กทม. 23 ส.ค. – หลังมีการเสนอปรับแก้กฎหมายเพิ่มโทษและค่าปรับกับผู้ใช้รถที่ไม่มี หรือไม่พกใบขับขี่ ทำให้วันนี้ผู้ใช้รถหลายคนไม่ลืมที่จะพกใบขับขี่ออกจากบ้าน แม้กฎหมายใหม่จะยังไม่บังคับใช้ แต่หลายคนกังวลกับค่าปรับที่สูงขึ้นถึงหลักหมื่นบาท
คนขับรถแท็กซี่คนนี้เคยถูกตำรวจเปรียบเทียบปรับ 400 บาท ฐานไม่พกใบอนุญาตขับรถ หรือใบขับขี่ ขณะขับรถไปส่งผู้โดยสารย่านสาทร กรุงเทพฯ เขาเล่าว่า แม้จะยอมรับว่าผิดที่ลืมใบขับขี่ แต่ค่าปรับหลักร้อยบาท ทำให้คนขับรถแท็กซี่อย่างเขาที่มีรายได้เพียง 500 บาทต่อวัน เดือดร้อนไม่น้อย และยิ่งทำให้กังวลมากขึ้นเมื่อทราบว่ากำลังมีการเสนอปรับแก้กฎหมายเพิ่มโทษและค่าปรับกับคนที่ขับรถโดยไม่มีหรือไม่พกพาใบขับขี่ สูงสุดถึงหลักหมื่นบาท
กระแสการเพิ่มโทษกับคนที่ไม่มีหรือไม่พกใบขับขี่ ทำให้คนที่ขับรถในวันนี้ไม่ลืมที่จะพกใบขับขี่ออกจากบ้าน แม้ว่าจะยังไม่มีการบังคับใช้กฎหมายใหม่ในขณะนี้
กรมการขนส่งทางบกเสนอปรับแก้กฎหมาย 2 ฉบับ เพื่อรวมเข้าด้วยกันคือ พ.ร.บ.รถยนต์ และ พ.ร.บ.การขนส่งทางบก หวังเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมและกำกับผู้ใช้รถและปรับเพิ่มบทลงโทษกับผู้กระทำผิดกฎจราจรหากไม่มีใบขับขี่ จากเดิมมีโทษจำคุก 1 เดือน ปรับสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท เป็นจำคุก 3 เดือน ปรับสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท หากขับรถโดยใบขับขี่หมดอายุ หรือไม่แสดง ไม่พกใบขับขี่ ก็มีการปรับเปลี่ยนโทษปรับและจำคุกด้วย
ผู้ใช้รถระบุว่า หากกฎหมายใหม่มีผลบังคับใช้ ก็พร้อมยอมรับและปฏิบัติตามหากทำผิด แต่ตั้งข้อสังเกตถึงจำนวนเงินค่าปรับที่เพิ่มขึ้นว่าอาจมีความไม่ชัดเจนในบางกรณี เพราะการเปรียบเทียบปรับเป็นดุลพินิจของผู้บังคับใช้กฎหมาย
ขณะที่ผู้ใช้รถบางคนระบุว่า ใบขับขี่เป็นสิ่งที่ต้องพกติดตัวทุกครั้งที่ขับรถ และหากกลัวลืมจะเก็บไว้ในรถ แต่อยากเสนอให้รัฐออกแบบใบขับขี่ในรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น เช่น นำข้อมูลบัตรเก็บไว้ในโทรศัพท์มือถือ
ข้อมูลจากกรมการขนส่งทางบกเมื่อเดือนที่แล้วพบว่า ออกใบอนุญาตขับรถทุกประเภท รวมกว่า 32 ล้านใบ ขณะที่จำนวนรถจดทะเบียนสะสมมีกว่า 39 ล้านคัน ผู้ใช้รถส่วนใหญ่ให้ความเห็นว่า การเพิ่มโทษปรับเกี่ยวกับการไม่พกใบขับขี่ อาจทำให้ผู้ใช้รถขับรถได้ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น แต่ไม่ได้ส่งผลโดยตรงต่อการช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนนหรือสร้างวินัยจราจร. – สำนักข่าวไทย