นายกฯเปิดโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรล

กรุงเทพฯ 27 ส.ค.- “พล.อ.ประยุทธ์” เป็นประธานเปิดการก่อสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรล 2 สายแรกของประเทศไทย สายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – สำโรง และสายสีชมพู ช่วงแคราย- มีนบุรี คาดเปิดใช้บริการได้ในปี 2564  แจงรีบก่อสร้างเพื่อลดผลกระทบด้านการจราจรให้ประชาชน อย่ามองว่ามีการทุจริต


หมวดทางหลวงศรีนครินทร์  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเริ่มการก่อสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรล หรือ ระบบรางเดี่ยวแบบยกระดับ 2 สายแรกของประเทศไทย ประกอบด้วย โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง หลังจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย  (รฟม.) ดำเนินการส่งมอบพื้นที่ให้ผู้รับสัมปทานเข้าไปดำเนินโครงการก่อสร้าง  โดยรถไฟฟ้าโมโนเรลในระบบขนส่งมวลชนส่วนใหญ่ จะเป็นรถไฟล้อยาง วิ่งอยู่บนรางคอนกรีต มีต้นทุนการก่อสร้างถูกกว่ารถไฟฟ้าขนาดใหญ่ทั่วไป เนื่องจากมีน้ำหนักเบา และ บรรจุผู้โดยสารได้น้อยกว่า ซึ่งรถไฟฟ้าทั้ง 2 สาย เป็นสายรองที่มุ่งเน้นการเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายหลัก เมื่อประมาณการจากจำนวนผู้โดยสารแล้ว  ระบบโมโนเรลมีความคุ้มค่ามากกว่าการสร้างรถไฟฟ้าขนาดใหญ่  

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า  รัฐบาลต้องหาวิธีการ เพื่อที่จะทำให้การจราจรในกรุงเทพมหานครลื่นไหล โดยที่ทุกฝ่ายต้องช่วยเหลือกัน ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและบ้านเมือง  ซึ่งทั้ง 2 เส้นทางนี้เป็นหนึ่งในโครงการผลักดันโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ที่มุ่งหวังเชื่อมต่อการสัญจรในเขตกรุงเทพและปริมณฑล ให้เกิดความต่อเนื่อง กับระบบล้อ ราง เรือ เพื่อลดปัญหาการจราจร จึงขอทุกฝ่ายอย่ามองแต่เรื่องของผลประโยชน์หรือปัญหาทุจริต รัฐบาลพร้อมตรวจสอบ หากมีการร้องเรียนในทุกประเด็น  นอกจากนี้อยากให้กระทรวงคมนาคมไปดูรายละเอียดเกี่ยวกับการเวนคืนที่ดินให้เกิดความเหมาะสมด้วย


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในระหว่างการก่อสร้าง ต้องเร่งทำความเข้าใจและ ทยอยลดพื้นที่การก่อสร้าง เพื่อลดผลกระทบกับประชาชน เพราะทุกพื้นที่มีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย มีทั้งผู้ที่ได้ใช้บริการและไม่ได้ใช้บริการ หากเกิดปัญหาก็จะเกิดเสียงสะท้อนโต้กลับมายังรัฐบาล และ อาจเกิดการต่อต้านจากผู้เห็นต่าง ขอให้การก่อสร้างทั้ง 2 โครงการสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี และ เจ้าหน้าที่ทุกคนปลอดภัย ขอให้โครงการนี้เป็นตัวอย่างของความร่วมมือระหว่างภาครัฐบาลและเอกชน (Public-Private Partnership : PPP)  ที่เกิดขึ้นในประเทศนี้ เนื่องจากรัฐบาลไม่สามารถดำเนินการ หรือ ลงทุนแต่เพียงฝ่ายเดียวได้เองทั้งหมด

“ไม่มีใครทำอะไรถูกใจใครทั้งหมดแต่ผมจะทำอย่างเต็มที่ พร้อมกับรับฟังให้มากที่สุด และคาดหวังรัฐบาลหน้าจะทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามหลักที่วางไว้  แต่ที่ผ่านมา ไม่ได้ว่าใครทำถูกหรือผิด เพราะเป็นเรื่องของกระบวนการของประชาธิปไตย ซึ่งต้องปรับให้เหมาะสมกับบริบทของประเทศ และขอให้ทุกรัฐบาลใช้งบประมาณตามพ.ร.บ.งบประมาณ ต้องดำเนินการให้ถูกต้องเหมาะสม วันหน้าจะได้ไม่ต้องมีปัญหาในเรื่องนี้อีก  ตนไม่ก้าวล่วงอำนาจบริหารใครทั้งสิ้น แต่จะต้องทำให้โครงการและงานต่าง ๆ ประสบความสำเร็จ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ทำพิธีกดปุ่ม เพื่อเทคอนกรีตลงสู่ฐานราก ถือว่าเป็นสัญลักษณ์เริ่มการก่อสร้างโครงการการก่อสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรล 2 สายแรกของประเทศไทย ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง อย่างเต็มรูปแบบ สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย- มีนบุรี ระยะทางประมาณ 34 กิโลเมตร จำนวน 30 สถานี ตามแผนเปิดให้บริการปี 2564 เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จคาดการณ์จะมีผู้โดยสารใช้บริการประมาณ 120,000 คน -เที่ยวต่อวัน ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – สำโรง ระยะทาง 30 กิโลเมตร จำนวน 23 สถานี เปิดให้บริการปี 2564 เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จคาดการณ์จะมีผู้โดยสารใช้บริการประมาณ 220,000 คน – เที่ยวต่อวัน ซึ่งทั้ง 2 โครงการเป็นหนึ่งในแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนทางรางในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล หรือ M-MAP ระยะที่ 1 .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม