พ่อแจ้งความ 2 เด็กชายทำร้ายลูกชายวัย 6 ขวบ

บุรีรัมย์ 29 ส.ค.-ตำรวจเร่งสอบข้อเท็จจริง หลังพ่อพาลูกชาย 6 ขวบแจ้งความ ถูกเด็กชายวัย 8 ขวบ และ 14 ปี ทำร้ายร่างกายและกระทำชำเรา


พนักงานสอบสวน สภ.กระสัง จังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับสหวิชาชีพสอบปากคำ เด็กชายอายุ 8 ขวบ และ 14 ปี หลังพ่อของเด็กชายวัย 6 ขวบ อีกคน พาลูกเข้าแจ้งความถูกทำร้ายร่างกายโดยใช้เชือกมัดลำตัว และกระทำชำเราทางทวารหนัก จนลูกมีอาการหวาดกลัว โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา 

ซึ่งจากการสอบปากคำเด็กชายทั้ง 2 ที่ถูกกล่าวหา เล่าให้เจ้าหน้าที่ฟังว่าในวันนั้นได้พากันไปเล่นน้ำที่ห้วยเสม็ด ซึ่งอยู่ในหมู่บ้าน และเตะฟุตบอลที่โรงเรียน แต่ด้วยความคึกคะนอง เด็กชายวัย 8 ขวบ และ 14 ปี ได้ช่วยกันใช้เชือกมัดและปิดตา เด็กชายวัย 6 ขวบ และบังคับให้เดินออกจากสนามฟุตบอล ไปยังศาลาข้างเมรุภายในวัดที่อยู่ติดกับโรงเรียน แล้วทำการถอดเสื้อผ้าเด็กชายวัย 6 ขวบจริง แต่ไม่ได้กระทำชำเรา กระทั่งตกเย็นจึงได้แก้เชือกที่มัดออกแล้วนำเชือกไปเผาทำลาย ที่บริเวณเตาเผาขยะภายในวัด ก่อนแยกย้ายกันกลับบ้าน


ด้านพันตำรวจเอกสุชาติ ละลี ผู้กำกับการ สภ.กระสัง เปิดเผยว่า จากการส่งตัวเด็กชายวัย 6 ขวบ ไปตรวจร่างกายพบมีรอยเชือกรัดบริเวณหน้าอกและต้นขาซ้าย ส่วนบริเวณทวารหนัก ที่ผู้ปกครองแจ้งว่า ถูกกระทำชำเรานั้น ขณะนี้ยังต้องรอผลตรวจจากทางโรงพยาบาลว่ามีร่องรอยถูกกระทำชำเราหรือไม่ ซึ่งขณะนี้เด็กยังอยู่ที่โรงพยาบาล ทั้งนี้ได้สั่งการให้ชุดสืบสวน ลงพื้นที่สอบสวนผู้เกี่ยวข้องเพื่อหาข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย