บุกจับแผงค้ายาเสียสาวย่านนานา รวบผู้ต้องหา 7 คน

กรุงเทพฯ 27 ส.ค. – ตำรวจบุกจับร้านแผงลอยจำหน่ายยาเสียสาวนับสิบร้าน ย่านนานา พร้อมจับกุมผู้ต้องหา 7 คน บางรายไหวตัวทันทิ้งร้านหลบหนี



เมื่อเวลา 21.00 น. วานนี้ (26 ส.ค.) พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำกำลังตำรวจ สน.ลุมพินี และตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) ลงพื้นที่จับกุมร้านค้าที่จำหน่ายยาเสียสาว ย่านนานา ตั้งแต่ซอยสุขุมวิท 13 ถึงซอยสุขุมวิท 7/1 รวม 12 ร้านค้า ยึดของกลางยาเสียสาว ยาเสริมสมรรถภาพทางเพศ อุปกรณ์เซ็กซ์ทอย จำนวนมาก พร้อมจับกุมผู้ค้าที่จำหน่ายสินค้า รวม 7 คน โดยร้านค้าที่ขายยาดังกล่าวมักจะตั้งขายเป็นแผงอยู่ริมถนน ขณะที่มีร้านบางส่วนไหวตัวทัน ผู้ค้าทิ้งแผงหลบหนีไป


การเข้าจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียนปัญหาเรื่องที่มีวัยรุ่นใช้ยาเสียสาวผสมเครื่องดื่มให้เหยื่อดื่มกินตามสถานบันเทิง เพื่อหวังมีเพศสัมพันธ์ เบื้องต้นพบข้อมูลว่า มียาดังกล่าววางจำหน่ายในพื้นที่ย่านนานา โดยผลการสอบสวนผู้ค้าส่วนใหญ่ยอมรับว่า มีการนำยาจำหน่ายให้กับลูกค้า ทั้งคนไทยและต่างชาติ แต่ปฏิเสธเรื่องแหล่งที่มาของสินค้า อ้างว่ามีผู้จ้างให้นำมาจำหน่ายเท่านั้น ขณะเดียวกันได้ตั้งข้อสังเกตรายละเอียดบนแผงยาว่า อาจมีการนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งอาจมีนายหน้าชาวต่างชาตินำมาขายส่งให้กับกลุ่มผู้ค้า โดยหลังจากนี้จะให้ตำรวจ ปคบ. ดำเนินการขยายผลหาแหล่งที่มาต่อไป และนอกจากทั้ง 12 จุดดังกล่าว ฝ่ายสืบสวนยังนำกำลังเข้าตรวจสอบร้านจำหน่ายยาเสียสาว ย่านคลองถม 1 ร้าน พร้อมยึดของกลางได้อีกจำนวนหนึ่ง จากนั้นได้รวบรวมของกลางที่ยึดได้ทั้งหมดไปยัง สน.ลุมพินี เพื่อตรวจสอบและแยกประเภท 


พล.ต.อ.วิระชัย ได้นำตัวอย่างยาที่ยึดได้ ที่เรียกว่า ทิงเจอร์ขาว หรือในวงการเรียกว่า แมลงวันสเปน หรือยาเสียสาว มาสาธิตให้ดูว่า เมื่อนำไปผสมเครื่องดื่มแล้ว จะไม่มีรส กลิ่น สี ทำให้ยากต่อการสังเกต ซึ่งปกติให้ม้ากินเพื่อผสมพันธุ์ แต่วัยรุ่นบางส่วนนำยามาผสมในเครื่องดื่มให้สาวๆ ดื่มในสถานบันเทิง ซึ่งไม่มีกลิ่น ไม่มีรส เมื่อรับประทานไปแล้วจะส่งผลให้ผู้หญิงมีอารมณ์ทางเพศสูง และจะถูกผู้ชายพาไปล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งยาดังกล่าวเป็นยาออกฤทธิ์ทางประสาท ประเภท 2 หากนำไปให้ผู้ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะรับประทาน จะมีโทษจำคุก 3 ปี ถึงตลอดชีวิต พร้อมฝากเตือนหญิงสาวทุกรายให้ระมัดระวังเรื่องการเที่ยวสถานบันเทิง ดื่มเครื่องดื่มทุกประเภทจากคนแปลกหน้า หรือคนที่ไม่สนิทสนม

การจับกุมครั้งนี้ เพื่อกวาดล้างสร้างความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวผู้หญิง ทั้งคนไทยและต่างชาติ สำหรับผู้ต้องหา เบื้องต้นมีความผิดตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ. 2510 แจ้งข้อหาขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 12 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 บาท และข้อหาขายยาที่มิได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา มาตรา 72 (4) มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พร้อมนำส่งของกลางทั้งหมดไปตรวจพิสูจน์ ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

“อ.แจ็คพันศพ” ถูกเปลวไฟพุ่งใส่ขณะเผาศพ

“อาจารย์แจ็คพันศพ” สัปเหร่อและหมอผีชื่อดัง จ.บุรีรัมย์ ถูกเปลวไฟพุ่งใส่ขณะวางดอกไม้จันทน์เผาศพ ไฟลวกทั่วร่างกาย ต้องหามส่งโรงพยาบาล  เจ้าตัวงง! เผาศพมาเป็นพัน ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 30%

กรมอุตุฯ เตือนภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนโดยทั่วไป โดยมีฝนฟ้าคะนอง 30%

ตำรวจเร่งกวาดล้างแก๊งไทใหญ่ 999

กรณีแก๊งไทใหญ่ 999 ไล่ฟันหนุ่มกะเหรี่ยง ย่านห้วยขวาง ตำรวจยอมรับมีกลุ่มต่างด้าวกระทบกระทั่งกันในพื้นที่ เร่งพิสูจน์รวมแก๊งลักษณะอั้งยี่-ซ่องโจร หรือไม่ พร้อมลั่นดำเนินคดีไม่ละเว้น

ผู้การอยุธยา สั่งสอบ ตร. เก็บส่วยร้านอาหาร

แฉคลิปเสียงชายอ้างเป็นตำรวจ เรียกเก็บเงินรายเดือนจากร้านอาหาร พอปฏิเสธถูกลงตรวจถี่ยิบ ล่าสุด ผู้การฯ อยุธยา สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงด่วน

ปิด “จุดชมวิวภูชี้ฟ้า” ชั่วคราว เหตุเสียงปืนดังข้ามแดน-กระสุนตกใส่หลังคาบ้าน

อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า (เตรียมการ) ประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวจุดชมวิวภูชี้ฟ้า ชายแดนไทย-สปป ลาว อำเภอเวียงแก่น และอำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว หลังเกิดเสียงปืนดังข้ามแดน และพบกระสุนตกใส่บ้านเรือนประชาชน