกฤษถูกวางยา-ข่มขืน ด้าน “พล.ต.ต.อภิชาติ” นำสำนวนคดีและหลักฐานรายงาน ผบช.ภ.8 เผยตำรวจทำครบถ้วนแล้วจนมั่นใจไม่พบมูลเหตุ เหลือเพียงเจ้าตัวนำหลักฐานมาให้พิสูจน์เพิ่มเติม
ความคืบหน้าการตรวจข้อเท็จจริงสาวอังกฤษ อายุ 19 ปี อ้างว่ามาเที่ยวเกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ถูกวางยาและข่มขืน หลังจากนั่งดื่มที่บาร์แห่งหนึ่งเมื่อคืนวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา อีกทั้งยังระบุว่าไปแจ้งกับ สภ.เกาะพะงัน เเต่ตำรวจไม่ลงข้อมูลเรื่องการข่มขืน บันทึกเพียงทรัพย์สินสูญหาย และวันนี้ (31 ส.ค.) พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ได้นำข้อมูลจากกล้องวงจรปิด และสำนวนการสอบปากคำพยานกว่า 200 ปาก ซึ่งเป็นผู้พบเห็นและอยู่บริเวณใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุ เพื่อรายงานต่อ พล.ต.ท.สรศักดิ์ เย็นเปรม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8
พล.ต.ต.อภิชาติ ให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นเฮลิคอปเตอร์ออกเดินทางจากเกาะเต่าว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาได้สอบปากคำพยานทุกคน โดยเฉพาะพยานที่ถูกกล่าวอ้างถึงในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับผู้เสียหายว่าพบเห็นนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้บ้างหรือไม่ พบเห็นในลักษณะใด มีผู้ใดอยู่ใกล้ชิดกับนักท่องเที่ยวบ้างหรือไม่ เพื่อจะนำไปให้เจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานอื่นเพิ่มเติมให้ชี้ชัดว่ามีเหตุเกิดขึ้นหรือไม่อย่างไร หลังสอบปากคำเสร็จได้เรียกประชุมทีมพนักงานสืบสวนสอบสวน รวบรวมหลักฐานทุกประเภท และสรุปสำนวนการสอบสวนเสนอ ผบช.ภาค 8 จึงมีความเห็นสามารถปิดการสอบสวนได้แล้วว่า ไม่พบเหตุการณ์ตามที่นักท่องเที่ยวกล่าวอ้างมา นอกจากเสียจากสาวอังกฤษรายนี้จะนำหลักฐานมาเสนอเพิ่มเติม
“ยืนยันว่าในส่วนของตำรวจได้ทำครบถ้วนแล้ว ทั้งตรวจสอบพยานบุคคล พยานวัตถุ กล้องวงจรปิด หลักฐานทางด้านวิทยาศาสตร์ ครบทุกประเภทแล้วมีความมั่นใจและยืนยันได้ว่าไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าว ”พล.ต.ต.อภิชาติ กล่าว
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองสุราษฎร์ธานีและเกาะสมุยได้รับคำสั่งจาก พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.สตม. ให้ตามหาตัวหญิงชาวอังกฤษ ซึ่งเป็นแอดมินและเจ้าของสื่อออนไลน์สมุย ไทม์ (Samui Time) รวมทั้งชายชาวอังกฤษที่นำเสนอข้อมูลลงในเว็ปไซด์อันเป็นเท็จลักษณะโจมตีการท่องเที่ยวเกาะเต่า โดยเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบจุดแรกในพื้นที่หมู่ 3 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย แต่ไม่พบบ้านเลขที่เป้าหมาย เนื่องจากถูกรื้อสร้างเป็นโรงแรมแล้ว จุดที่สองที่หมู่ 4 ต.มะเร็ต อ.เกาะสมุย พบนางสมบูรณ์ (นามสมมุติ) เจ้าของบ้าน แจ้งว่า เคยรู้จักบุคคลทั้งสอง แต่ได้ย้ายออกไปแล้วเมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมา แต่เมื่อต้นเดือน ม.ค. ฝ่ายชายได้กลับมาที่บ้านและเดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว ส่วนฝ่ายหญิงไม่ได้มากว่า 4 ปีแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ล่าสุดศาลจังหวัดเกาะสมุยได้อนุมัติหมายจับหญิงชาวอังกฤษแอดมินสื่อสมุยไทม์ กับพวกแล้วในความผิดฐานนำข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ มีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โทษสูงสุด 5 ปี ปรับ 100,000 บาท สำหรับหญิงชาวอังกฤษแอดมินสื่อออนไลน์นั้น อดีตมีสามีเป็นคนไทยพักอาศัยอยู่บนเกาะสมุย ประกอบธุรกิจดำน้ำ นำเที่ยว และผลิตหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษขนาดเล็ก (แทบลอยด์) ชื่อ “Samui Time” เกี่ยวกับเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว แต่ได้ปิดการจำหน่ายหนังสือพิมพ์แล้วกว่า 1 ปี เหลือเพียงสื่อออนไลน์.-สำนักข่าวไทย