11 สภาวิชาชีพ ค้าน 4 มาตรา ร่างพ.ร.บ.การอุดมศึกษาฯ

กรมประชาสัมพันธ์ 29 ส.ค.-11สภาวิชาชีพค้าน มาตรา 64 มาตรา 65 มาตรา 66 และมาตรา 48 ร่าง พ.ร.บ.การอุดมศึกษา พ.ศ…. ที่กำหนดให้สภาวิชาชีพไม่เข้าไปรับรองการจัดการศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา เหตุห่วงใยการประกันคุณภาพการศึกษา ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของคนในประเทศ และอาจขัดต่อกฎหมายสภาวิชาชีพ


สมาพันธ์สภาวิชาชีพเเห่งประเทศไทย ประกอบด้วย 11 สภาวิชาชีพ ได้แก่ เเพทยสภา สภาการพยาบาล สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ สภาเภสัชกรรม ทันตแพทยสภา สภาวิศวกร สภาสถาปนิก สัตวเเพทยสภา สภาเทคนิคการเเพทย์ สภากายภาพบำบัดและสภาวิชาชีพบัญชีในพระบรมราชูปถัมภ์เเถลงข่าว เรื่อง(ร่าง)พระราชบัญญัติการอุดมศึกษา พ.ศ….ผลกระทบต่อชีวิตเเละสวัสดิภาพของประชาชนไทย ภายหลังมีมติคณะรัฐมนตรี เห็นชอบให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา รับร่างพระราชบัญญัติการอุดมศึกษา พ.ศ….ที่กระทรวงศึกษาเสนอ ไปพิจารณาพร้อมกับร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทาวง ทบวง กรมพ.ศ….ที่ ก.พ.ร.เสนอ


นายทัศไนย ไชยเเขวง อุปนายกสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า สมาพันธ์วิชาชีพแห่งประเทศไทยเห็นด้วยกับการปฏิรูปการศึกษาในครั้งนี้ เเต่มีความกังวลว่าบางมาตราในร่าง พ.ร.บ.การอุดมศึกษา พ.ศ….ก้าวล่วงมาในอำนาจหน้าที่ของสภาวิชาชีพ ซึ่งจะทำให้นักศึกษาอาจมีปัญหาเรื่องการสอบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ โดยเฉพาะมาตรา 64 มาตรา 65 มาตรา 66 และมาตรา 48 ซึ่งมาตรา 64 , 65 และ 66 คือ ห้ามมิให้สภาวิชาชีพมีอำนาจในการรับรอง หรือกำหนดการจัดการเรียนการสอนในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับสภาวิชาชีพนั้นของสถาบันอุดมศึกษา และมีให้ออกข้อบังคับหรือหลักเกณฑ์เพื่อจะเตรียมการประกอบอาชีพ ทำได้เพียงแต่จัดการประเมินความรู้และทักษะในการประกอบวิชาชีพนั้นแก่ผู้สำเร็จการศึกษา เพื่อประกอบอาชีพที่สภาวิชาชีพนั้นควบคุมอยู่ ซึ่งหมายถึงการสอบขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบวิชาชีพ จากกฎหมายเดิมกำหนดในกฎหมายเพื่อเป็นหลักประกันที่จะรับรองว่านักศึกษาจะมีความรู้เพียงพอที่จะสอบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพได้ในอนาคต เเละตรวจสอบการจัดการศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาเพราะไม่อยากให้การผลิตบัณฑิตสูญเปล่า จนสุดท้ายเด็กอาจสอบใบประกอบวิชาชีพไม่ได้ สมาพันธ์จึงเห็นว่าหากมีการใช้ พ.ร.บ.การอุดมศึกษา จะมีผลกระทบตามมาคือจะไม่มีการประกันคุณภาพการศึกษาที่มีประสิทธิภาพ และเมื่อนักศึกษาสำเร็จการศึกษาจากสถาบันแล้วจะไม่มีหลักประกันว่าจะสามารถสอบวัดความรู้ผ่านเพื่อรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพได้ ซึ่งผู้ที่สอบความรู้ไม่ผ่านจะไม่สามารถประกอบวิชาชีพได้ตามกฎหมาย เป็นการสูญเสียทรัพยากรของชาติ ส่งผลให้คุณภาพมาตรฐานของผู้ประกอบวิชาชีพต่ำลง อาจทำให้เกิดผู้ประกอบวิชาชีพที่ไม่มีใบอนุญาตแอบแฝงและเกิดการประกอบวิชาชีพอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งท้ายที่สุดจะทำให้แผนการพัฒนาบุคลากรด้านการประกอบวิชาชีพที่รัฐบาลวางแผนระดับชาติไว้ล้มเหลว เกิดผลกระทบต่อประชาชน เศรษฐกิจ และสังคม ในระยะยาว

          


ขณะที่มาตรา 48 ระบุว่าสถาบันอุดมศึกษามีหน้าที่ในการให้บริการทางวิชาการและวิชาชีพ และให้คำปรึกษาทางวิชาการและวิชาชีพแก่สังคมภายนอกสถาบันอุดมศึกษา จากเดิมให้อำนาจสถาบันอุดมศึกษาให้บริการด้านวิชาการเท่านั้น ตรงนี้สมาพันธ์เห็นว่าการให้บริการทางวิชาชีพและให้คำปรึกษาทางวิชาชีพ มิใช่ หน้าที่และอำนาจของสถาบันอุดมศึกษา ตามบทบัญญัติตามมาตรา 37(3) ดังนั้นย่อมก่อให้เกิดความขัดแย้งในการบังคับใช้กฎหมายเมื่อสถาบันกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายสภาวิชาชีพ เพราะเมื่อสถาบันการศึกษาไปให้บริการหรือคำปรึกษางานทางวิชาชีพที่เข้าข่ายเป็นการทำสัญญารับจ้างโดยไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ถือเป็นการกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายสภาวิชาชีพนั้นๆ

ดังนั้น จึงขอแสดงจุดยืนคัดค้าน มาตรา 64 มาตรา 65 มาตรา 66 และมาตรา 48 แห่งร่างพระราชบัญญัติการอุดมศึกษา พ.ศ. ….. เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตและสวัสดิภาพของประชาชนไทย

ด้านทพ.ไพศาล กังวลกิจ นายกทันตแพทยสภา กล่าวว่า ทั้ง 4 มาตราเเห่งพ.ร.บ.อุดมศึกษาที่กล่าวไปข้างต้น หากมีการประกาศใช้จะทำให้มาตรฐานวิชาชีพตกต่ำลง คุณภาพการศึกษาของนักศึกษาเเละเเรงงานของประเทศจะเเย่ลง เพราะไม่ให้สภาวิชาชีพเข้าไปคุ้มครองการศึกษาของนักศึกษา โดยเฉพาะการเรียนการสอนด้านสาธารณสุข ทั้งสายการเเพทย์ เภสัชกรเเละพยาบาล เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตคน หากไม่ได้คนที่มีคุณภาพเข้ามาทำงาน ชีวิตคนในประเทศก็จะเสี่ยงเเละจะไม่ได้รับความปลอดภัยในชีวิต จึงยืนยันว่า พ.ร.บ.ใหม่ โดยเฉพาะใน4 มาตราดังกล่าว มีความเสี่ยงต่อคุณภาพชีวิตคนในประเทศ หากไม่ให้สภาวิชาขีพเข้าไปช่วยดูระบบการจัดการศึกษา

ขณะที่ พล.ร.อ.ฐนิธ กิตติอำพล นายกสภาสถาปนิก  กล่าวเสริมว่า อดีตไทยพบปัญหามาตลอดว่ามหาวิทยาลัยที่จัดการเรียนการสอนโดยไม่มีคุณภาพ ไม่ได้มาตรฐานตามที่สภาวิชาชีพกำหนด นักศึกษาจบมาจะได้รับเเค่ใบปริญญาเเต่ไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ทำงานเฉพาะด้านที่ศึกษามาไม่ได้  จึงอยากเสนอว่าในมาตรา 48 เเห่งพ.ร.บ.การอุดมศึกษาพ.ศ.ที่ระบุให้สถาบันอุดมศึกษามีหน้าที่ในการให้บริการทางวิชาการและวิชาชีพ ให้ตัดคำว่าวิชาชีพออก .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก