เร่งปลดล็อคปัญหาไอยูยู

ทำเนียบฯ  28 ส.ค. – “บิ๊กฉัตร” เร่งปลดล็อคปัญหาประมงไอยูยู ประกาศเรือทำประมงไทยถูกกฎหมาย 10,743 ลำ สั่งฝัง “เรือผี”  ดีเดย์ 1 กันยาเริ่มรื้อทำลายซากเรือประมง 779 ลำ


พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ว่า การแก้ไขปัญหาประมงไอยูยูขณะนี้มีความก้าวหน้าตามแผนงานที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะความชัดเจนด้านการบริหารจัดการกองเรือประมงที่เป็นปัญหาสะสมเรื้อรังมายาวนาน ไม่ทราบจำนวนเรือประมงที่แน่นอนของประเทศไทย นับตั้งแต่ที่เข้ามารับผิดชอบการแก้ไขปัญหาประมงไอยูยูตั้งแต่เดือนเมษายน 2559 ได้สั่งให้มีการจัดทำอัตลักษณ์เรือประมงทุกลำ รวมทั้งสำรวจติดตามเรือประมงที่จม ชำรุด หาย ขายไปต่างประเทศ โดยระดมกำลังจากหลายฝ่ายทั้งจากศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) กระทรวงมหาดไทย กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กรมเจ้าท่า กรมประมง และสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย ร่วมประสานงานติดตามตรวจสอบเรือประมงทุกลำ ซึ่งขณะนี้ได้ผลยืนยันชัดเจนแล้วว่าปัจจุบันประเทศไทยมีเรือที่เกี่ยวข้องกับการทำประมงถูกต้องตามกฎหมาย 10,743 ลำ 

ขณะเดียวกันที่ประชุมยังรับทราบผลการตรวจสอบจำนวนซากเรือต่าง ๆ ที่ผุผัง กีดขวางทางน้ำ หรือทางเดินเรือในพื้นที่ 22 จังหวัดชายทะเลจากกรมเจ้าท่าว่ามีจำนวนทั้งสิ้น 779 ลำ ซึ่งได้ประกาศให้เจ้าของเรือมาแสดงตนเพื่อรื้อทำลายเรือภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2561 นั้น โดยขณะนี้พบว่ามีซากเรือ 457 ลำ จะครบกำหนด 30 วัน ในวันที่ 31 สิงหาคม 2561 ซากเรือดังกล่าวจะต้องถูกดำเนินการตามมาตรา 121 ของ พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย โดยเจ้าของซากเรือลำใดที่เข้ามาแสดงตนจะต้องทำลายซากเรือของตนเอง หากลำใดไม่มีเจ้าของเข้ามาแสดงตนได้สั่งการให้กรมเจ้าท่ารื้อทำลายซากเรือเหล่านั้นได้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2561 เป็นต้นไป ขณะที่ซากเรือที่เหลืออีก 322 ลำนั้นจะครบกำหนดให้เจ้าของมาแสดงตน 30 วัน ในวันที่ 16 กันยายน 2561 กรมเจ้าท่าจะปฏิบัติเช่นเดียวกัน โดยเริ่มทำลายซากเรือตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2561 ต่อเนื่องไปจนเสร็จสิ้นทั้งหมด


“การรื้อทำลายซากเรือครั้งนี้เป็นการกวาดล้างและกำจัดปัญหาเรือผี เรือสวมทะเบียนให้หมดสิ้นไปจากน่านน้ำไทย เพราะที่ผ่านมามีการใช้ซากเรือเหล่านี้ไปสวมเรืออีกลำหนึ่งแล้วลักลอบออกทำการประมงผิดกฎหมาย ทำให้เกิดความเสียหายต่อการทำประมงของประเทศไทยมาโดยตลอดและเป็นช่องทางการทุจริต คอร์รัปชั่นของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งไม่มีรัฐบาลใดกล้าเข้ามาจัดการปัญหาตรงนี้ แต่รัฐบาลนี้กล้าทำในสิ่งที่ถูกต้องเพื่อความยั่งยืนในการทำประมงของประเทศ และจะเดินหน้าทำอย่างนี้ต่อไปไม่ให้เกิดปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายมาทำลายความเชื่อมั่นต่อการผลิตสินค้าประมงไทย และที่สำคัญคือการคงไว้ซึ่งการทำการประมงที่ยั่งยืนให้ชาวประมง และอุตสาหกรรมประมงไทยเกิดความมั่นคงต่อไปในอนาคต” พลเอกฉัตรชัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชิงทอง

สอบเครียด! คนร้ายชิงทอง 113 บาท สารภาพเอาไปจำนำบางส่วน

สอบเครียดทั้งคืน ผู้ต้องหาชิงทอง 113 บาท รับสารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน ซื้อเบ้าหลอมเพื่อให้ยากต่อการติดตามของตำรวจ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด

ข่าวแนะนำ

5ตัวประกันถึงไทย

5 ตัวประกันถึงไทยแล้ว ปล่อยโฮโผกอดครอบครัว

5 ตัวประกันถึงไทยแล้ว ปล่อยโฮโผเข้ากอดครอบครัวด้วยความดีใจ “ทูตอิสราเอล” ก็มาส่งด้วย น้ำตาคลอคุยครอบครัวตัวประกัน “มาริษ” สัญญาจะนำอีก 1 คน และ 2 ร่างผู้เสียชีวิตที่เหลือกลับมาให้ได้ ด้าน 1 ในตัวประกัน พูดไม่ออก ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ทำให้ได้กลับแผ่นดินแม่

ไทยตอนบนอุณหภูมิลด 1-3 องศาฯ อีสานอากาศเย็นถึงหนาว

กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบนอุณหภูมิลดลง 1-3 องศาฯ กับมีลมแรง อีสานอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคเหนือ กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตะวันออก และภาคใต้ตอนบน อากาศเย็นตอนเช้า ส่วนภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

ทำแผนชิงทอง

คุมทำแผนโจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท

คุมตัวทำแผน โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท ในห้างฯ ย่านลำลูกกา สารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน และซื้ออุปกรณ์หลอมทองเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่